นักวิทยาศาสตร์หลายประเทศเสนอรายงาน ชี้มลพิษในอากาศ เป็นต้นเหตุให้ผู้คนตายก่อนวัยอันควร ด้วยโรคร้ายถึง 5.5 ล้านคน ในปี 56 ในจำนวนนี้กว่าครึ่ง อยู่ในจีนและอินเดีย
เมื่อ 13 ก.พ. 59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวที่ชาวโลกคงตะลึงด้วยความคาดไม่ถึง เมื่อเหล่านักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐฯ แคนาดา จีน และญี่ปุ่น เสนอรายงานประจำปี ในการประชุมสมาคมความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ระบุ มลพิษในอากาศ เป็นสาเหตุทำให้ผู้คนกว่า 5.5 ล้านคน ตายก่อนวัยอันควร ในปี 2556 ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตเหล่านี้ กว่าครึ่งหนึ่ง อาศัยอยู่ในอินเดียและจีน
ตามรายงานของนักวิทยาศาสตร์จากหลายประะเทศ ชี้ว่า ในปี 2556 นั้น มลพิษในอากาศได้เป็นเหตุให้ประชาชนในจีน เสียชีวิต 1.6 ล้านคน และที่ อินเดีย 1.4 ล้านคน โดยนายไมเคิล บรอเออร์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบีย กล่าวว่า มลพิษในอากาศเป็นปัจจัยเสี่ยงลำดับที่ 4 ที่ทำให้ประชากรโลกเสียชีวิต และก้าวขึ้นมาเป็นปัจจัยเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมอันดับหนึ่งที่เป็นเหตุผู้คนป่วยด้วยโรคร้ายหลายโรค ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมอง โรคมะเร็งปอด
...
ไมเคิล บรอเออร์ และทีมนักวิจัยของเขา ได้เปรียบเทียบให้เห็นถึงปัญหามลพิษทางอากาศในเอเชีย โดยเฉพาะที่จีน และอินเดีย ซึ่งมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหมือนกับสหรัฐฯ และยุโรปที่เคยอยู่ในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อหลายทศวรรษก่อน โดยตามรายงานของนักวิจัยจากจีนระบุว่า เฉพาะมลพิษในอากาศที่เกิดจากการเผาไหม้ของถ่านหินเพียงอย่างเดียว ได้คร่าชีวิตผู้คนในจีนไปถึง 366,000 คน ในปี 2556.