สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านที่รัก สัปดาห์นี้มาดามจะพาไปทัวร์เบื้องหลังฉาวๆของวงการบันเทิงฮอลลีวูด ในภาพยนตร์ดราม่าตลกเสียดสีเรื่องแรกของปีอย่าง “Hail, Caesar!”

ขึ้นชื่อว่าวงการบันเทิง จะอยู่ที่ไหนในโลกก็ฉาวและดราม่าหนักมากเหมือนๆกันหมด ไม่เว้นแม้แต่วงการใหญ่ระดับโลกอย่างฮอลลีวูด ซึ่งเต็มไปด้วยซุปตาร์นักแสดงมากฝีมือ ยิ่งฉาวและลวงตาเป็นเท่าตัว แถมเป็นมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกวงการ (ในเรื่องคือฮอลลีวูดช่วงปี 1950) ใช่ว่าเพิ่งฉาวซะเมื่อไหร่!

“Hail, Caesar!” แปลตรงตัวว่า “เสียงโห่ร้องของซีซ่า” ไม่ใช่ว่าเนื้อเรื่องจะบอกเล่าถึงความยิ่งใหญ่ของซีซ่าหรอกนะคะ แต่ “Hail, Caesar!” เป็นชื่อเรื่องของภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในเรื่องนี้ต่างหาก

แล้วเสียงโห่ร้องนั้นสำคัญไฉน...ความจริงมันก็ไม่ได้เป็นจุดสำคัญมากหรอกค่ะ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างเท่านั้นเอง เพราะนักแสดงที่รับบทซีซ่าในเรื่องนี้ “จอร์ช คลูนีย์” ถูกลักพาตัวกลางกองถ่าย!

เรื่องวุ่นๆเริ่มจากตรงนั้นค่ะ ตามด้วยเรื่องยุ่งเหยิงอื่นๆในกองถ่าย เผยเบื้องหลังอันฉาวโฉ่ของบรรดาซุปตาร์ชื่อดัง ที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนเราเห็นในภาพเบื้องหน้า แต่ฟอนเฟะไม่แพ้วงการมายาชาติไหนๆ แถมลึกลับซ่อน เงื่อนเต็มไปด้วยเล่ห์กล แบบที่คุณๆจะคิดไม่ถึงเลยว่า ซุปตาร์หน้าใสเขาก็ทำกันได้

...

ความจริงเนื้อหาฉาวๆ เผยเนื้อแท้ของคนในวงการ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับผู้ชมชาวไทย แต่โดยมากเรื่องในวงการบ้านเรา จะถูกถ่ายทอดให้ฉาวแบบดราม่าหนักๆ บีบน้ำตาและเรียกร้องความสนใจ แต่สำหรับวงการฮอลลีวูด เรื่องฉาวๆ กลับเป็นดราม่าเสียดสีที่เรียกเสียงโห่และเสียงฮาได้ตลอดเรื่อง

นอกจากนี้ จุดเด่นของเรื่องนี้ก็คือวิธีเล่าเรื่องค่ะ เป็นการเล่าแบบภาพยนตร์ซ้อนภาพยนตร์ คือตัวละครจะเล่าเรื่องในวงการอีกที โดยเล่าผ่านการถ่ายทำฉากในภาพยนตร์ต่างๆ ถือเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์และเรื่องราวลับๆ เบื้องหลังฉากสวยงามและน่าประทับใจไปในตัว ซึ่งสำหรับคนไทย อาจไม่ใช่ของใหม่ แต่ก็ไม่ใช่วิธีการที่เราคุ้นเคยนัก


ตัวอย่างภาพยนตร์ Hail, Caesar! (2016)

แต่ถึงจะเล่ายาก และมีความหมายแอบ แฝงไปกับการกระทำของตัวละครมากแค่ไหน แต่รวมๆแล้ว “Hail, Caesar!” ก็มีเนื้อหาที่เข้าใจไม่ยากนักหรอก รับรองได้ว่า ...คุณๆจะประทับใจเสียงโห่ร้องจากฮอลลีวูดไม่รู้ลืมเลย.

...

มาดามอองทัวร์