เกิดกระแสแชร์กระหน่ำในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับพิษในมันฝรั่ง กินแล้วตายได้ โดยข้อความที่แชร์กันเขียนไว้ว่า “โปรดส่งต่อ! มันฝรั่งที่มีลักษณะหน่อแบบนี้ขึ้นมา อย่ากิน อันตรายมาก เพราะมีสารมีโซนิน ซึ่งเป็นสารมะเร็งสูงมาก กินเข้าไป ตายลูกเดียว” ซึ่งหลายคนที่ได้อ่านข้อความนี้ ก็พากันแสดงความคิดเห็น และตั้งข้อสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ล่าสุด อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์อธิบายถึงข้อความที่แชร์กันว่า มีความจริงเพียงส่วนหนึ่ง มันฝรั่งที่มีหน่อขึ้นนั้นอันตรายจริง แต่ไม่ได้กินแล้วตายลูกเดียว โดยมันฝรั่งที่งอกหน่อหรือลำต้นแทงขึ้นมา จะมีการสร้างสารพิษที่ชื่อว่า โซลานีน (solanine) ซึ่งมีพิษรุนแรงแม้ปริมาณเล็กน้อย ดังนั้นจึงห้ามกินหน่อของมันฝรั่ง หรือส่วนเนื้อที่มีสีเขียว เพราะถ้ากินเข้าไป จะมีอาการปวดหัว ตัวร้อน คลื่นไส้ อาเจียน เห็นภาพหลอน ช็อกเกร็ง ตาลาย หายใจแผ่ว ฯลฯ ไม่ควรพยายามให้อาเจียน แต่ควรส่งแพทย์โดยทันที
...
วิธีกำจัดสารพิษก็คือ การนำมันฝรั่งไปทอดน้ำมันร้อนจัดที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ซึ่งจะลดปริมาณโซลานีนได้ดีที่สุด หรือการนำไปต้มให้สุกก็ช่วยได้เช่นกัน แต่ไม่แนะนำให้นำไปเข้าเตาอบไมโครเวฟ เพราะลดปริมาณสารได้ไม่ดีนัก แนะนำว่าก่อนจะรับประทาน ควรนำไปทอดให้สุกก่อน เพื่อความปลอดภัย