นายกฯ มอบนโยบายขับเคลื่อนแนวทาง "ประชารัฐ" ขออย่าให้ใครมาปลุกปั่น ฝากกำนัน-ผญบ. แจง รธน. ติงสื่อลงภาพผู้หญิงเปลือยติดข่าว "บรรหาร" เสียชีวิต
เมื่อวันที่ 25 เม.ย.59 ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ตามแนวทางประชารัฐ พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า ประชาธิปไตยจะต้องเกิดความเท่าเทียมและความเข้มแข็งจากภายใน ขออย่าฟังแต่สิ่งที่พูดสร้างความขัดแย้งและบิดเบือน ส่วนการที่ทหารเข้ามาเป็นเพราะประเทศติดล็อก รัฐบาลไม่มีนายกรัฐมนตรี ตนไม่ได้ยึดอำนาจจากนายกฯ อำนาจทหารเท่านั้นที่จะแก้ไขได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าทหารสนับสนุน ส่วนในปี 2553 ไม่มีใครอยากจะทำร้ายประชาชนอยู่แล้ว เพราะทหารไม่ใช่คนใจร้าย แต่เมื่อเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายก็ต้องทำ ตนยืนยันว่าไม่เข้าข้างใคร และขออย่าให้ใครมาปลุกปั่น อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ตนเข้ามา ไม่เคยชี้ว่าใครถูกหรือผิด ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่คนที่ยังไม่กลับมาเข้าสู่กระบวนยุติธรรมนั้น ตนจะไม่ทะเลาะด้วย แต่ยอมรับว่าอาจหงุดหงิดบ้าง ตนไม่มีพรรค รัฐบาลและ คสช.ทำตามสิ่งที่ประชาชนต้องการ ตั้งใจทำงานรับใช้คนทั้งประเทศ และไม่ต้องการอำนาจอีกแล้ว ประชาธิปไตยแม้จะเป็นระบบดีที่สุดในโลก แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด เพราะปัญหาเกิดจากคน และต้องสร้างความแข็งแรงให้กับทุกคน
...
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ตนไม่ต้องการอำนาจอีกแล้ว แต่กำลังให้อำนาจกับประชาชนในกรอบของกฎหมายด้วยประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ต่อไปขออย่าให้ใครมาเซ็นเช็คเปล่าให้กับประชาชนเพื่อไปใช้หาผลประโยชน์ โดยประชาชนได้ดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อย ไม่คุ้มกับผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับประเทศ วันนี้ตนจะคืนความสุขให้กับทุกคนทุกกลุ่ม อยากทำให้สำเร็จ สำหรับผลโพลที่ระบุว่าประชาชนร้อยละ 70 ไม่รู้เรื่องรัฐธรรมนูญและการทำประชามตินั้น เป็นเรื่องของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานท้องถิ่นที่จะต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจกับประชาชน และไม่ให้สถานการณ์เดิมกลับมาเลวร้ายอีก
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวตำหนิสื่อมวลชนแห่งหนึ่ง ที่เสนอภาพและพาดหัวข่าวการเสียชีวิตของ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ติดกับภาพผู้หญิงเปลือยอกว่า มันสมควรหรือไม่ ซึ่งแบบนี้ทำให้ต้องปฏิรูปสื่อมวลชนใหม่ ขณะเดียวกันละครไทยที่มีแต่การนำเสนอเรื่องทะเลาะกันทั้งเรื่อง ซึ่งทั้งอาเซียนนิยมดูละครไทย จะทะเลาะกันทั้งอาเซียนเลียนแบบละคร