"วิษณุ" แจง ปม จีที 200 ตั้ง 2 ประเด็น เผยรัฐไม่นิ่งนอนใจ เคยขอมีส่วนร่วมในการฟ้องคดีแล้ว แต่อังกฤษลังเล เพราะไทยมีโทษประหารชีวิต ปัดตอบ ปมควบคุมตัว 7 นักศึกษา

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.59 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกการเรียกค่าเสียหาย ต่อบริษัทจัดจำหน่ายเครื่องตรวจวัตถุระเบิดปลอม จีที 200 หลังศาลประเทศอังกฤษ ตัดสินยึดทรัพย์บริษัทผู้ผลิตว่า ในไทยมีการจัดซื้อเครื่องตวรจวัตถุระเบิด 3 ประเภท คือ จีที 200, อัลฟ่า 6 และเอดีอี 651 ทั้งหมดเป็นเครื่องมือเดียวกัน อาจแตกต่างเล็กน้อย และมาจากบริษัทต่างกัน แต่มีความเชื่อมโยงกัน คดีที่เกิดขึ้นในศาลอังกฤษ เป็นเรื่องของเอดีอี 651 ส่วนการจัดซื้อของไทยมีทั้งการซื้อตรงกับบริษัทแม่ในอังกฤษ และซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ตอนนี้ข้อมูลยังไม่ยุติ ได้ให้ไปตรวจสอบเพิ่ม เบื่องต้นมีส่วนราชการจัดซื้อเครื่องดังกล่าวทั้งหมด 17 แห่งประมาณ 1,400 เครื่อง มูลค่า 1.2 พันล้านบาท และในการหารือมี 2 ประเด็นใหญ่คือ ความน่าสงสัยในการจัดซื้อ อาจถึงขั้นทุจริต เรื่องฮั้ว การกำหนดราคากลาง และการดำเนินการถูกตามขั้นหรือไม่ หากผิดผู้ที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่คือเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนอีกประเด็นคือ การหลอกลวง ฉ้อโกง แสดงข้อมูลข้อเท็จให้หลงเชื่อ หากผิดตัวการหลักคือ เอกชนผู้จำหน่าย แต่ถ้าฝ่ายผู้ซื้อรู้เห็น เจ้าหน้าที่รัฐจะมีความผิดในฐานะตัวการร่วม

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงที่ได้พบ คดีที่อังกฤษ เริ่มจากอัยการเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญา แล้วมีการดำเนินการฟ้องแพ่งต่อ จึงไม่ใช่เรื่องที่เราจะเข้าไปเป็นผู้เสียหาย หน่วยงานของไทยเคยมีความพยายามจะเข้าไปเป็นผู้เสียหาย อย่างน้อยเอาชื่อของเราใส่เข้าไปในคำฟ้อง ไม่ใช่ไม่ได้ทำอย่างที่มีการพูดกัน อังกฤษเองก็ได้ติดต่อสอบถามมาว่า เราซื้อเครื่องดังกล่าวมาหรือไม่ และใช้การได้หรือไม่ เราก็บอกไปว่า ใช้ไม่ได้ และบอกไปอีกว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น อยากขอเป็นฝ่ายผู้เสียหายด้วย แต่ตามกฎหมายไทยมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต อังกฤษจึงลังเล มีปฏิกิริยาไม่เต็มใจจะดำเนินการในส่วนนี้ ทำให้ปัญหาคาราคาซังอยู่ นอกจากนี้ ในส่วนของไทยเองก็ดำเนินการไปแล้วหลายอย่าง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับเรื่องที่เกี่ยวข้องเป็นคดีพิเศษตั้งแต่ปี 55 กว่า 10 คดี ส่งเรื่องให้อัยการส่งฟ้องทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่ได้ฟ้องเพราะอยากให้ดีเอสไอสอบต่อบางประเด็น แต่มี 1 คดีที่อัยการแยกออกมาเพื่อฟ้องเป็นคดีแพ่งไปก่อน เหตุผลเกี่ยวข้องกับอายุความ โดยศาลได้ตัดสินแล้วให้รัฐเป็นฝ่ายชนะ สัญญาเป็นโมฆะ ซึ่งเมื่อเป็นโมฆะต้องมีการกลับคืนทรัพย์มูลค่า 9 ล้านบาท แต่ขณะนี้มีแนวโน้มว่าเขาไม่มีเงินจะคืน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

...

นายวิษณุ ยังกล่าวถึงคดี ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการอยู่ว่า มีกว่า 10 คดี จะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.59 ทั้งหมดเป็นข้อมูลที่เราได้ขณะนี้ อีกทั้งขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดในประเทศไทยได้คำพิพากษาของศาลอังกฤษ หน่วยงานต่างๆ ร่วมดำเนินการขอไปแล้ว แต่ก็อาจใช้เวลานาน เมื่อได้มาจะนำมาตีความว่าคำพิพากษาหมายความว่าอย่างไร จะนำไปสู่การดำเนินการอะไรบ้าง ได้ให้ อสส.เตรียมการรับในส่วนนี้ไว้

เมื่อถามว่า ดูแล้วแนวโน้มคงยากใช่หรือไม่ที่จะเข้าสู่กระบวนการ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ขอตอบอะไรทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับอะไรหลายอย่าง ทั้งอายุความ รูปคดี จึงต้องฟังฝ่ายกฎหมาย อัยการ ดีเอสไอ ที่กำลังดูเรื่องนี้กันอยู่ ว่าคดีของศาลอังกฤษจะเชื่อมโยงกับของเราได้หรือไม่ เรื่องนี้เราต้องคิดทุกอย่างประกอบกัน ทั้งค่าทนาย ระยะเวลา หากเกิดกรณีต้องไปขอเฉลี่ยทรัพย์ ยังต้องคิดด้วยว่าเมื่อชนะแล้วเราจะได้อะไร ถ้าคิดว่าสมควรทำก็จะดำเนินการ แต่ถ้าคิดว่าไม่สมควรก็แล้วไป ขณะนี้กำลังปรึกษากับฝ่ายกฎหมายต่างประเทศอยู่

เมื่อถามว่า หากจะดำเนินการฟ้องร้องกับผู้เกี่ยวข้องในไทย ใครเป็นจำเลยบ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า อยู่ที่ฟ้องเรื่องอะไร ซึ่งยังเป็นปัญหาอยู่ มีทั้งที่ซื้อจากบริษัทแม่ และตัวแทนจำหน่าย จึงให้ไปตรวจสอบอะไรบางอย่าง ไม่ใช่อยู่ดีๆ เขาฟ้องกันแล้วชนะ เราไปขอแบ่งตังค์บ้างดีกว่า ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพียงแต่ในต่างประเทศมันมีการฟ้องร้องชนิดหนึ่ง ซึ่งเราเพิ่งแก้ไขกฎหมายที่เรียกว่า การฟ้องร้องเป็นกลุ่ม คือฟ้องเพียงคนเดียวแต่ได้อานิสงส์เป็นกลุ่ม แต่เราไม่รู้ว่าคดีที่ศาลอังกฤษเป็นการฟ้องร้องเป็นกลุ่มหรือไม่ เลยต้องรอดูคำพิพากษาและคำฟ้อง ถ้ามันเป็นฟ้องร้องเป็นกลุ่มก็อาจจะมีผลมาถึงเรา
 
นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีมีการเรียกร้องให้ คสช. ปล่อยตัว 7 นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ที่ถูกควบคุมตัว ขณะรณรงค์ประชามติ ในพื้นที่ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ว่า "ขอไม่ตอบ" เมื่อถามว่า จะต้องปล่อยตัวนักศึกษาเหล่านั้นหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวปฏิเสธทันที่ว่า "ยิ่งไม่ตอบใหญ่เลย"

เมื่อถามถึงความเห็นในฐานะนักกฎหมาย นายวิษณุ กล่าวว่า "ผมเป็นฝ่ายกฎหมาย แต่บังเอิญเป็นฝ่ายกฎหมายของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ถาม ผมเองก็ดันมาเที่ยวตอบก่อน เดี๋ยวพอเขาถามแล้วผมไม่ตอบรัฐบาล แต่มาตอบนักข่าว ผมก็แย่" เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่จะบานปลายกลายเป็นการลุกฮือของกลุ่มนักศึกษา นายวิษณุ กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงดูแลสถานการณ์อยู่.