ตัวแทนกลุ่มนักศึกษาปริญญาโทกว่า 10 คน ร้อง บก.ปคบ. เอาผิดบริษัททัวร์ หลอกซื้อทัวร์ก่อนปล่อยลอยแพช่วงศึกษาดูงาน 3 วันสุดท้าย ที่ประเทศอิตาลี มูลค่าเสียหายร่วม 4 แสนบาท
เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นายพิสิษฐ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความ พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหายกว่า 10 คน เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ทินกร จรบุรมย์ พงส.กก.1 บก.ปคบ. หลังถูกบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง หลอกซื้อทัวร์ก่อนปล่อยทิ้งอยู่ต่างประเทศ มูลค่าความเสียหายเกือบ 4 แสนบาท
น.ส.อรทัย (สงวนนามสกุล) พนักงานบริษัท ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า กลุ่มตนมีผู้เสียหายทั้งหมด 31 คน ซึ่งทุกคนเป็นนักศึกษา ป.โท ของสถาบันแห่งหนึ่ง และรวมตัวจะเดินทางไปศึกษาดูงานที่ยุโรป จึงช่วยกันหาสถานที่ก่อนสรุปว่าจะไป 3 ประเทศ คือ เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และ อิตาลี ระหว่างวันที่ 9 - 16 เม.ย.59 จากนั้นได้ส่งข้อมูลให้กับบริษัททัวร์เป็นผู้ประสานงานระหว่างเดินทางตลอดทริป ทั้งตั๋วเครื่องบิน ร้านอาหารและที่พัก โดยมีค่าใช้จ่ายคนละ 73,000 บาท พร้อมมีหลักฐานมาแสดงให้ดูน่าเชื่อถือ
น.ส.อรทัย กล่าวอีกว่า เมื่อกำหนดเดินทางวันที่ 9 เม.ย. กลุ่มตนขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีเจ้าของบริษัททัวร์มาเป็นตัวแทนส่งขึ้นเครื่องด้วย ทั้งนี้ เมื่อไปถึงประเทศเยอรมนีไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เมื่อเดินทางไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์เริ่มมีปัญหาเกิดขึ้น ซึ่งร้านอาหารตามโปรแกรมทัวร์ต้องย้ายไปอีกร้านหนึ่งไม่ได้เป็นตามที่ตกลงไว้ รวมทั้งโรงแรมที่พักก็ถูกลอยแพ กระทั่งช่วง 3 วันสุดท้าย ระหว่างอยู่ประเทศอิตาลี กลุ่มตนโดนลอยแพต้องออกค่าใช้จ่ายกันเอง และสุดท้ายเมื่อเดินทางกลับมาประเทศไทยก็ได้แจ้งดำเนินการเอาผิดกับบริษัททัวร์ดังกล่าว นอกจากนี้ ที่ผ่านมามีเพื่อนในกลุ่มตนเคยใช้บริการบริษัททัวร์ดังกล่าวเดินทางไปต่างประเทศเช่นกันแต่ไม่ได้มีปัญหาอย่างใด จึงไม่ทราบว่าเพิ่งเกิดเรื่องขึ้นครั้งแรกหรือไม่
...
ด้าน นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า ปัญหาในเคสนี้กลุ่มผู้เสียหายโดนทิ้งอยู่ต่างประเทศ แต่ยังดีที่เป็นกลุ่มใหญ่มาด้วยกันจึงช่วยเหลือกันกลับมาประเทศได้ แต่บางกรณีเป็นกลุ่มเล็กหรือต่างคนต่างไปอาจจะลำบากไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินการเอาผิดกับบริษัททัวร์ดังกล่าวและบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ขณะที่ ร.ต.อ.ทินกร เปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบพยานหลักฐานและสอบปากคำก่อนว่าเข้าข่ายกระทำผิดข้อหา ฉ้อโกงหรือไม่ ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.