มากกว่าการรอคอยชมศึกลูกหนัง ‘ฟุตบอลยูโร 2016’ ก็คงเป็นโอกาสที่บรรดานักพนันทั้งหลายหวังใช้เป็นช่องทางหารายได้จากการพนันฟุตบอลรอบทัวร์นาเมนต์นี้ แต่ก่อนจะหลวมตัวเข้าไปในวงจรการพนัน อยากให้คุณหยุดความคิด! และอ่านบรรทัดต่อจากนี้...
จากผลสำรวจสถานการณ์การเล่นพนันฟุตบอล พบเคสตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทยมากมาย... เรื่องราวอันน่าตกใจ เมื่อคุณได้รู้ถึงวิธีการชำระหนี้พนันฟุตบอลของเด็กยุคใหม่ที่เข้าสู่วงจรพนันเพียงเพราะต้องการเงิน คิดว่าการได้เงินในช่องทางนี้ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ในทางตรงกันข้าม เมื่อต้องเป็นฝ่ายเสียพนัน อะไรจะเกิดขึ้น? ปัญหาที่ตามมาคือ ไม่มีเงินใช้หนี้ แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า วัยรุ่นเหล่านี้ แก้ปัญหาอย่างไร? ใช่แล้ววว! คุณคิดถูก! เพราะด้วยอายุและประสบการณ์ที่น้อยนิด พวกเขาเลือกที่จะเอาตัวเองไปขัดดอกกับเจ้ามือโต๊ะบอล หรือแม้แต่ที่พบบ่อยคือ วัยรุ่นชายส่งแฟนตัวเองไปขัดดอก หรือขายบริการทางเพศ เพื่อใช้หนี้ รวมถึงเยาวชนจำนวนไม่น้อยใช้เงินจากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. เล่นพนัน จนไม่มีเงินเรียนหนังสือ ฯลฯ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ หยิบยกประเด็น ‘การพนันฟุตบอล’ มาพูดถึง แต่ด้วยกระแส การแข่งขัน ‘ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016’ ที่เพิ่งเปิดฉากไป ค่อนข้างมาแรง... จนอาจนำไปสู่แรงจูงใจให้เกิดนักพนันหน้าใหม่ๆ ขึ้นตามมาได้ไม่ยาก โดยเฉพาะเยาวชนที่มักใช้วิธีการแก้ปัญหาในรูปแบบผิดๆ และนำมาซึ่งปัญหาต่างๆ ในสังคมได้...
...
ทีมข่าวฯ จึงขอใช้โอกาสนี้ในการย้ำผู้อ่านอีกครั้งว่า “ความหายนะจากการพนันนั้น มีอยู่จริง...”
หากดูข้อมูลที่สำคัญจากงานวิจัย เรื่อง สถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการพนันในประเทศไทย ปี 2556 ซึ่งเป็นการสำรวจทั่วประเทศ ในทุกสาขาอาชีพ พบว่า จำนวนคนไทย 3.8 ล้านคน ติดการพนันฟุตบอลมานานเฉลี่ยราว 6 ปี ด้วยจำนวนเงินที่เล่นพนันเฉลี่ยรวมทั้งปี ประมาณ 2.6 แสนบาทต่อคน คิดเป็นวงเงินพนันรวม หรือวงเงินแทงพนันรวม สูงถึง 9.8 แสนล้านบาทต่อปี
อีกทั้งยังพบว่า เมื่อคิดจำนวนเงินที่ใช้เล่นพนันทายผลรอบการแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นช่วงบอลโลก หรือบอลยูโรนั้น จะอยู่ที่สัปดาห์ละ 2,085 บาท สูงสุดถึง 3 แสนบาท ซึ่งข้อมูลที่น่าตกใจพบว่า เกินร้อยละ 50 ของผู้เล่นพนัน เสียมากกว่าได้...
อย่างไรก็ดี เมื่อดูตัวเลขจากผลวิจัยไปแล้ว นั่นก็ยิ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวลมากว่า ในรอบการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 ทัวร์นาเมนต์นี้ จะเป็นนำไปสู่การกระตุ้นให้มีนักพนันหน้าใหม่ๆ เกิดขึ้นหรือไม่...?
