สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกแถลงการณ์ จี้ผู้บริหารช่อง 3 ทบทวนการทำหน้าที่ของ "สรยุทธ" แม้กรณีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการอุทธรณ์ก็ตาม เพื่อสร้างบรรทัดฐานด้านจริยธรรมให้กับวงการสื่อไทย ...
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 59 สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แถลงการณ์เรื่องการทบทวนการทำหน้าที่ของพิธีกรข่าว หลังจากที่ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ให้จำคุก นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการข่าวของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด เป็นเวลา 13 ปี 4 เดือน ในข้อหาที่เกี่ยวกับการทุจริตค่าโฆษณาของ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) และต่อมา นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ คำพิพากษาดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสเรียกร้องให้ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ยุติการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
ด้านผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 มีมติให้ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ทำหน้าที่ต่อไป โดยนายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ุ ปฏิบัติการแทนรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด หรือ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ให้เหตุผลว่า เนื่องจากกรณีนี้เกิดขึ้นก่อนที่ นายสรยุทธ มาร่วมงานกับสถานี และคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยและสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ซึ่งเป็นองค์กรวิชาชีพที่มีสมาชิกระดับบุคคลและระดับองค์กรของสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุต่างๆ ทั่วประเทศ ได้ร่วมหารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ประกอบกับความคิดเห็นและปฏิกิริยาของส่วนต่างๆ ในสังคม มีความเห็นว่ากรณีดังกล่าวมีผลกระทบไม่ใช่เฉพาะต่อความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อวงการสื่อมวลชนไทยในภาพรวม ซึ่งกำลังอยู่ในภาวะที่ถูกสังคมตั้งคำถามต่อความรับผิดชอบและจริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ แม้กรณีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการอุทธรณ์ แต่คำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นการพิสูจน์ในขบวนการยุติธรรม มีหลักฐานเพียงพอว่า นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นความผิดทั้งทางด้านอาญาและด้านจริยธรรม
...
ฉะนั้น สังคมจึงมีความคาดหวังว่า สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จะแสดงความรับผิดชอบและเป็นตัวอย่างในการวางมาตรฐานจริยธรรม ด้วยการให้ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ยุติบทบาทหน้าจออย่างน้อยเป็นการชั่วคราวจนกว่าคดีจะสิ้นสุด สื่อมวลชนไทยได้ยึดมั่นในหลักการของการกำกับและดูแลกันเอง เพื่อสร้างหลักประกันสำหรับเสรีภาพในการรายงานข้อมูล ข่าวสาร และแสดงความคิดเห็นมาตลอด แต่จุดยืนของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ต่อกรณี นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ทำให้หลักการของการกำกับดูแลกันเองของสื่อถูกตั้งคำถามมากขึ้น และเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับความพยายามของกลุ่มคนที่ต้องการให้มีกลไกที่มีอำนาจทางกฎหมายในการควบคุมและลงโทษสื่อที่ละเมิดจริยธรรม
สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย จึงขอเรียกร้องให้ผู้บริหารของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทบทวนการทำหน้าที่ของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เพื่อเป็นแบบอย่างในการสร้างบรรทัดฐานด้านจริยธรรมให้กับวงการสื่อมวลชนไทย.