ถึงตอนนี้แฟนลูกหนังชาวไทยทุกคน คงเฝ้ารอลุ้นระทึกกับผลการแบ่งสายฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ในรอบ 12 ทีมสุดท้าย ของขุนพล “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ว่าจะอยู่ร่วมสายกับชาติใดบ้าง โดยการจับสลากจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า วันที่ 12 เม.ย.
การแบ่งสายครั้งนี้จะเรียงตามแรงกิ้งฟีฟ่าล่าสุดของเดือน มี.ค. ที่จะประกาศอย่างเป็นทางการกันในวันที่ 7 เม.ย. แต่จากการคิดคำนวณกันนอกรอบคาดว่าแต่ละโถมีดังนี้ โถที่ 1 อันดับ 1 เอเชีย อิหร่าน /อันดับ 2 ออสเตรเลีย โถที่ 2 อันดับ 3 เกาหลีใต้/อันดับ 4 ญี่ปุ่น โถที่ 3 อันดับ 5 ซาอุดีอาระเบีย/อันดับ 6 อุซเบกิสถาน โถที่ 4 อันดับ 7 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์/อันดับ 8 จีน โถที่ 5 อันดับ 9 กาตาร์/อันดับ 10 อิรัก และ โถที่ 6 อันดับ 11 ซีเรีย/อันดับ 12 ทีมชาติไทยของเรา
สำหรับเกมรอบ 12 ทีมสุดท้าย ที่แบ่งออกเป็น 2 สาย เตะแบบเหย้าเยือน จะเริ่มออกสตาร์ตกันตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.59 และดวลแข้งข้ามปีไปสิ้นสุดนัดสุดท้ายกันในวันที่ 5 ก.ย.60
โดยทีมที่ได้อันดับ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ส่วนอันดับ 3 มาเพลย์ออฟกันแบบเหย้า-เยือน ทีมชนะไปเพลย์ออฟอีกครั้งกับอันดับ 4 โซนคอนคาเคฟ เหย้า-เยือน และผู้ชนะจะไปลุยเวิลด์คัพเป็นทีมสุดท้าย
นี่คือของจริงแล้วครับ สำหรับแข้งช้างศึกของเราที่นับแต่นี้ไปจะไม่มีงานง่ายให้เห็นแม้แต่เกมเดียว ทุกนัดทุกแมตช์ที่ลงสนามต้องเต็มที่ เต็มสูบเกินร้อย หากต้องการเก็บแต้มเพื่อลุ้นตั๋วไปบอลโลกกับเขาเที่ยวนี้
ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดย “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ก็เรียกทุกฝ่ายมาระดมสมองกันเพื่อวางแผนเตรียมทีมไทยสำหรับการคัดบอลโลก ที่เราหวังผลเลิศในการไปลุยศึกเวิลด์คัพให้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อย่างที่แฟนบอลทั้งชาติวาดฝันเอาไว้มาเนิ่นนาน
...
แต่กับความเป็นจริงเรามีเวลาเก็บตัวฝึกซ้อมตามมาตรฐานฟีฟ่า คือ ก่อนแข่งเพียง 7 วันนั้น เพียงพอหรือไม่กับเกมระดับนี้
ก็ตอบเลยครับว่า “ไม่พอ” เพราะถ้าเปรียบเป็นการสอบ และทีมบอลไทยของเราเป็นนักเรียน นี่เรากำลังจะสอบกับบรรดาเด็ก “ห้องคิง” นะครับ! ไม่ใช่เด็กทั่วๆไปอย่างที่เคยเจอกันมา
ดังนั้น ถ้าคิดจะสอบเอาชนะหัวกะทิ ในขณะที่ศักยภาพของเรายัง “ธรรมดา” คุณก็ต้องทั้งเรียนพิเศษ ติวเข้ม ทุกกระบวนท่าให้มากกว่าเขาเป็นเท่าตัว มันถึงจะพอลุ้นกันได้
น่าเห็นใจกุนซือใหญ่ อย่าง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กับภารกิจหนักอึ้งที่จะต้องเผชิญ ซึ่งเตรียมทีมกันเท่านี้พอหรือไม่พอ ผมว่า “ซิโก้” นั่นแหละเขารู้ดีที่สุด แต่มาถึงตรงนี้แล้วก็คงพูดอะไรไม่ออกเพราะทุกอย่างมันถูกระบุว่าเป็นมติสภากรรมการ
ขณะที่ “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ในฐานะประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค ก็กำลังถูกจับจ้องว่าเข้ามามีบทบาทควบคุมการทำงานของ “ซิโก้” ซึ่งในความเป็นจริงทั้งคู่เป็น “คนลูกหนัง” ตัวจริง ที่ต่างคน ต่างสไตล์ ต่างความคิด แต่เมื่อผู้หลักผู้ใหญ่พยายามจับให้มาร่วมงานกันเพื่อชาติ
ยังไงก็ขอให้ช่วยกัน “ประสานงาน” ไม่ใช่ “ประสานงา”
เพราะคนที่นั่งไขว่ห้างข้างโต๊ะ เขารอหัวเราะกลิ้งอยู่!!!
บี บางปะกง