14กุมภาพันธ์... “วันวาเลนไทน์”...“วันแห่งความรัก” ตำนานเล่าขานยุคจักรวรรดิ โรมันเรืองอำนาจเป็นวันที่จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพเจ้าจูโน มูลเหตุ...เริ่มจากยุคที่ชายหนุ่ม หญิงสาวถูกแยกขาดออกจากกัน ด้วยเพราะ
“ความรัก” ...ทำให้ชายหนุ่มไม่อยากออกรบจากไกลคนรัก...ห่างครอบครัว
ผล...ทำให้ผู้นำในยุคทำสงครามนองเลือดประกาศสั่งห้าม ไม่ให้มีการจัดพิธีหมั้น แต่งงานกันในกรุงโรมอย่างเด็ดขาด นำพาความทุกข์ใจให้เกิดขึ้นถ้วนทั่วทุกหัวระแหง
ทว่า...“เซนต์วาเลนไทน์” หรือ “วาเลนตินัส” นักบุญอาศัยอยู่ในโรมร่วมมือกับเซนต์มาริอัสก็ฝ่าฝืนจัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่ ด้วยความปรารถนาดี...ทำให้ตนเองถูกจับ ขณะเป็นนักโทษก็ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ เชื่อกันว่า...เขาได้ตกหลุมรักหญิงคนหนึ่งที่เป็นลูกสาวผู้คุม ที่มาเยี่ยมระหว่างถูกขัง

คืนก่อนวันถูกประหารด้วยการตัดศีรษะ วาเลนไทน์ได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า...“From Your Valentine” ตำนานรักวาเลนไทน์ผ่านมากว่า 1,700 ปีแล้ว ได้กลายเป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความรักที่สำคัญทั่วโลก...เป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือกหญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันนี้
...
O O O O
“แม่นาคพระโขนง”...ตำนานรักฉบับสำคัญของประเทศไทย ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ความรักคู่ใดในโลกนี้ แม้แต่ความตายก็ไม่อาจพรากหัวใจของ “นางนาค” ไปจากสามี “พี่มาก” ไปได้
อดีตเป็นเพียงเรื่องเล่า แต่ปัจจุบันที่เห็นเป็นเรื่องจริง คลื่นศรัทธาจากผู้คนที่แวะเวียนเข้ามาสักการบูชา “ศาลย่านาค” ตั้งอยู่ใน “วัดมหาบุศย์” ถนนอ่อนนุช ซอย 7 เขตพระโขนง กทม. ไม่เว้นแต่ละวัน ยิ่งเป็นวันหยุดยาว...เสาร์ อาทิตย์ คนต่อแถวซื้อดอกไม้ไหว้ย่าฯยาวหลายสิบเมตร รถก็จอดกันเต็มลานวัดแน่นขนัดไปหมด จนร้านค้าแทบจะตั้งขายของกันไม่ได้ ยิ่งใกล้วันหวยออกไม่ต้องพูดถึง กระแสศรัทธาหนาตากว่า...หลายเท่าตัว

“ขอให้รวย...ขอหวย...เลขเด็ด” เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ แต่ที่เด่นๆอันดับหนึ่งก็คือขอเรื่อง...“ความรัก” รองลงมาก็จะเป็นเรื่อง “เกณฑ์ทหาร”
ไหว้ย่านาคด้วยธูป 2 ดอก เทียน 1 เล่ม ทองคำเปลว 1 แผ่น ดอกไม้อีก 1 อย่าง...ถ้าจะบนขอเรื่องต่างๆจะเพิ่มดอกไม้ไปอีก 1 อย่าง...รวมเป็น 2 อย่าง ทั้งดอกไม้กำและพวงมาลัยดอกไม้
ธูป 2 ดอก...ไหว้ย่านาค 1 ดอก และไหว้ลูกย่าอีก 1 ดอก...ทองคำเปลว 1 แผ่น จะติดแม่หรือลูกก็ได้ ส่วนใหญ่จะติดแม่ โดยมีข้อห้ามสำคัญที่ต้องจำให้ขึ้นใจก็คือ... “ห้ามปิดที่หน้า ปิดตา หรือปิดปากเด็ดขาด”
เชื่อกันว่า...ถ้าปิดอย่างนี้ มาขอพร...บนบานอะไร ย่านาคคงจะช่วยไม่ได้

