หล่อใส นิ่งเงียบ พูดน้อย คีพลุค นั่นคือสิ่งที่เราเห็นแค่ในรูปก่อนที่จะได้เจอตัวจริง อิน-สาริน รณเกียรติ เมื่อได้พบปะพูดคุยกัน บอกตามตรงว่าเรารู้เลยว่าทำไมหนุ่มคนนี้ถึงมีแฟนคลับเยอะ เพราะสิ่งที่เราคิดไว้ในตอนแรกตรงข้ามกับความเป็นจริงในทุกอย่าง หนุ่มคนนี้มีความเฟรนลี่ ช่างพูดช่างคุย ตรงไปตรงมา ทำให้คนรอบข้างหัวเราะ ทำให้คนที่คุยด้วยรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

สัปดาห์นี้ สวัสดีแคมปัส จะพาไปทำความรู้จักกับหนุ่ม Cute Boy ที่ฮอตที่สุดในแฟนเพจ Chula Cute Boy เราได้นัดเจอกันในวันที่หนุ่มหน้าใสคนนี้เรียนแอ็กติ้ง เตรียมพร้อมสู่การเป็นนักแสดงเต็มตัว เจอกันครั้งแรกเรียกได้ว่าสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบได้เป็นอย่างดี จากความหล่อดูดีออร่ากระจายที่เราบอกเลยว่าผู้หญิงคนไหนได้เห็นเป็นต้องใจสั่นอย่างแน่นอน 'สาริน' คุณแม่ตั้งให้แปลว่า 'ผู้เป็นใจกลางของทุกสิ่ง’ แต่สารินในกูเกิลแปลว่า 'แม่น้ำ' ทั้งสองความหมายดูแล้วไม่ไกลตัวจากหนุ่มคนนี้สักเท่าไร

...

cute boy ทุกสถาบัน

คือถ้าให้ย้อนไปตั้งแต่สมัยมัธยมเลยอะครับ เราอยู่ในเพจ cute boy มาตลอดเลย ตอนอยู่คริสเตียนเราก็อยู่ bbc cute boy พอขึ้น ม.ปลาย ก็อยู่ในเพจ Jaturamitr Cuteboy พอมาอยู่มหาวิทยาลัยก็มาอยู่ chula cute boy 

เสน่ห์ล้น ‘อิน สาริน’ มีดีตรงไหน

คิดว่าน่าจะเป็นคนเข้าถึงง่ายนะครับ เพราะว่าถ้าเจอตัวจริงกันแล้วผมค่อนข้างเฟรนลี่ open แล้วเราก็ไม่ได้วางตัวอะไรมากมายครับ

...

หนุ่มฮอตจุฬา

ไม่ขนาดนั้นครับ (รู้สึกยังไงถ้ามีคนบอกว่าเราเป็นหนุ่มฮอต?) เมื่อก่อนเขินๆ นะครับพอเริ่มมีรุ่นน้องแฟนคลับ คนที่อยากเข้าจุฬาฯ เพราะว่าเห็นเราเป็นแรงบันดาลใจมากขึ้น เราก็รู้สึกโอเค เราเริ่มที่จะรู้ว่าถ้าเราสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้คนได้ เราควรจะทำตัวยังไง จริงๆ ผมไม่อยากให้คนติดตามแค่รูปลักษณ์ภายนอก ต้องตั้งใจเรียนมากขึ้น ทำตัวอย่างให้ดีมากขึ้นด้านการเรียนด้วยครับ

ผลงาน

ตอนนี้ผมกำลังซุ่มเรียนแอ็กติ้งอยู่ครับ แต่มีผลงานที่ผ่านมาก็เคยเป็นดีเจของ get 102.5 คือจริงๆ ผมเป็นคนชอบฟังเพลงมากอยู่แล้ว อีกอย่างเราอยากจะฝึกทำงานเกี่ยวกับด้านการพูดก่อนที่จะไปลงการแสดง ผมรู้จักกับ พี่แพร-พิมพิศา จิราธิวัฒน์ เพราะเป็นพี่สายรหัสกัน จัดรายการเพลงอยู่คลื่น Get 102. ตอนนั้นเขาหาดีเจหน้าใหม่พี่แพรก็เลยชวนเข้ามาเทสต์และผมทำได้ เราก็อยากลองทำดู อย่างที่บอกชอบเพลงอยู่แล้ว ชอบพูดอยู่แล้ว ลองไปทำดูอยู่ครึ่งปีครับ

...

