(ภาพจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว)
เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดแถลงข่าว งาน “เทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ครั้งที่ 17” จัดอย่างย่ิงใหญ่อีกปี ภายใต้แนวคิด “Thai Festival 2016- Discover Thailand’s BEST” เชิญชาวญี่ปุ่นค้นหาความเป็นเลิศของไทย เชิญ “เจมส์ จิรายุ” พระเอกชื่อดังที่กำลังได้รับความนิยมในญี่ปุ่น คณะนางสาวไทย และศิลปินไทย ไปโชว์เพียบในหลากหลายสไตล์ นอกจากโปรโมตอาหาร ท่องเที่ยว วัฒนธรรม สินค้าและผลไม้ไทย
นางสุพิชญ์ชญา แฮริส ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รายงานว่าเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2559 นายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้จัดแถลงงาน “เทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ครั้งที่ 17” และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับไทยในญี่ปุ่นตลอดทั้งปี ที่สมาคมผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น (Japan National Press Club) โดยมีสื่อมวลชนเข้าร่วมมากกว่า 30 คน ทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ เข้ารับฟังการแถลงข่าวด้วยความสนใจ ปรากฏว่ากิจกรรมที่สื่อมวลชนญี่ปุ่นให้ความสนใจมากเหมือนทุกปี คืองาน “เทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ครั้งที่ 17” ซึ่งเป็นงานเทศกาลเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม อาหาร ผลไม้ของไทยในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด และเป็นงานใหญ่ของกรุงโตเกียว ที่ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศรอไปเที่ยวชมกันทุกปี
...
นายบรรสาน แถลงว่า งานเทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ครั้งที่ 17 ปีนี้จัดขึ้นที่สวนสาธารณะโยโยงิ ระหว่างวันที่ 14-15 พฤษภาคม 2559 เป็นงานประชาสัมพันธ์อาหารไทย ตลอดจนสินค้า บริการ และวัฒนธรรมของไทย ที่จัดขึ้น ณ สวนสาธารณะโยโยงิ กรุงโตเกียว ในเดือนพฤษภาคม เป็นประจำทุกปี และมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานในแต่ละปีประมาณ 300,000 คน ได้รับการกล่าวขานกันว่า เป็นงานเทศกาลของต่างประเทศในกรุงโตเกียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และเป็นงานสำคัญงานหนึ่งของกรุงโตเกียว ที่ชาวญี่ปุ่นในกรุงโตเกียวและปริมณฑลรอคอยทุกปี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ที่มีความใกล้ชิดในทุกด้าน ทั้งพระราชวงศ์ การเมือง เศรษฐกิจ และระหว่างประชนชน เป็นเวลานานกว่า 600 ปี โดยเฉพาะในระดับประชาชน จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีกระแสความนิยมอาหารไทย และสินค้าไทยในญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันประเทศญี่ปุ่นก็เป็นที่ชื่นชอบของคนไทย มาเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
สำหรับแนวคิดของ งานเทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ครั้งที่ 17 ปีนี้ คือ “Thai Festival 2016-Discover Thailand’s BEST” เป็นการเชิญชวนชาวญี่ปุ่นให้มาร่วมค้นหาความเป็นเลิศของไทยในด้านต่างๆ ซึ่งถือเป็นความพิเศษอย่างยิ่ง เพราะญี่ปุ่นกับไทยจะสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 130 ปีในปีหน้า ความเป็นเลิศในด้านแรกที่ต้องการให้ชาวญี่ปุ่นได้ค้นหา ได้แก่ อาหาร ผลไม้ เครื่องดื่ม สินค้าและบริการของไทยที่มีศักยภาพ โดยในปีนี้จะมีการออกคูหาในงานมากกว่า 180 คูหา ประกอบไปด้วย คูหาอาหารของร้านอาหารไทยในญี่ปุ่น 73 คูหา คูหาผลไม้ จำนวน 14 คูหา จะมีการจำหน่ายผลไม้ไทยซึ่งปัจจุบันสามารถนำเข้ามาในญี่ปุ่นได้ 9 ชนิด ได้แก่ มะม่วง (ซึ่งรวมถึงมะม่วงพันธุ์โชคอนันต์ และเขียวเสวย เป็นมะม่วงเขียว 2 สายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งได้รับอนุญาตจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้นำเข้าไปยังญี่ปุ่นได้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559) ส้มโอ มังคุด มะพร้าว ทุเรียน สับปะรด มะขาม สละ และกล้วย คูหาเครื่องดื่ม จำนวน 20 คูหา จะจำหน่ายเครื่องดื่มคุณภาพของไทย และคูหาสินค้าและบริการ จำนวน 48 คูหา ซึ่งจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไทย ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เสื้อผ้า และของใช้แบบไทยๆ รวมทั้งบริการต่างๆ และคูหาของ NGO 10 คูหา โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้คัดสรรร้านค้ามาร่วมออกคูหาโดยเน้นคุณภาพและศักยภาพ
