4 กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน อันได้แก่ C =Cambodia, L =Lao, M=Myanmar และ V=Vietnam ซึ่งเพื่อนสมาชิกด้วยกัน ลามไปไกลประเทศอื่นๆ มองเห็นโหงวเฮ้งเศรษฐกิจแล้วว่า อนาคตรุ่งแน่นอน!!!

สังเกตได้จากประชาชนในประเทศนั้นๆ เริ่มควักเงินจับจ่ายใช้สอย มากกว่านั่งล้อมวงถกเถียง ปัญหาเรื่องปากท้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดย เฉพาะซื้อของทางออนไลน์ด้วยแล้ว ยกตัวอย่าง คนเวียดนาม ทั้งทำงานออฟฟิศกับข้าราชการประจำ แม้แต่บุคคลทั่วไปจากข้อมูลเว็บไซต์ข่าว Nikkei พบอย่างน้อย 3 แสนคนหันมาเป็นพ่อค้า-แม่ขายทางสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก กันมากขึ้น เช่น สาวออฟฟิศ อายุ 34 ปี คนหนึ่ง ที่ยามว่างขายเครื่องสำอางกับเสื้อผ้าที่ซื้อมาจากเมืองนอก สร้างรายได้เสริมตกเดือนละ 200 ล้านด็อง (ราว 3 แสนบาท)

“คืออิฉันจะใช้วิธีไปเช่าโกดังไว้เก็บสินค้ากับจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า ก็ต้องขอบใจเพื่อนๆ ที่เข้าไปคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกับลูกค้าทั้งขาประจำ ขาจรที่เข้าไปดูแล้วซื้อของด้วยความ มั่นใจ ตัวอิฉันเองก็ไม่ชอบผลัดงาน เพราะถ้าเราส่งของช้า ก็จะโดนคอมเมนต์ทันที”

และจากที่เคยส่วนใหญ่ลงสินค้าขายที่เกี่ยวกับอาหารการกินและของสวยๆงามๆแต่มาระยะหลังคนขายชาวญวนเริ่มลงสินค้าที่ เกี่ยวกับรถ บ้าน เครื่องเพชร อุปกรณ์เครื่องใช้ ภายในบ้าน และเฟอร์นิเจอร์กันมากขึ้น ดูจากภาพประกอบที่ประกาศขายรถไฟฟ้าขนาดจิ๋ว 2 ที่นั่ง ราคาตั้งแต่ 32-50 ล้านด็อง (ราว 50,000-80,000 บาท) ก็มีคนเข้าไปกดไลค์เกือบ 300 คน และอยากซื้อไว้เป็นเจ้าของด้วย

สอดคล้องกับคำพูดของ มร.โดอัน ดุยกวา ผู้อำนวยการฝ่ายผู้บริโภค บริษัท นีลเสน ประจำเวียดนาม เผยว่า “ตลาดอีคอมเมิร์ซในเวียดนามเติบโตขึ้นอย่างน่าชื่นใจ กิจกรรมบันเทิงหลายๆอย่าง เช่น ท่องเที่ยวเริ่มเห็นแล้วว่าผู้บริโภคราวครึ่งหนึ่งหันไปซื้อแพ็กเกจทัวร์มากขึ้น แม้แต่ตั๋วหนัง บัตรคอนเสิร์ต นิทรรศการและการแข่งขันกีฬา เพื่อเข้าไปค้นหาข้อมูลและการบริการก่อนตัดสิน

...

แล้วยิ่งตลาดสมาร์ทโฟนที่เบ่งบานราวดอกเห็ดเจอผงฟู่ ไม่ใช้แค่โทร.เข้า โทร.ออก แต่ 58% ยังไว้ใช้ช็อปปิ้ง 56% ดาวโหลดแอพฯ In-store ที่ขายของถูกไว้ในเครื่อง และ 44% พึ่งแอพฯ ร้านค้าปลีกไว้สั่งซื้อของเข้าบ้านอีกด้วย”.

ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