อนาคตในวงการบันเทิง

จริงๆ นี่ก็ใกล้เรียบจบแล้ว เรียนปี 4 ค่อนข้างชิล ผมก็เริ่มเก็บเกี่ยวเริ่มรับงาน ที่ผ่านมามีคนชวนไปเล่นซีรีส์ หรืองานแสดงตลอด แต่ตอนนั้นเราอยากทุ่มให้กับการเรียนก่อน จริงๆ ที่เคยปฏิเสธไปทั้งหมด เราอยากเล่นหลายๆ เรื่องมากเลย แต่เรารู้ว่าการเรียนมันหนักจริงๆ เรารู้ว่าถ้าเราเอาความอยากเป็นหลักแล้ว ถ้าสุดท้ายเรารับไปแล้วมาติดเรียน หรือธุระส่วนตัว มันอาจจะทำให้กองเขาหรือหนังเขาเดินช้าเราก็เลยรู้สึกว่าอดไว้ก่อนดีกว่า เราตั้งใจเรียนในมหาวิทยาลัยไปด้วย แล้วเรียนการแสดงไปด้วย พอถึงเวลาก็ค่อยๆ รับงาน ซึ่งตอนนี้ผมรับงานได้แล้วครับ

ยังไม่ได้เป็นนักแสดง แต่แฟนคลับเยอะจนมีการจัดแฟนมีต?

ใช่ครับ (ทำไมถึงไปจัดได้) ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณทางสปอนเซอร์ที่เขาจัดให้ แล้วก็ด้วยความที่อยากมีอะไรสักอย่างนึงในรูปแบบที่เหมือนกับให้เรากับเขา(แฟนคลับ)ได้ทำอะไรด้วยกันได้ เราก็เลยคิดว่าเป็นอะไรง่ายๆ ที่ทุกคนเล่นด้วยกันได้ ก็คือโบว์ลิ่งงี้อะครับ แฟนคลับก็เล่นได้ เราก็เล่นได้ ก็เลยลองดูครั้งแรก ไปจัดแฟนมีตพบเจอกันแล้วก็เล่นโบว์ลิ่งกัน ก็ผ่านไปด้วยดีครับ แฮปปี้มากๆ

...

หนุ่มสถาปัตย์ ผู้รักการออกแบบบ้าน

ตอนนี้ผมเรียนอยู่ปี 4 คณะสถาปัตย์ จุฬาฯ ผมเลือกเรียนด้านนี้เพราะชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วครับ แต่ตอนเด็กๆ เราก็ไม่รู้คำว่าสถาปัตย์คืออะไรนะ แต่รู้แค่ว่าตอนนั้นเราชอบออกแบบบ้าน ชอบวาดรูปบ้านในแบบที่มันแปลกไปจากเด็กคนอื่น ด้วยความที่คุณพ่อคุณแม่ทำอสังหาริมทรัพย์ เขาก็เลยเห็นว่าเรามีแววด้านนี้เขาก็เลยสนับสนุนเต็มที่ ก็เลยเลือกที่จะมาเรียนคณะนี้

เรียนยังไงให้เข้าสถาปัตย์ จุฬาฯ ได้

จริงๆ ผมเป็นคนเรียนกลางๆ ครับ ก็ถ้าพูดถึงคณะสถาปัตย์ น้องม.ปลาย ที่กำลังสอบอยู่หลายๆ คนที่คิดว่า ไม่เก่งเลข ไม่เก่งภาษาอังกฤษ เรียนสถาปัตย์แล้วกัน คิดผิดมากๆ ครับ เพราะสถาปัตย์ต้องใช้ทั้งวิทย์ ทั้งเลข ทั้งคำนวณ ทั้งอังกฤษด้วย เพราะเรียนอินเตอร์ เพราะฉะนั้นยากมากก็เลยอยากให้น้องๆ หาตัวเองให้เจอก่อนว่า ชอบศิลปะ ชอบด้านนี้จริงๆ หรือเปล่า แล้วถ้าชอบก็ทำมันไปเถอะครับ เรียนที่ไหนก็เรียน ชอบอะไรก็ทำ ลองฝึกวาดรูป อยู่บ้านก็ทำไป ก็พยายามหาประสบการณ์จากการท่องเที่ยวเยอะๆ

ระหว่างการแสดงกับการออกแบบเป็นสถาปนิกเลือกได้ไหม

(ทำท่าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง) เลือกไม่ได้ครับ (หัวเราะ) เอาจริงๆ เราชอบพอๆ กัน เพราะมันคือการออกแบบทั้งคู่ สถาปัตย์ มันก็คือการออกแบบศิลปะ ออกแบบสถาปัตยกรรม ส่วนการแสดงมันก็คือการออกแบบตัวละครที่เราต้องไปเล่น มีการออกแบบที่ดีมันก็น่าจะดีทั้งคู่ครับ

ถ้าออกแบบชีวิตตัวเองได้เป็นแบบไหนดี

ออกแบบให้เป็นเหมือน อิน คนนี้เลยครับ เราค่อนข้างแฮปปี้กับทุกวันนี้อยู่แล้ว ไม่ได้อยากให้มันดีกว่านี้ แล้วก็ไม่ได้อยากจะให้มันแย่ไปกว่านี้ ก็อยากให้มันเป็นแบบนี้ไปในทุกๆ วันแล้วกันครับ

ความฝันวัยเด็ก กับการออกแบบบ้านให้ครอบครั

ความฝันตอนเด็กๆ คืออยากสร้างบ้านให้คุณพ่อคุณแม่ แล้วก็ตัวเอง ด้วยความที่บ้านทุกวันนี้ที่อยู่ พ่อเป็นคนออกแบบทั้งหมด แล้วเราก็รู้สึกว่ามันจะเจ๋งกว่าบ้านคนอื่น เพราะบ้านเราจะมีห้องใต้ดิน มีห้องนู่นนี่เหมือนในหนัง เราก็เลยรู้สึกว่าโอเค พอถึงตาเราจะออกแบบ ทำบ้านเจ๋งๆ ห้องเก็บรองเท้าใต้ดิน หรือห้องที่แบบห้องลับ ห้องซ่อนอยู่ก็เป็นความคิดที่แบบเด็กๆ ทุกวันนี้ก็ยังคิดอยู่ครับ (ยิ้ม)

ครอบครัวหัวสมัยใหม่ 

คุณพ่อคุณแม่เป็นคนหัวสมัยใหม่ครับ เพราะฉะนั้นท่านค่อนข้างจะปล่อยลูกๆ ฟรีเลย อย่างคุณแม่พูดตั้งแต่เด็กแล้วว่าถ้าลูกเรียนได้เกรด 3 ขึ้น ลูกอยากทำอะไรลูกทำ ลูกอยากไปเที่ยวไหนลูกทำ ไม่ว่ากัน โดยที่การเรียนของเราไม่เสีย พอเราเริ่มโตขึ้นมาด้วยความที่เรามีพี่มีน้องด้วยครับ ก็รู้สึกว่าคุณพ่อท่านตามใจด้วยความที่เราไม่เหลวไหล เราก็เลยรู้สึกว่าเราอยากทำอะไรให้ดีกว่าคนธรรมดาเพื่อตอบแทนเขา จะมาทำงานในวงการทำอะไรที่มันมากขึ้นเพื่อให้เขาเห็นว่าการที่เขาเลี้ยงเรามาแบบนี้ เลี้ยงเรามาเต็มร้อย แล้วเราก็จะทำให้เขากลับบ้างแล้วครับ

ธรุกิจครอบครัว และโฮสเทลของหนุ่มหน้าใส

ครอบครัวผมทำธุรกิจเกี่ยวกับเรียลเอสเตทครบวงจรเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่ดิน แฟลต คอนโดมิเนียม บ้านเช่า ผมคิดว่าสิ่งที่ตัวเองเรียนมานำมาต่อยอดได้แน่นอนครับ แล้วเร็วๆ นี้ก็มีโปรเจกต์นึงที่จะทำกับพี่สาว คือพี่กำลังจะเรียบจบจากอังกฤษ แล้วกลับมาคุณพ่อจะให้ลองเลยคือ ลองทำเป็นเหมือนโฮสเทลของตัวเอง คุณพ่อมีที่ให้ มีตึกเก่าให้ แล้วให้เรามารีโนเวต 30-40 ห้อง คุณแม่ก็จะให้เงินมาก้อนนึงก่อน แล้วก็จะให้เรากับพี่สองคนช่วยกันทำ เราก็อยู่ฝ่ายออกแบบ ส่วนพี่สาวก็อยู่ฝ่ายธุรกิจ ธุรการครับ

แมน 100%

แมนชัวร์ครับ แต่อาจจะด้วยการที่เราสนิทกับพี่น้องที่เป็นผู้หญิง ก็เลยอาจจะดูสำอางค์ไปหน่อย (หัวเราะ) แต่เป็นผู้ชายแน่นอนครับ คือจริงๆเรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเลย เพราะเรารู้ตัวเองดีว่าเราเป็นยังไง จริงๆแล้วโลกทุกวันนี้มันเปิดกว้างมาก ถ้าผมเป็นก็ยอมรับตรงๆได้สบายมาก แต่นี่เราไม่ได้เป็น

หัวใจยังว่างจะมีใครบ้างจับจอง

ตอนนี้โสดครับ (หัวเราะ) เคยมีแฟนครับตอนมหาวิทยาลัยนี่แหละ แต่ก็เลิกกันไป เหมือนมันถึงจุดที่รู้สึกว่า โอเคอิ่มตัวแล้วเราก็เลิกกันปกติ แล้วก็ห่างกันไปสักพักแล้วก็เป็นเพื่อนกันได้

สาวในฝัน สวย ฉลาด รักครอบครัว

ยอมรับว่าเราชอบผู้หญิงสวยนั่นแหละ ทุกคนก็ต้องชอบคนสวยใช่มั้ยครับ (หัวเราะ) เราชอบคนที่เขาเป็นคนง่ายๆ รู้สึกว่าหายากเหมือนกัน แต่ก็พยายามตามหาอยู่ อยากได้คนที่ถึงแม้ว่ารูปร่างหน้าตาภายนอกจะดูดี แต่ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ตลอดเวลา พูดง่ายๆ สวยด้วยฉลาดด้วย แล้วถ้ารักเราก็ต้องรักครอบครัวเราด้วยครับ

ฝากถึงน้องๆ ที่เห็นเราเป็นไอดอล

ลองหาตัวเองให้ดีก่อน ว่าจริงๆ แล้วชอบอะไร เพราะมีหลายคนที่ทำตามความหวังของพ่อแม่บ้าง ทำตามเพื่อนบ้างล่ะ พอเข้ามาแล้ว จริงๆ ตัวเองไม่ชอบ สุดท้ายแล้วก็ต้องซิ่วออกไป มันก็เสียเวลาเปล่าๆ ถ้าเกิดตัวเองลองดูตัวเองให้ดีว่าชอบอะไร แล้วตั้งใจทำมันก็จะดีครับ มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นนะของการเข้ามหาวิทยาลัย เพราะมหาวิทยาลัยมันมีอะไรอีกเยอะแยะนอกจากการเรียน การเจอเพื่อน การเจอสังคมที่กว้างขึ้นก็เป็นอีกเรื่องนึงที่เกิดขึ้น และเราต้องปรับตัว แล้วก็วางตัวให้ดีครับ

ฝากถึงแฟนคลับ

ขอบคุณทุกคนมากที่ติดตามผม อดใจรออีกนิดครับ ก็ใกล้แล้วแหละตอนนี้ขึ้นปี 4 แล้ว ว่างแล้วก็มีละครมาทาบทามแล้วด้วย ในเร็วๆ วันนี้ก็จะมีให้ติดตามกันเยอะเหมือนกัน (ยิ้มสดใส)

ประวัติส่วนตัว อิน-สาริน รณเกียรติ

วันเกิด : 4 ม.ค. 2538
อายุ : 21 ปี
พี่น้อง : มีพี่สาว 1 คน น้องสาว 1 คน
น้ำหนัก : 65 กก.
ส่วนสูง : 177 ซม.
บ้านเกิด : กรุงเทพฯ
อาหารที่ชอบ : ชอบกินทุกอย่าง
ที่เที่ยวสุดโปรด : ทุกที่เลยได้ไหม เอาเป็นว่าชอบเที่ยวแล้วกัน
สิ่งที่เกลียด/กลัว : ตุ๊กแก
กีฬา : แบดมินตัน เทนนิส ว่ายน้ำ ฟิตเนส
สไตล์การแต่งตัว : เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ แล้วแต่อารมณ์ของแต่ละวัน
ของสะสม : ของที่คุณพ่อคุณแม่ให้มาแล้วมีคุณค่าทางจิตใจ
ความสามารถพิเศษ : น่าจะทำให้คนรอบข้างหัวเราะได้