แก๊งโจรกรรมเมืองปทุมฯ คืนเดียวกวาดทรัพย์โชห่วย 3 ร้านติด วงจรปิดจับภาพคนร้ายชาย 3 หญิง 1 ใช้ชะแลงงัดประตูเลื่อนหน้าร้าน กวาดทรัพย์สินมีค่าใส่กระสอบ ใช้เวลา 10 นาที รวมมูลค่าทั้งสิ้นเกือบ 8 แสน เชื่อเตรียมการมาอย่างดี
เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 25 พ.ค. 59 นายสุธรรม กิตติสุรินทร์ อายุ 34 ปี เจ้าของร้าน SKB สารพัด ตั้งอยู่เลขที่ 52/40-42 ถ.ปทุมสามโคก ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นร้านขายปลีกและส่ง บุหรี่ สุรา บัตรเติมเงิน น้ำดื่ม และของนานาชนิด ได้เข้าพบ ร.ต.อ.ไชยสิทธิ์ ขัดผาบ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อนำหลักฐานภาพถ่ายและภาพจากกล้องวงจรปิดมามอบให้ตำรวจ ในการเร่งติดตามจับกุมตัวแก๊งคนร้ายที่เข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินภายในร้าน มูลค่ากว่า 6 แสนบาท
นายสุธรรม เจ้าของร้านโชห่วย กล่าวเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา น้องชายตนได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองปทุมธานี คนร้ายจำนวน 4 คน เข้ามาทำการโจรกรรมทรัพย์ภายในร้านไปจำนวนหลายรายการ อาทิ บุหรี่ สุราทั้งไทยและต่างประเทศ บัตรเติมเงิน และเงินสดจำนวน 5 หมื่นกว่าบาท รวมเป็นมูลค่าทั้งหมดกว่า 6 แสนบาท
ทั้งนี้จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดทั้งภายในร้าน และบริเวณโดยรอบ พบว่าคนร้ายจำนวน 4 คน ชาย 3 หญิง 1 ได้ใช้รถกระบะสีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาจอดหน้าร้าน เมื่อช่วงเวลาประมาณตีหนึ่งเศษ จากนั้นคนร้ายได้ใช้ชะแลงงัดประตูเลื่อนหน้าร้าน ก่อนเข้ามากวาดทรัพย์สินดังกล่าวใส่ถุงกระสอบที่เตรียมมา โดยคนร้ายทุกคนสวมหมวกแก๊ป และใช้ผ้าปิดปากอำพรางใบหน้า และใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนหลบหนีไป
นายสุธรรม กล่าวต่อว่า จนกระทั่งน้องชายตนตื่นมาเปิดร้านในช่วงสาย พบประตูถูกงัดเปิดออก ทรัพย์สินหายไป จึงเปิดภาพกล้องวงจรปิดตรวจสอบ พบพฤติกรรมของคนร้ายทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากกลุ่มเพื่อนๆ ร้านโชห่วยด้วยกัน ในเขตพื้นที่ ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี พบว่ากลุ่มแก๊งคนร้ายชุดนี้ได้ตระเวนก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน ด้วยการวางแผนทำทีเข้ามาซื้อน้ำ และมองดูกล้องวงจรปิดในร้าน
...
"คนร้ายใช้วิธีใช้ไม้ดันกล้องขึ้นเพื่อไม่ให้เห็นใบหน้า ก่อนจะย้อนกลับมากลางดึก โดยภายในคืนเดียวกันเข้ากวาดทรัพย์ถึง 3 ร้านรวด รวมมูลค่าทรัพย์สินเกือบ 8 แสนบาท จึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยเร่งติดตามจับกุมให้ได้ เพราะเชื่อว่ากลุ่มแก๊งเหล่านี้เป็นภัยต่อสังคม" นายสุธรรม กล่าว
ทางด้าน ร.ต.อ.ไชยสิทธิ์ ขัดผาบ ร้อยเวรฯ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้มีการรับแจ้งและลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ซึ่งการกระทำของคนร้ายเป็นแบบมืออาชีพ มีการเตรียมการเป็นอย่างดี สวมถุงมือทุกคน และมีการวางแผนมาอย่างดี ส่วนการติดตามตัวคนร้าย ได้แจ้งให้ชุดสืบสวนออกหาเบาะแส และได้หลักฐานเพิ่มเติมจากผู้เสียหาย เป็นแนวทางในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.