เส้นผมถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมีเสน่ห์ได้....
นพ.ไพสิฐ บุญศิริไพบูลย์ ศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม ศูนย์ปลูกผม TSC บอกว่า สาเหตุของการเกิดภาวะผมร่วง ผมบาง ส่วนใหญ่ประมาณ 90% เกิดจากกรรมพันธุ์ โดยเฉพาะในผู้ชาย ทำให้สูญเสียเส้นผมอย่างถาวรที่ด้านหน้าและกลางกระหม่อม ส่วนอีก 10% อาจเกิดจากโรคบางชนิด เช่น ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ โรคผิวหนังบางชนิด หรือ อาการที่เป็นผลข้างเคียงมาจากภาวะต่างๆ เช่น หลังการคลอดบุตร หลังผ่าตัด หรือแม้แต่ความเครียดก็อาจจะมีส่วนทำให้เกิดภาวะผมร่วง ผมบางได้ แต่ที่มักเป็นปัญหา คือ การเกิดศีรษะล้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกรรมพันธุ์ โดยเฉพาะในผู้ชาย ซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียเส้นผมอย่างถาวรในตำแหน่งด้านหน้าและด้านบนของหนังศีรษะ
“เราจะสังเกตเห็นว่า ส่วนใหญ่แล้วคนหัวล้านมักจะมีเส้นผมบางที่เห็นว่าเป็นพื้นที่ล้านโล่งเตียนอยู่บริเวณด้านหน้าและด้านบนของหนังศีรษะ ส่วนบริเวณท้ายทอยและขมับทั้ง 2 ข้าง อาจจะยังพอมีเส้นผมอยู่บ้าง ซึ่งในอดีตการปลูกผมเราจะใช้วิธีการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณที่มีเส้นผมอยู่ไปปลูกทดแทนผมที่ร่วง แต่ก็มีข้อจำกัดว่าต้องทำในระยะแรกๆของการเกิดศีรษะล้าน จึงจะได้ผลดี” ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม ศูนย์ปลูกผม Hair TSC บอก
...
ในอดีตมีเทคนิคการปลูกผมหลายวิธี แต่วิธีที่ใหม่ล่าสุด และนิยมแพร่หลายในต่างประเทศ คือ เทคนิคที่เรียกว่า FUE (Follicular Unit Extraction) ซึ่งเป็นวิธีการเจาะเอาเซลล์รากผมจากหนังศีรษะบริเวณที่มีผมหนาแน่น มาปลูกบริเวณที่ผมบางหรือไม่มีผม ลดการปวดตึงของแผลด้านหลังแบบเก่าที่ต้องตัดหนังศีรษะออกมา
คุณหมอไพสิฐ อธิบายว่า การปลูกผมด้วยวิธี FUE ที่ว่านี้ Dr. John P. Cole ศัลยแพทย์ด้านการปลูกผมชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ได้คิดค้นและพัฒนาเทคนิค Cole Isolation Technique เพื่อลดอัตราการสูญเสียเส้นผมจากการเจาะได้สูงสุด คือ น้อยกว่า 3% ขณะที่ในบางเทคนิคอาจสูงถึง 50%
“ข้อดีของเทคนิค FUE คือ ไม่มีแผลเย็บยาว ทำให้ลดการปวดแผลได้มาก ส่วนการปลูกเซลล์รากผมนั้น แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่ 2 จุดรอบเส้นประสาทเหนือหัวคิ้วทั้งสองข้าง โดยฉีดอย่างช้าๆ เพื่อลดการปวดให้ได้ มากที่สุด ผู้ป่วยก็จะไม่รู้สึกเจ็บที่หน้าผาก จากนั้นก็จะฉีดยาห้ามเลือดผสมในน้ำเกลือบริเวณที่จะปลูกผม เพื่อลดภาวะเลือดออกบริเวณที่ปลูกผม คนไข้สามารถสระผมเบาๆได้ในวันรุ่งขึ้นหลังการปลูก และสระได้ทุกวันหลังจากนั้น โดยไม่ต้องกังวลว่าแผลจะอักเสบหรือติดเชื้อ” ผู้เชี่ยวชาญ
ด้านการปลูกผม บอกพร้อมกับให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในการปลูกผมด้วยวิธีนี้ แพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษหัวเจาะ ที่มีหัวขนาดเล็ก 0.6-0.9 มิลลิเมตร เจาะตรงบริเวณรอบกอผม ตามพื้นที่ที่กำหนด โดยเจาะลึกลงไปจดรากผม ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในบริเวณท้ายทอยของศีรษะคนไข้ จากนั้น จึงดึงกอผมที่มีความแข็งแรงเหล่านั้นออกมา และทำการฝังเซลล์รากผมใหม่ไว้ในตำแหน่งที่ต้องการจะปลูก ซึ่งต้องใช้ความละเอียดประณีตและความชำนาญเฉพาะทางของแพทย์อย่างมาก
“การปลูกผมแบบ FUE จะต่างจากการปลูกผมแบบเดิมที่เรียกว่า Strip Technique หรือ FUT Follicular Unit Transplantation ซึ่งเป็นวิธีที่ต้องผ่าตัด แต่ FUE เป็นเทคนิคการปลูกผมแบบไร้รอยแผลหรือปลูกผมไร้แผลโดยการเจาะเอาเซลล์รากผมออกมาปลูก เป็นเทคนิคที่ไม่มีแผลเย็บยาว ไม่น่ากลัวเหมือนวิธีปลูกผมแบบทั่วไป”
คุณหมอไพสิฐ บอกว่า ก่อนจะทำการปลูกผม แพทย์จะทำการฉีดยาชาเฉพาะที่ 2 จุด รอบเส้นประสาทเหนือหัวคิ้วทั้งสองข้างก่อนที่จะเจาะรูเพื่อปลูกรากผม หลังฉีดยาชา บริเวณหน้าผากจนถึงกลางศีรษะจะรู้สึกชา และฉีดยาห้ามเลือดผสมในน้ำเกลือเข้าไป เพื่อให้หนังศีรษะโป่งและพองตัวขึ้น จากนั้น จะทำการเจาะรู และหยิบเซลล์รากผม ที่จะปลูกใส่ลงไปในรูที่เจาะเตรียมไว้แล้ว เพื่อเพิ่มความ หนาแน่นในจุดที่ต้องการ ซึ่งอาจจะมีเลือดซึมบริเวณที่เจาะเพียงเล็กน้อย ผู้ป่วยอาจเกิดการบวมบริเวณหน้าผากหลังการ ปลูกผม หรืออาจมีอาการชาบริเวณหนังศีรษะหลังการปลูกผมได้ ซึ่งอาการดังกล่าวก็มักจะหายไปได้เอง
...
“การปลูกผมเป็นทั้งการรักษาและเป็นศิลปะชั้นสูง ไม่ใช่แค่ปลูกให้ผมขึ้นมามากๆ แต่ต้องคำนึงถึงเพศ สภาพของแต่ละคนด้วย ผู้ชายอาจจะอยากมีผมดกเยอะๆ ไม่อยากดูศีรษะล้าน แต่ถ้าเป็นผู้หญิงหรือแม้แต่สาวประเภทสองที่ต้องการปลูกผม ก็ต้องทำแนวหน้าผากให้โค้ง และดูอ่อนหวาน เป็นหน้าผากผู้หญิงตามธรรมชาติด้วย” ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม บอก และว่า ข้อจำกัดของการปลูกผมด้วยเทคนิคนี้ คือ อาจต้องใช้เวลานาน 6-8 เดือน เพื่อให้เซลล์รากผมที่ได้รับการปลูกเติบโตอย่างแข็งแรง แต่อัตราการขึ้นใหม่ของเส้นผมมีโอกาสของความสำเร็จสูงมากกว่าวิธีอื่นๆ ในปัจจุบัน
เมื่อถามว่า เทคนิคนี้สามารถนำไปใช้กับการปลูกเส้นผมในตำแหน่งอื่นได้หรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมจาก ทีเอสซี บอกว่า เทคนิคนี้สามารถนำไปใช้กับการปลูกเส้นผมในตำแหน่งอื่นได้ เช่น คิ้ว หนวด เครา จอน หรือแม้แต่ขนหน้าอก ซึ่งเป็นการปลูกเส้นผมที่ดีกว่าวิธีการสัก ซึ่งดูไม่เป็นธรรมชาติและอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้.