ผกก.สน.หัวหมาก เผยสอบแล้ว 26 ปาก เรือแสนแสบบึม ส่วนสาเหตุรอผล พฐ. ด้านผู้ประกอบการเข็ดสั่งหยุดเรือก๊าซทั้งหมด รื้อสถานีเติมก๊าซ ไม่หวั่นสูญ 22 ล้าน ห่วงความปลอดภัยประชาชน ขณะรองอธิบดีกรมเจ้าท่า สั่งตรวจเครื่องยนต์ทุก 6 เดือน
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 6 มี.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณท่าเรือเทพลีลา ซอยรามคำแหง 39 แขวงวังทองหลาง เขตบางกะปิ ภายหลังจากเกิดเหตุเรือโดยสารคลองแสนแสบระเบิดขณะกำลังเข้าเทียบท่า โดยบรรยากาศในช่วงเช้าวันนี้ ยังคงมีประชาชนมารอใช้บริการแต่มีน้อยลงจากช่วงเวลาปกติ ขณะประชาชนที่ทราบข่าวบางส่วนมาดูบริเวณจุดที่เกิดเหตุและให้ความสนใจถ่ายภาพ และพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้ใช้บริการรายหนึ่งเปิดเผยว่า ปกติโดยสารเรือจากท่าเทียบเรือเทพลีลาเป็นประจำ เพื่อเดินทางไปแถวย่านทองหล่อ หรือประตูน้ำ เนื่องจากมีความรวดเร็วกว่ารถประจำทาง หลังเกิดเหตุขึ้นไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด เพราะคิดว่าไม่ว่าจะโดยสารยานพาหนะใดก็อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เหมือนกัน และจะยังจะใช้บริการเรือต่อไป
...
พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า พนักงานสอบสวนสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว 26 ปาก เป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ 22 ปาก ผู้เกี่ยวข้องทั้งคนขับเรือ เด็กในเรือ รวม 4 ปาก และวันนี้จะสอบปากคำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ เพิ่มเติมอีก 19 คน ทั้งนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 4 คน อยู่ในห้องไอซียู เพื่อเฝ้าระวังแผลติดเชื้อ และขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับใคร เพราะต้องรอการสอบปากคำให้เสร็จสิ้น และต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานก่อน
ขณะเดียวกัน ที่ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง ซึ่งเป็นที่ทำการบริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด นายเชาวลิต เมธยะประภาส อายุ 64 ปี เจ้าของบริษัท ผู้ให้บริการเรือด่วนคลองแสนแสบ พาผู้สื่อข่าวเยี่ยมชมสถานีเติมก๊าซของบริษัท ก่อนจะเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ส่งคนเข้าไปดูแลผู้บาดเจ็บแล้ว โดยจะดูแลและชดเชยให้ตามความเป็นจริงทุกคน ขอรับรองว่าจะไม่ทอดทิ้งผู้บาดเจ็บทุกคนอย่างแน่นอน ส่วนสาเหตุการระเบิดต้องรอการพิสูจน์จากกรมเจ้าท่า และกองพิสูจน์หลักฐาน ในฐานะผู้ประกอบการ ได้สั่งการให้เลิกใช้เรือที่มีการติดก๊าซแอลเอ็นจีทั้ง 25 ลำแล้ว
นายชวลิต กล่าวต่อว่า ในเรื่องการดูแลความปลอดภัยเรื่องอื่นๆ จะต้องคุยกับกรมเจ้าท่าว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร ในส่วนของการติดตั้งระบบก๊าซบนเรือ มีหลายบริษัทที่ได้รับการรับรอง รวมถึงบริษัท ปตท. ซึ่งสาเหตุการระเบิดอาจจะเกิดจากความบกพร่องของอุปกรณ์ส่วนประกอบมากกว่า พร้อมยืนยันว่าจะไม่ยอมใช้ก๊าซอีกแล้ว เพราะผลกระทบเกิดขึ้นกับประชาชน
ทั้งนี้ ที่เลือกใช้ก๊าซแอลเอ็นจีเนื่องจากเมื่อ 8-9 ปีที่แล้วน้ำมันมีราคาแพง ประกอบกับรัฐบาลสนับสนุนให้ใช้พลังงานทดแทน จึงตัดสินใจลงทุนทำสถานีเติมก๊าซแอลเอ็นจีที่ท่าเรือวัดศรีบุญเรือง ไปกว่า 22 ล้านบาท รถขนถ่ายก๊าซอีก 8 ล้านบาท ค่าติดตั้งระบบก๊าซที่เรืออีกลำละกว่า 6 แสนบาท ซึ่งหลังจากดำเนินการถอดถังก๊าซเรียบร้อยแล้ว จะรื้อถอนสถานีเติมก๊าซด้วย เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
...
