ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เผยว่า การค้าชายแดนของไทย แม้จะมีการเฝ้าระวังคุมเข้ม แต่ยังมีปัญหาลักลอบนำเข้า-ส่งออกสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกษตร ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว และสร้างโอกาสให้สินค้าที่ผลิตโดยเกษตรกรมีช่องทางการจำหน่ายเพื่อส่งออกมากขึ้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ จึงร่วมกับด่านศุลกากร กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมประมง มกอช. และกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สร้างศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ชายแดน เขตเศรษฐกิจพิเศษ

“สินค้าที่นำไปจำหน่ายในแต่ละศูนย์ โดยรวมขึ้นอยู่กับสภาพแต่ละพื้นที่มีความต้องการสินค้าประเภทไหน แต่สินค้าหลักๆที่วางจำหน่าย จะมีผลิตภัณฑ์ภาคปศุสัตว์ พริก หอม กระเทียม ข้าวสาร น้ำตาลทราย น้ำมันพืช น้ำปลา รวมทั้งสินค้าเกษตรแปรรูป โดยพื้นที่จะกำหนดให้จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าจะอยู่ในจังหวัดเชียงราย, ตาก, สระแก้ว, มุกดาหาร, หนองคาย, นครพนม, ตราด, กาญจนบุรี, สงขลาและนราธิวาส”

...

อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์บอกว่า การสร้างศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ชายแดนจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างเครือข่าย กระจายสินค้าที่สหกรณ์รวบรวมจากสมาชิก ส่งขายให้กับกลุ่มผู้บริโภคเพื่อนบ้านตามเขตการค้าระหว่างประเทศชายแดน ทำให้เกิดการเชื่อมโยงด้านระบบการขนส่งและโลจิสติกส์ ทั้งระหว่างผู้ซื้อและสหกรณ์กับเอกชนในต่างประเทศ ทำให้กลุ่มเกษตรกรเจ้าของผลผลิตมีโอกาสส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้มากขึ้น ทั้งผู้ซื้อ คนขายมั่นใจในคุณภาพสินค้า เพราะทุกอย่างจะอยู่ภายใต้การดูแลของระบบสหกรณ์

ดร.วิณะโรจน์ กล่าวอีกว่า วิธีการนี้ไม่เพียงจะทำให้ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าสหกรณ์ที่มีคุณภาพในราคายุติธรรม ขณะเดียวกันยังเป็นช่องทางจำหน่ายและรองรับสินค้า ทำให้สหกรณ์สามารถเพิ่มมูลค่าในธุรกิจได้สูง กลไกการซื้อมาแล้วขายไปจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดผลกำไรมากขึ้น และสุดท้ายกำไร ทั้งหมดยังจะคืนกลับไปสู่สมาชิกสหกรณ์ในรูปเงินปันผลอีกด้วย.