นักวิชาการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลฯ เก็บตัวอย่างน้ำทะเลหาดป่าตอง หลังเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เข้าแล็บตรวจสอบสาเหตุ ขณะ นทท.หลายคนเริ่มคัน มีตุ่มขึ้น แสบตา ด้านผู้ประกอบการหวั่นกระทบท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 มี.ค. 59 นายศุภสิทธิ์ บุญเพียรผล นักวิชาการประมง ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำทะเลบริเวณชายหาดป่าตอง นำเข้าห้องแลบตรวจสอบหาสาเหตุ หลังน้ำทะเลใกล้ชายหาดเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ทำให้ผู้ประกอบการบริเวณชายหาดหวั่นวิตก นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติไม่กล้าลงเล่นน้ำ ซึ่งเกรงจะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว

จากการตรวจสอบเบื้องต้น น้ำทะเลที่เป็นสีน้ำตาลไม่มีกลิ่น โดยเป็นสีน้ำตาลตั้งแต่ชายหาดและกินพื้นที่ออกไปในทะเล ลึกราว 300 เมตร นอกเหนือจากนั้นเป็นสีฟ้าเหมือนปกติ ซึ่งนักวิชาการยังไม่สามารถตอบได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากห้องแล็บ โดยน้ำทะเลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีมาตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา อีกทั้ง มีหลายคนเกิดอาการคันหลังโดนน้ำทะเลบริเวณดังกล่าว

...

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างน้ำทะเลไปทำการวิเคราะห์จำนวน 3 จุด ได้แก่ หน้าคลองปากบาง สะพานคอรัลบีช, หลังป้อมตำรวจซอยบางลา และ หน้าสวนสาธารณะโลมา ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้

นายศุภสิทธิ์ กล่าวว่า จากการวัดค่าของน้ำด้วยอุปกรณ์วัดคุณภาพแบบพกพา พบว่าคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ต้องนำกลับไปตรวจสอบในแล็บอีกครั้ง เพื่อดูว่ามีแพลงก์ตอนหรือธาตุอาหารใดอยู่ในน้ำหรือไม่ เพราะสอบถามผู้สัมผัสน้ำหลายคนเริ่มมีอาการคัน คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 1 วัน น่าจะทราบผล ส่วนที่พบสาหร่ายลอยเกยตื้นนั้น เบื้องต้น พบเป็นสาหร่ายสีน้ำตาลและสาหร่ายสีแดง ซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติและปกติ ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง แต่ที่พัดขึ้นมาน่าจะเกิดจากกระแสคลื่นลมที่แรงกว่าปกติ แต่ได้เก็บตัวอย่างกลับไปวิเคราะห์ด้วย

จากการสอบถามผู้ประกอบการเจ็ตสกี กล่าวว่า ในช่วงเช้าน้ำทะเลอาจจะมีสีอ่อนเพราะน้ำขึ้นสูง แต่ช่วงบ่ายคาดว่าน้ำจะสีน้ำตาลเข้มอีกเหมือน 2-3 วันที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้พบว่าผู้ที่สัมผัสน้ำหลายคนเกิดอาการคัน มีตุ่มขึ้นที่แขน ขา ข้อพับ ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากน้ำเสีย ขณะที่นักท่องเที่ยวบางส่วนยังคงลงเล่นน้ำตามปกติ แต่บางคนลงเล่นไม่นานก็ขึ้นจากน้ำ เพราะมีอาการแสบตา.