ส่วนพื้นที่จัดงานในปีนี้จะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ในงานที่ชื่อว่า “Thai Village” เป็นการรวมคูหาของหน่วยงานภาครัฐต่างๆ และบริษัทที่เป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดงาน เพื่อแนะนำสินค้าและบริการที่เป็นเลิศของไทย เรียกได้ว่าเป็นการยกเมืองไทยมาไว้ที่สวนโยโยงิเลยทีเดียว ได้แก่ คูหาของโครงการในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกอบไปด้วยสถาบันสิริกิติ์ ร้านภัทรพัฒน์ ร้านภูฟ้า และศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ผลงาน และผลิตภัณฑ์ในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะในปีนี้ที่เป็นปีครบรอบ 84 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ, คูหาของสำนักงาน ททท. จัดแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่คนญี่ปุ่นต้องห้ามพลาด, คูหาของสำนักงานพาณิชย์ จัดแนะนำผลิตภัณฑ์แฟชั่นจากแบรนด์คนไทย และแนะนำตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (TTM) ซึ่งรับประกันคุณภาพของสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ยังมีคูหาของสำนักงานเกษตร จัดแนะนำผลไม้ไทยที่หลากหลาย และผ้าไหมไทย, คูหาของสำนักงานอุตสาหกรรม จัดแนะนำผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปของไทยที่ผลิตจากนวัตกรรมการผลิตอาหารที่ทันสมัยและถูกสุขลักษณะของไทย แสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของสมาคมวัฒนหัตถศิลป์ล้านนา, คูหาของ จ.อุบลราชธานี และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอบต.) จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น, คูหาของสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ จัดแนะนำสายการบินและมีกิจกรรมร่วมสนุกมากมาย รวมทั้ง กิจกรรมบนเวทีย่อย “Thai Village” มีจุดถ่ายภาพให้ผู้เข้าร่วมได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และยังมีโอกาสได้พบกับ “น้องสุขใจ” ตัวมาสคอตของงานในปีนี้ และยังมีกิจกรรมร่วมสนุกเพื่อลุ้นรางวัลบัตรโดยสารเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ–โตเกียว จากการบินไทยและไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ อีกด้วย
...
ด้านการแสดงบนเวทีใหญ่ ปีนี้จะมีการแสดงของศิลปินในระดับแนวหน้าของไทยในหลากหลายแนวเพลง ได้แก่ เพลงลูกทุ่ง โดย ตั๊กแตน ชลดา และ เปา เปาวลี, เพลงป๊อป โดยวงสี่โพดำ เป็นการรวมตัวกันของแชมป์รายการ The Star 4 คน ที่มีเสียงคุณภาพ ได้แก่ แก้ม วิชญาณี, กัน นภัทร, โดม จารุวัฒน์ และ ตั้ม วราวุธ เพลงแดนซ์ โดยแกงส้ม ธนทัต และฮั่น อิสริยะ การแสดงของ เจมส์ จิรายุ พระเอกยอดนิยมและนักร้องที่มีชื่อเสียงของไทย ซึ่งกำลังมีผลงานละครไทยออกอากาศในญี่ปุ่น และจะมีผลงานเพลงในญี่ปุ่นในเร็วๆ นี้, การแสดงของวง VieTrio วงคลาสสิกแนว Cross Over และวง Tiger Club เป็นวงกลองชั้นนำของไทย โดยจะเป็นการผสมผสานระหว่างเพลงคลาสสิกและเพลงไทย, การแสดงนาฏศิลป์จากวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ การแสดงมวยไทย และดนตรีไทยจากนักแสดงไทยในญี่ปุ่น
สีสันของงานเทศกาลไทย ณ กรุงโตเกียว ปีนี้ นอกจากการแสดงแล้ว ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้เชิญ คณะนางสาวไทย ได้แก่ น.ส.วิลาสินี จันทร์วุฒิวงศ์ นางสาวไทย ปี 2557 รักษาการนางสาวไทยปี 2558 พร้อม น.ส.พิมพ์ชนก จิตต์ชู รองอันดับ 1 และ น.ส.เสาวลักษม์ ไชยศิริธัญญา รองอันดับ 2 ไปทำหน้าที่ทูตวัฒนธรรม ทูตการท่องเที่ยว และทูตการค้า โดยไปโชว์การแสดงนาฏศิลป์ชุดพิเศษ พร้อมร่วมกิจกรรม “มีต แอนด์ กรี๊ด” ถ่ายภาพกับผู้ที่ไปร่วมงานเป็นที่ระลึก เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติได้มีภาพที่ระลึกของงานกับไปโชว์ที่บ้าน
...