คดีศึกชิงมรดกธุรกิจน้ำพริกเผา “แม่ประนอม” ยังยาวเป็นหนังชีวิต เมื่อแม่-ลูกตกลงไกล่เกลี่ยแบ่งทรัพย์สินไม่ได้ นางประนอมกับลูกสาวคนรองฮึดเดินหน้าฟ้องอาญา “ศิริพร” ลูกสาวคนโต กรณีเปลี่ยนแปลงหุ้นอีกคดี ขณะที่ทนายฝ่ายลูกสาวคนโตระบุเหตุไกล่เกลี่ยไม่ลงตัวเพราะไม่ตรงตามข้อตกลง โดยลูกความเตรียมพยาน 9 ปาก มาศาลวันนัดไต่สวนคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งอนุญาตถอนฟ้อง 13 ก.ค.นี้
หลังเปิดเจรจารอมชอมคดีมรดกในครอบครัวแดงสุภา ที่ประกอบธุรกิจน้ำพริกเผาแม่ประนอมมาช้านาน ระหว่าง นางประนอม แดงสุภา ผู้ก่อตั้งธุรกิจน้ำพริกเผาแม่ประนอมกับลูกสาวคนโต แต่ล่าสุดก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 30 พ.ค. เวลา 13.30 น. ที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน มีการนัดไต่สวนคำร้องที่ขอเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องในคดีแพ่งหมายเลขดำ ส.558/ 2558 ซึ่งนางประนอม แดงสุภา ผู้ก่อตั้งธุรกิจน้ำพริกเผาไทยตราแม่ประนอม และ น.ส.ศิริวัลย์ แดงสุภา บุตรสาวคนรอง ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางศิริพร แดงสุภา บุตรสาวคนโต และนายสุชาติ ภาษาประเทศ สามีนางศิริพร เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดเรื่องเพิกถอนนิติกรรมถือกรรมสิทธิ์แทน โดยคืนทรัพย์ และเรียกค่าเสียหายทุนทรัพย์รวม 561,950,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยในการไต่สวนครั้งนี้ นางประนอม และ น.ส.ศิริวัลย์เดินทางมาแถลงต่อศาลด้วยตัวเอง ขณะที่ฝ่ายนางศิริพรไม่ได้เดินทางมาศาล มีเพียงนายทวิชา หวังโภคา ทนายความผู้รับมอบอำนาจเดินทางมา
ทั้งนี้ นางประนอมให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าห้องพิจารณาว่า วันนี้ (30 พ.ค.) ศาลนัดไกล่เกลี่ยคดี หลังทำข้อตกลงกับนางศิริพร ลูกสาวคนโต ที่วังวรดิศ โดยมีหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นคนกลางเจรจา แต่ไม่ได้รับการติดต่อจากนางศิริพรและทนายความอีกเลย ส่วนทรัพย์สินที่ทำข้อตกลงไว้ อาทิ ที่ดินจังหวัดนครปฐม ที่ดินหมู่บ้านเศรษฐกิจ และที่ดินในกรุงเทพมหานคร รวมถึงเงินเดือน 1 ล้านบาท หุ้นบริษัทพิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาแม่ประนอม จำกัด โดยตนในฐานะผู้จัดการกองมรดกต้องการให้คืนหุ้นทั้งหมด ก่อนจัดสรรแบ่งมรดกอีกครั้ง และหากวันนี้ถ้ายังไม่สามารถตกลงกันได้ ก็จะเข้าสู่กระบวนการไต่สวนคำร้องที่ขอเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้อง ตามขั้นตอนเดิม โดยยืนยันจะสู้คดีให้ถึงที่สุด เพื่อความเป็นธรรม
...
เมื่อถึงเวลานัดศาลได้สอบถามคู่ความถึงข้อตกลงที่ทำไว้ ซึ่งนางประนอมได้แถลงต่อศาลขอพิจารณาลับศาลจึงให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากห้องพิจารณาคดี
ภายหลังการไต่สวนนานกว่า 2 ชั่วโมง ต่อมา นางประนอมได้เปิดเผยว่า นางศิริพร บุตรสาวคนโต ไม่เดินทางมาศาล ไม่ยอมคืนทรัพย์สินมรดกและทรัพย์สินสมรส ตามที่ตนร้องขอเพื่อยุติคดี และวันนี้ตัวได้ยื่นฟ้องคดีอาญานางศิริพร คดีเปลี่ยนแปลงหุ้นของตนไปเป็นของนางศิริพรกับสามี ต่อศาลจังหวัดตลิ่งชันอีกด้วย ขอยืนยันว่าไม่มีผู้ใหญ่มาเจรจาให้ถอน ฟ้องในคดีที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน และศาลจังหวัดนครปฐม
ด้านนายพิสิษฐ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความของนางประนอมกล่าวว่า วันนี้ศาลได้สอบถามคู่ความว่าจะสามารถไกล่เกลี่ยกันได้หรือไม่ โดยฝ่ายจำเลยได้แถลงต่อศาลว่าไม่สามารถรับเงื่อนไขได้ ซึ่งศาลเห็นว่าเงื่อนไขข้อตกลงของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกัน โดยเฉพาะเรื่องหุ้นที่ดินที่ไม่สามารถตกลงกันได้ หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนของกฎหมาย
ขณะที่นายทวิชา หวังโภคา ทนายความของนางศิริพร ระบุว่าการไกล่เกลี่ยมีเงื่อนไขตามข้อตกลง 4 ข้อ โดยวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา นางศิริพรได้เตรียมเช็คเงินสด 1 ล้านบาท เพื่อมอบให้นางประนอมแต่วันเดียวกัน นางประนอมได้ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ไม่ตรงตามข้อตกลง โดยต้องการเงินเพิ่มอีก 300 ล้านบาท ทำให้การมอบเช็คเงินสดต้องระงับไป ซึ่งศาลเห็นว่าข้อตกลงเปลี่ยนแปลงไปมากศาลจึงนัดไต่สวนคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งอนุญาตถอนฟ้อง ในวันที่ 13 ก.ค. เวลา 09.00 น. โดยฝ่ายนางประนอม จะนำพยานเข้าไต่สวน 2 ปาก ขณะที่ฝ่ายนางศิริพร เตรียมพยานไต่สวน รวม 9 ปาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนางประนอม จะได้มอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้องนางศิริพรและนายสุชาติ เป็นคดีอาญาต่อศาลจังหวัดตลิ่งชันกรณีการโอนหุ้น โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 25 ก.ค. เวลา 09.00 น.แล้ว ด้าน น.ส.ศิริวัลย์ แดงสุภา บุตรสาวคนรองของนางประนอม ก็ใช้สิทธิในฐานะทายาทกองมรดกของนายศิริชัย แดงสุภา ยื่นฟ้องคดีอาญา นางศิริพร พี่สาว ข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ฉ้อโกงทรัพย์มรดก ต่อศาลจังหวัดนครปฐม อีกคดี ซึ่งศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันเดียวกัน