เศรษฐกิจยุคใหม่ที่เคยอยู่ในกำมือของประเทศผู้ผลิตน้ำมันกำลังจะเปลี่ยนไป ราคาน้ำมันในตลาดโลก ที่ตกต่ำถึงขีดสุด และมีแนวโน้มที่จะตกต่ำลงเรื่อยๆไม่ใช่เป็นเพราะปริมาณน้ำมันมีมากกว่าความต้องการเท่านั้น แต่ความต้องการในการใช้พลังงานกำลังเปลี่ยนไปเพราะ ปัญหาโลกร้อน และมีผลกระทบกับมวลมนุษย์โดยตรง กลายเป็นตัวกำหนดให้พฤติกรรมการใช้พลังงานของ โลกในอนาคต จะเปลี่ยนเป็นพลังงานสีเขียวแทนทั้งหมด
แนวโน้ม การผลิตรถยนต์จะใช้ไฟฟ้า มีมากขึ้นและจะเป็นต้นแบบของรถยนต์ในอนาคต โรงผลิตไฟฟ้าที่ผลิตโดย ก๊าซ น้ำมัน หรือถ่านหิน กำลังจะหมดไป ไม่ว่าในสหรัฐฯหรือยุโรป หันมาใช้พลังงานธรรมชาติ โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ ที่จะเป็นพลังงานยุคใหม่ทดแทนเป็นส่วนใหญ่
ในสหรัฐฯทุก 3 นาทีจะมีการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใช้ตามบ้านเรือนและสามารถขายให้หน่วยงานของรัฐ ซึ่งต่อไปการไฟฟ้าจะมีหน้าที่บริหารจัดการการใช้ ไฟฟ้าของประเทศ แทนการทำหน้าที่ผู้ผลิตเพื่อขายไฟฟ้าให้กับ ประชาชน แต่ประชาชนจะเป็นทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนงบประมาณของรัฐได้อย่างมหาศาลและยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศโดยปริยาย
นอกจากนี้ ต้นทุนของ ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ในอนาคตจะลดลงและจะมี ข้อจำกัดเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รัฐบาลชุดนี้ดูจะเดินมาถูกทาง เมื่อเร็วๆนี้มีหนังสือจาก สำนักเลขาธิการ ครม. เรื่องปัญหาและอุปสรรคในการประกอบกิจการโรงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และโรงงานกำจัดขยะ โดยอ้างมติ ครม.เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2559 โดยรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม ได้รายงานเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคของโครงการดังกล่าว
ตามที่ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมตามกฎหมายว่าด้วยผังเมือง ในปัจจุบันห้ามไม่ให้ตั้งโรงงานทั้ง 2 ประเภทในเขตที่กำหนดใน กฎกระทรวง ซึ่งกรณีนี้แก้ปัญหาโดยคำสั่ง คสช.ที่ 4/2559 ยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงว่าด้วยผังเมืองรวม สำหรับการประกอบกิจการบางประเภท
...
นอกจากนี้ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงานยังได้ยืนยันด้วยว่าให้ยกเลิกสัญญาโซลาร์ฟาร์มที่ยังค้างท่อกรณีส่งมอบไฟฟ้าให้ไม่ทันกำหนดวันที่ 31 ธ.ค.ทั้งหมด ซึ่งบางรายก็อ้างเรื่องของผังเมืองใหม่และปัญหาอื่น จึงให้พิจารณาชี้แจงเหตุผลและผ่อนผันเป็นรายๆไปเพื่อผลิตไฟฟ้าให้ทันตามความต้องการ
ปัญหาที่พบก็คือไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์สามารถที่จะป้อนเข้าระบบได้เพียง 15 โครงการ จำนวน 114.2 เมกะวัตต์เท่านั้น ดังนั้น เมื่อความสำคัญของการผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์เป็นพลังงานในอนาคตที่จะทดแทนน้ำมันและถ่านหิน รัฐก็ควรจะเปิดโอกาสให้เอกชนที่เคยยื่นเรื่องเข้าร่วมโครงการล้างท่อกันใหม่หรือผ่อนผันให้สหกรณ์ภาคการเกษตรทั่วประเทศมาดำเนินการแทนโครงการที่ไม่สามารถส่งมอบไฟฟ้าให้กับรัฐได้ตามสัญญา
จะเป็นการแก้ไขปัญหาพลังงานของประเทศได้ถูกทิศถูกทางมากที่สุด.
หมัดเหล็ก
mudlek@hotmail.com