‘พนันบอลออนไลน์’ ตัวกระตุ้นสู่การติดพนันง่ายที่สุด
ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ผู้คลุกคลีกับงานวิจัย เรื่องสถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบ การพนันในประเทศไทย กล่าวถึงปัจจัยและแรงจูงใจที่นำไปสู่การเล่นพนันฟุตบอลว่า การแข่งขันฟุตบอล ถือเป็นเกมกีฬาที่กลุ่มวัยรุ่นให้ความสนใจและติดตามอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อเกิดความรู้สึกชอบดู และอินกับเกมแล้ว ปัจจัยเรื่องการพนันก็เข้ามาตอบสนองได้ไม่ยาก โดยเฉพาะการดูบอลกับกลุ่มเพื่อน และยิ่งการแข่งขันแมตช์ใหญ่ๆ หรือทัวร์นาเมนต์ แน่นอนว่ายิ่งนำไปสู่วงจรการพนันได้ง่ายขึ้น และนักพนันหน้าใหม่ๆ ก็เพิ่มขึ้นได้ไม่ยาก
"วงจรของนักพนันฟุตบอลส่วนใหญ่ เริ่มต้นจากการเล่นพนันกันเองในหมู่เพื่อน จนนำไปสู่การชักชวนกันแทงพนันผ่านช่องทางอื่นๆ เพราะเมื่อไรที่มีครั้งแรกแล้ว หากได้เงินมา ก็จะมีความรู้สึกภูมิใจทันที และรู้สึกว่าการได้เงินจากการเล่นพนันไม่ได้เป็นเรื่องที่ยาก แต่หากครั้งแรกเริ่มต้นด้วยการเสียพนัน ก็จะยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้รู้สึกว่า อยากแก้มือ และมีความต้องการที่จะเอาคืนในนัดต่อๆ ไป ซึ่งปัจจุบันการแข่งขันฟุตบอลมีแทบทุกวันและทั้งปี ฉะนั้น โอกาสที่ทำให้นักพนันเหล่านี้อยากจะแก้มือก็จะมีอยู่เรื่อยๆ"
...
ทั้งนี้ ดร.วิษณุ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันตัวกระตุ้นที่ทำให้การเล่นพนันฟุตบอลแพร่กระจายมากยิ่งขึ้น ก็คงหนีไม่พ้น 'การพนันฟุตบอลออนไลน์' เนื่องจากทุกวันนี้ถือเป็นยุคของสื่อสังคมออนไลน์ที่ใครก็เข้าถึงได้ หากเปรียบกับยุคก่อนหน้านี้ที่จะเล่นพนันบอลได้ ก็ต้องเดินเข้าไปแทงกับโต๊ะบอลโดยตรง
ผลวิจัยระบุ! กลุ่มอายุ 15-35 ปี เป้าหมายหลัก ติดพนันฟุตบอล
นอกจากนี้ หากดูผลวิจัย ยังระบุอีกว่า อายุเฉลี่ยของคนไทยที่เริ่มเล่นพนันฟุตบอลเป็นครั้งแรก มีอายุระหว่าง 10-14 ปี โดยนักพนันฟุตบอลกลุ่มหลัก จะเป็นช่วงวัยเรียนจนถึงวัยทำงานตอนต้น ซึ่งมีอายุระหว่าง 15-35 ปี รองลงมาคือ ช่วงอายุระหว่าง 35-55 ปี ทั้งนี้ ช่องทางการวิเคราะห์เกมการทายผล พบว่า นักพนันเกือบทั้งหมดมักใช้ข้อมูลประกอบการเล่นผ่านเว็บไซต์มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 52.6 หนังสือพิมพ์กีฬา ร้อยละ 45.4 และหนังสือพิมพ์วิเคราะห์อัตราต่อรอง ร้อยละ 42.7 รวมถึงเป็นแฟนบอลทีมนั้นๆ ร้อยละ 30
สำหรับช่องทางในการเข้าถึงเกมการพนันของคนไทยมีด้วยกัน 3 ช่องทางคือ ช่องทางหลักที่นักพนันนิยมเล่นมากที่สุดคือ เว็บไซต์ออนไลน์ รองลงมาคือ ผ่านเจ้ามือรับแทงพนัน หรือที่เรียกกันว่า 'โต๊ะบอล' และเล่นพนันกันเองในหมู่เพื่อน ซึ่งผลสำรวจยังระบุอีกว่า เกือบ 1 ใน 4 ของคนไทยที่เล่นพนันฟุตบอลยอมรับว่า เคยเป็นตัวกลาง หรือเจ้ามือโต๊ะรับแทงพนันฟุตบอล
...
รูปแบบเกมทายผลพนันฟุตบอล ความสนุกเจอความหายนะ
ได้ยินปัญหาเรื่องพนันฟุตบอลมานาน หลายคนอาจสงสัยว่า พนันบอล เขาเล่นกันอย่างไร? และจริงๆ แล้ว โอกาสที่จะได้เงินมานั้น มีมากน้อยแค่ไหน? ดร.วิษณุ อธิบายถึงรูปแบบเกมการทายผลพนันฟุตบอลให้ฟังคร่าวๆ ว่า โดยทั่วไป พนันฟุตบอลที่เหล่าบรรดานักพนันเล่นกันนั้น จะแบ่งเป็นรูปแบบใหญ่ๆ 2 ประเภทด้วยกัน จะเรียกว่า บอลเดี่ยว และบอลชุด
สำหรับประเภทบอลเดี่ยว ผู้เล่นพนันมีสิทธิที่จะเล่นพนันทายผลฟุตบอลเป็นคู่ๆ ซึ่งผลได้-เสีย ของแต่ละคู่แข่งขันจะไม่เชื่อมต่อกัน ผู้เล่นพนันมีสิทธิที่จะเลือกเล่นพนันกี่คู่ก็ได้ และเงินพนันที่ได้หรือเสียในแต่ละคู่นั้น ขึ้นกับอัตราต่อรองระหว่างทีมคู่แข่งขันที่เป็นต่อกับทีมที่เป็นรอง แต่อัตราขั้นต่ำของเงินเดิมพันโดยทั่วไปมักไม่ต่ำกว่า 500 บาทต่อหนึ่งคู่แข่งขัน หากอธิบายง่ายๆ คือ ถ้าได้พนัน เงินที่ได้กลับมาก็เท่ากับที่ลงทุนไปหรือน้อยกว่าตามส่วนที่หัก ซึ่งเรียกว่า ค่าน้ำ เป็นราคาที่เจ้ามือตั้งขึ้น เพื่อหักไว้กินเอง
...
ส่วนประเภทบอลชุด ผู้เล่นพนันจะต้องเล่นพนันแต่ละชุดไม่ต่ำกว่า 3 คู่แข่งขัน โดยผู้เล่นจะได้พนันก็ต่อเมื่อ ทายถูกทุกคู่ต่อหนึ่งชุด ถ้าผิดคู่ใดคู่หนึ่งถือว่าเสียพนัน ซึ่งโอกาสที่จะได้พนันค่อนข้างยาก
ย้อนไทม์ไลน์ รูปแบบเกมพนันฟุตบอล จากยุคแรกสู่ยุคปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม หากย้อนไทม์ไลน์รูปแบบเกมพนันฟุตบอลตั้งแต่ยุคแรกๆ จนถึงยุคปัจจุบันนั้น ในยุคแรกเริ่มเดิมที เกมพนันบอลชุด เจ้ามือหรือผู้ให้บริการพนันทายผลฟุตบอลจะออกโพยรายชื่อของคู่แข่งขัน เพื่อให้ผู้เล่นได้เลือกว่าจะวางเดิมพันกี่ชุด และชุดละกี่คู่แข่งขัน ซึ่งผู้เล่นจะต้องเลือกเล่นพนันอย่างน้อย 3 คู่ต่อหนึ่งชุด โดยสามารถเลือกเล่นพนันได้ว่าทีมใด ระหว่างทีมเจ้าบ้าน หรือทีมเยือนจะเป็นฝ่ายชนะ หรือเลือกว่า ผลการแข่งขันจะจบลงที่ผลเสมอกัน เนื่องจากผลพนันหรือผลการแข่งขัน สามารถออกผลได้ 3 รูปแบบคือ ทีมเจ้าบ้านชนะ ทีมเยือนชนะ หรือผลเสมอกัน ซึ่งจะเรียกโพยลักษณะนี้ว่า 'โพยสามหน้า'
ต่อมา รูปแบบการพนันประเภทบอลชุดได้มีการวิวัฒนาการ ซึ่งผู้เล่นยังคงถูกกำหนดให้ต้องเลือกเล่นพนัน อย่างน้อย 3 คู่แข่งขันต่อหนึ่งชุด เช่นเดียวกับในยุคแรก หากแต่อัตราต่อรองพนันในยุคนี้ มีเพียงประเภทเดียวคือ อิงกับอัตราต่อรองประเภทบอลเดี่ยว ฉะนั้น หากทายผลผิดหมด ผู้เล่นจะได้เงินที่วางเดิมพันคืน ซึ่งอัตราต่อรองในลักษณะนี้ถูกยกเลิกแทบทั้งสิ้น ผู้เล่นพนันประเภทบอลชุดในยุคนี้ จะได้เงินพนันก็ต่อเมื่อทายผลพนันถูกทุกคู่
กระทั่ง ถูกวิวัฒนาการเรื่อยมาสู่ยุค การพนันฟุตบอลออนไลน์ รูปแบบการเล่นไม่ได้แตกต่างจากรูปแบบโพยมากนัก แต่นักพนันสามารถทายผลยิบย่อยได้ตลอดในระหว่างการแข่งขัน เพราะฉะนั้นนักพนันส่วนใหญ่จะมองว่า มีโอกาสที่จะแก้มือได้ตลอดช่วงการแข่งขัน และที่สำคัญ โอกาสในการถูกจับกุมยากกว่าแทงพนันผ่านโต๊ะบอล ซึ่งต้องบอกว่า ปัจจุบันนักพนันทั้งหลาย หนีมาแทงบอลผ่านออนไลน์มากขึ้นหรือแทบทั้งหมดแล้ว เนื่องจากเป็นช่องทางที่เข้าถึงง่าย สะดวก และรวดเร็ว และกลายเป็นตัวกระตุ้นให้มีนักพนันหน้าใหม่ๆ ในสังคมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า อัตราต่อรองมาจากไหน ใครกำหนด? ดร.วิษณุ ไขข้อข้องใจให้ฟังว่า สำหรับรูปแบบการพนันฟุตบอลผ่านโต๊ะบอล อัตราต่อรองบอลจะต่อครึ่งลูก แต่ถ้าพนันฟุตบอลผ่านออนไลน์ อัตราต่อรองก็จะคิดมาจากเว็บพนันฟุตบอล ซึ่งมีอัตราที่หลากหลาย เช่น ทีม A ต่อเสมอควบครึ่ง อัตราเงินที่ได้จะลดลงน้อยมาก หรือทีม A ต่อครึ่งควบลูก อัตราเงินที่ได้ก็อาจจะมากกว่า ด้วยความที่เป็นเทคโนโลยี ทำให้การต่อรองเป็นระบบมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้พนันฟุตบอลออนไลน์เป็นที่นิยมมากกว่าโต๊ะบอล
เปิดฉากรับยูโร ส่องวงเงินหมุนเวียน 'พนันบอล' พุ่ง 100 ล้าน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากประเมินวงเงินหมุนเวียนในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 นี้ จะมีวงเงินหมุนเวียนมากน้อยแค่ไหน? ในประเด็นนี้ ดร.วิษณุ ผู้คลุกคลีกับงานวิจัยพนันฟุตบอลมานาน กล่าวว่า สำหรับวงเงินหมุนเวียนในทัวร์นาเมนต์นี้ ค่อนข้างยากต่อการประเมิน เนื่องจากเมื่อทำการสำรวจและสอบถามนักพนันส่วนใหญ่จะไม่บอก ว่าเสียเงิน เพราะกลัวเสียหน้า
“แต่หากกล่าวถึงการแข่งขันฟุตบอลรอบทัวร์นาเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลโลก หรือฟุตบอลยูโร ซึ่งเป็นช่วงกระแส แน่นอนว่าก็ยิ่งมีนักพนันหน้าใหม่ๆ เพิ่มเข้าไปในตลาดพนันฟุตบอลมากขึ้น ซึ่งนักพนันส่วนใหญ่ก็จะเล่นอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 500-1,000 บาทต่อครั้ง ฉะนั้น คาดว่าวงเงินหมุนเวียนไม่ต่างกับช่วงบอลฤดูกาลทั่วไปมากนัก ซึ่งเคยประเมินไว้อยู่ที่สัปดาห์ละ 100 ล้านบาท”