O O O O
“ความรัก”...ก็มาขอกัน มีความเชื่อมั่นว่ายายนาครักพ่อมากมาก...ว่างั้น ใครจะมาขัดขวางข้าไม่ได้ทั้งนั้น ที่จริงแล้ว...แกก็ไปตามสภาพของแกทีนี้ว่าหมอผีไม่เก่งจริง เรื่องนี้...มีจริงหรือไม่มีจริง ก็ยังพิสูจน์กันไม่ได้ แต่มีความกลัวสมัยเป็นเด็กวัดเคยดูพระไล่ผีอยู่ครั้งหนึ่ง พอจำได้เลาๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะ เพราะเห็นกับตา
เด็กๆอยากรู้จะขลังขนาดไหน...ที่วัดเนี่ยแหละ เอาคนตายมาเล่าให้ฟังแล้วนะ “หลวงตาเหมือน”... ท่านตายไปนานแล้ว รดน้ำมนต์ก็ออกเหมือนกันแต่ออกไม่หมด ต้องมารดถึงสามวัน...เจ็ดวัน ส่วนมากเป็นผู้หญิงสาวที่ถูกของ “น้ำมันพราย”...รดน้ำมนต์แล้ว คุณผู้หญิงนั่งอยู่บนพื้นปกติ ไม่ได้นั่งทับน้ำมันอะไรเลย
...
ปรากฏว่า...มีน้ำมันไหลออกมาจากตัว มาจากไหนก็ไม่รู้ พื้นมันไปหมด ไม่เพียงเท่านั้น...ยังมีกลิ่นออกมาด้วย เหม็นเน่าคลุ้งไปหมด ถูกขับออกมา ทั้งรดทั้งกินด้วยน้ำมนต์ อยู่เจ็ดวันเห็นจะได้
พระครูวิธาน กิจจาทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดมหาบุศย์ เปิดแง่ธรรมคติคิด...“คนไทยเชื่อคนง่าย อะไรนิดหน่อยก็จ้องจะเป็นหวยเสียหมด ต้องมีสติ สัมปชัญญะ...ว่าจะทำอะไรบ้าง ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยเกินกว่าเหตุ ได้น้อย...ใช้มากมันก็ขาดทุน ต้องได้มาก...ใช้น้อยเหลือเก็บไว้บ้างยามแก่ยามเฒ่า”

อย่าหวังจะขอลาภ...ขอรวย “ถ้าธรรมชาติก็ต้องขยันทำมาหากิน เก็บหอมรอมริบใช้ในยาม ตอนเจ็บไข้ แก่ตัวไปแล้ว คนโบราณฉลาดนะเทียบกับสมัยนี้ เป็นพ่อเป็นแม่คนหาที่หาทางมาให้ลูกใช้ได้เป็นร้อยๆไร่ สมัยนี้กระแบะมือยังไม่มีปัญญาจะไปหาให้ลูกใช้ ลองไม่ได้สมบัติเก่ามากินก็แย่แล้ว”
“ศาลย่านาค”...คนเข้าไม่ขาด เสริมกำลังใจกันเท่านั้น “ขอกำลังใจ ขอโน่น...ขอนี่ เขาไม่ได้ขอแค่โชคลาภหรอก ขอหลายๆอย่าง...ธรรมชาติให้ไม่ได้ ต้องใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย”
...
สมหวังดั่งตั้งใจ...เชื่อไม่เชื่ออย่างไรเป็นบทพิสูจน์ “รัก”...“ศรัทธา” ...“ปาฏิหาริย์”.
รัก–ยม