(เครดิตภาพ นายฉัตรชัย จันทร์มณี ชาวประมงชายฝั่ง จ.ชุมพร)

ชาวประมงชายฝั่งที่ชุมพร ออกเรือตกปลา เจอฉลามวาฬหนัก 3 ตันว่ายโผล่หัวขึ้นมาหยอกล้อรอบๆ เรือ ทักทายเหมือนเป็นเพื่อน เป็นฉลามวาฬตัวเดียวกับที่เจอในแหล่งดำน้ำทะเลชุมพร วอนช่วยกันดูแลให้อยู่ไปนานๆ... 

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 พ.ค.59 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายพิศิษฐ์ ลี้วิริยะไพฑูรย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ว่าได้มี นายฉัตรชัย จันทร์มณี อายุ 45 ปี อาชีพชาวประมงชายฝั่งเรืออวนลอยปลาทู ได้นำเรือออกไปตกปลาบริเวณหน้าเกาะง่ามเขตรอยต่อระหว่างตำบลนาชะอัง อ.เมืองชุมพร กับตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้พบกับฉลามวาฬขนาดใหญ่ว่ายน้ำโผล่หัวขึ้นมาเล่นหยอกล้ออยู่รอบๆ เรืออย่างใกล้ชิดเหมือนกับเป็นเพื่อนสนิทกัน และได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพนิ่งเอาไว้หลายภาพ จนกลายเป็นที่ฮือฮาของคนที่ได้ชมภาพดังกล่าว เป็นอย่างมาก


จากการสอบถาม นายฉัตรชัย จันทร์มณี บอกว่า ตนมีอาชีพทำประมงชายฝั่งอวนลอยปลาทู เป็นเรือประมงขนาดเล็ก โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนและน้องชายได้นำเรือออกไปตกปลาที่หน้าเกาะง่ามห่างจากฝั่งประมาณ 20 กิโลเมตร ขณะตกปลาอยู่นั้นได้มีฉลามวาฬตัวขนาดใหญ่ น้ำหนักประมาณ 3 ตัน หรือ 3,000 กิโลกรัม โผล่ขึ้นมาว่ายน้ำเล่นข้างเรือของตนโดยว่ายวนเวียนและดำลอดใต้ท้องเรือแล้วโผล่หัวขึ้นมาข้างแคมเรือ แสดงความเป็นมิตรคล้ายหยอกล้อทักทายอยู่นานกว่า 10 นาที ตนได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพนิ่งเก็บไว้หลายภาพ และเมื่อนำเรือเข้าฝั่งจึงนำภาพมาให้ นายพิศิษฐ์ ลี้วิริยะไพฑูรย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 และชาวบ้านได้ดูพร้อมกับเล่าเรื่องให้ฟัง จนเป็นที่ฮือฮาชื่นชอบของชาวบ้านอย่างมาก

...


นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ขณะที่ฉลามวาฬว่ายน้ำหยอกล้อเล่นอยู่รอบๆตัวเรือแบบใกล้ชิดกับตนนั้น ไม่ได้รู้สึกกลัวแต่อย่างใด เพราะมันไม่ทำร้ายใคร ซึ่งฉลามวาฬตัวนี้ มีความคุ้นเคยชอบหยอกล้อกับชาวเรือประมงชายฝั่งอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว และตนเองก็เคยพบฉลามวาฬตัวนี้โผล่ขึ้นมาเล่นน้ำให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง จนรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเป็นเพื่อนกัน


ด้าน นายพิศิษฐ์ ลี้วิริยะไพฑูรย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.สะพลี กล่าวว่าบริเวณเกาะง่าม เกาะจระเข้ และอีกหลายเกาะที่อยู่บริเวณดังกล่าว เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำชมปะการังมากที่สุด และจะพบเห็นได้ถ่ายภาพฉลามวาฬยักษ์ตัวดังกล่าวอยู่เป็นประจำ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวดำน้ำใต้ท้องทะเลของ จ.ชุมพรไปแล้ว จึงอยากให้ชาวประมงและผู้พบเห็นช่วยกันอนุรักษ์ดูแลให้อยู่คู่กับท้องทะเลชุมพรตลอดไป.