นอกจากนี้ เพิ่มเติมข้อมูลงานวิจัยการสำรวจพฤติกรรมรับชมและการเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2014 ระบุว่า จากประสบการณ์นักพนันที่เล่นเกมทายผลฟุตบอลโลก พบว่า วงเงินเฉลี่ยที่เล่นต่อคู่ 345 บาท สูงสุดเฉลี่ย 729 บาท และเกิน 1 ใน 3 จะเพิ่มวงเงินเล่นในรอบสอง โดยส่วนใหญ่วงเงินที่ใช้เล่นในช่วงสัปดาห์แรกของการแข่งขัน มีอยู่หลายระดับตั้งแต่ไม่เกิน 50 บาท จนถึงมากกว่า 1,000 บาท โดยค่าเฉลี่ยที่จะเล่นต่อคู่อยู่ที่ประมาณ 345 บาท ขณะที่วงเงินเล่นพนันสูงสุดต่อคู่พบว่า ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 729 บาท โดยขนาดของวงเงินพนันเพิ่มขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น
ผลวิจัย ชี้! นักพนันเกินครึ่ง เสียมากกว่าได้!
ดร.วิษณุ กล่าวถึงแง่ของผลกระทบว่า การพนันฟุตบอลเป็นการพนันที่มีความถี่ในการเข้าถึงได้ง่าย และต้องใช้วงเงินในการเล่นพนันค่อนข้างสูง เพื่อต้องการให้ได้เงินพนันจำนวนมากๆ ฉะนั้น แน่นอนว่า ปัญหาที่ตามมาก็คือ “เล่นพนันเกินกว่าความต้องการที่จะเล่นอย่างแท้จริง” “เล่นพนันเกินกว่าความสามารถในการจ่ายเมื่อเสียพนัน” หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เล่นพนันเพียงเพื่อต้องการเงินที่เสียพนันไปกลับคืนมา” ซึ่งทั้ง 3 ผลกระทบเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึง “การติดพนัน” และจากงานวิจัยระบุว่า เกมพนันฟุตบอลมีแนวโน้มจะนำไปสู่โรคติดการพนันได้ง่าย เมื่อเทียบกับเกมพนันประเภทอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อไรที่คุณหลงเข้าสู่วงจรเหล่านี้ เกินร้อยละ 50 มีโอกาสที่จะเสียพนันสูง แม้ว่าหลายคนจะรู้สึกว่า มีโอกาสที่จะแก้มือได้ทุกวัน แต่ด้วยความถี่ในการเข้าถึงการพนันมีสูง นั่นก็เท่ากับว่าคุณก็มีโอกาสที่จะเสียพนันเพิ่มขึ้น
ฉะนั้น ปัญหาที่ตามมาคือ นักพนันเหล่านี้ต้องทำทุกวิถีทางในการหาเงินมาแก้มือ ซึ่งจากการสำรวจ โดยเฉพาะเยาวชน ด้วยอายุและประสบการณ์ที่น้อย ถามว่าเงินเหล่านั้นมาจากไหน คำตอบคือ เงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ขโมยเงินจากที่บ้าน นำตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด และที่น่าตกใจคือ แก้ปัญหาโดยการเอาตัวเองไปขัดดอก ขายตัว เพื่อใช้หนี้การพนัน ซึ่งปัจจุบันไม่เพียงแค่ผู้หญิงเท่านั้น แต่กลับพบว่าเยาวชนผู้ชายจำนวนไม่น้อยก็ยอมขายบริการ เพื่อใช้หนี้การพนันฟุตบอลด้วยเช่นเดียวกัน และไม่เพียงแค่เยาวชน แม้แต่วัยทำงานเอง ผลกระทบที่ตามมา แน่นอนว่า นักพนันส่วนใหญ่ที่เป็นหนี้ เกิดความเครียด ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานลดลง ส่งผลต่อองค์กร หน่วยงาน สังคม และประเทศชาติ ตามมา...