ต่อมา 11.00 น. นายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เดินทางลงพื้นที่ท่าเรือวัดศรีบุญเรือง พร้อมกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการระเบิดที่แน่ชัด ในขั้นตั้นเกิดจากก๊าซแอลเอ็นจีอย่างแน่นอน ส่วนสาเหตุการจุดระเบิดต้องตรวจสอบเชิงลึกของทางวิทยาศาสตร์ แต่ทางกรมเจ้าท่าได้ประสานหน่วยงานของ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือร่วมกัน โดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาร่วมตรวจสอบด้วย
ส่วนมาตรการขั้นต่อไป เบื้องต้นจะต้องให้มีเจ้าหน้าที่เฉพาะทางเกี่ยวกับระบบเชื้อเพลิงประจำอยู่ตามท่าเรือต่างๆ และจะต้องมีการตรวจสอบมาตรฐานของระบบเครื่องยนต์และเชื้อเพลิงบ่อยขึ้น จากเดิมที่มีการตรวจปีละ 1 ครั้งต่อการต่ออายุใบอนุญาต เพิ่มเป็นตรวจและทดสอบระบบทุก 6 เดือน
นอกจากนี้ กรมเจ้าท่า ยังมีนโยบายเปลี่ยนเรือโดยสารคลองแสนแสบให้มีความเป็นสากลและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยประสานกับบริษัทจากต่างประเทศให้ออกแบบเรือโดยสารที่เหมาะสมกับการใช้งานในลำคลองแสนแสบเอาไว้แล้ว คาดว่าจะได้เห็นในอีก 1-2 ปี และต่อไปจะต้องขยายมาตรการการตรวจสอบมาตรฐานไปยังบริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมทางเรืออีกด้วย
...
อย่างไรก็ตาม แผนการเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ทางบริษัทครอบครัวขนส่ง ซึ่งมีประกันภัยที่พร้อมจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลและอื่นๆ อยู่แล้ว หากยังไม่เพียงพอทางบริษัทครอบครัวขนส่ง ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือค่าส่วนต่าง
รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวต่อว่า เรือโดยสารที่ใช้น้ำมันดีเซล ที่เหลือ 47 ลำ จะให้บริการตามปกติ โดยทั่วไปแล้วในวันจันทร์-ศุกร์ จะใช้ 53 ลำ แม้จะเหลือ 47 ลำ ก็ยังมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารมากเกินไป ส่วนค่าโดยสารหลังเปลี่ยนกลับมาใช้น้ำมันดีเซล จะต้องตั้งคณะกรรมการการโดยสารขึ้นมาหารืออีกครั้ง แต่ตามกฎหมาย หากน้ำมันดีเซลต่อลิตรต่ำกว่า 21 บาท จะต้องลดราคาค่าโดยสารลง แต่หากเกิน 25 บาทต่อลิตร ต้องขึ้นค่าโดยสารจากเดิมอีก 1 บาท
ขณะที่ นายกวิน สกาวจิต อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่วิศวกรติดตั้งถังก๊าซแอลเอ็นจี เปิดเผยว่า ขณะนี้ดำเนินการถอดถังก๊าซแอลเอ็นจีที่ติดตั้งอยู่บนเรือโดยสารออกแล้ว 20 ลำ และคาดว่าน่าจะเสร็จสิ้นภายในวันนี้ ส่วนลำที่เกิดเหตุยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ เนื่องจากต้องรอผู้ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนเรือลำไหนที่มีการถอดถังออกเสร็จ จะติดตั้งที่นั่งปิดส่วนที่เคยติดตั้งถังก๊าซ ก่อนจะนำมาให้บริการตามปกติต่อไป.
...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง