ม.ราชภัฏเพชรบุรีเอาจริง กรณีนักศึกษาโพสต์ข้อความในโซเชียลฯ อันเป็นเหตุให้ผู้อื่นเกิดความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ออกประกาศย้ำเป็นความผิดวินัย ลงโทษตัดคะแนนความประพฤติ เชิญผู้ปกครองพบ และทำทัณฑ์บน...

มรฏ.เพชรบุรี ปราม นศ. โพสต์โซเชียลทำผู้อื่นเสียหาย ตัดคะแนน-ทำทัณฑ์บน

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 59 เว็บไซด์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ได้มีการเผยแพร่ประกาศของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี เรื่อง การลงโทษนักศึกษาที่โพสต์ข้อความบนอินเทอร์เน็ตอันเป็นเหตุให้ผู้อื่นเกิดความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงหรืออื่นๆ โดยมีข้อความระบุในประกาศว่า

"ประกาศมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี เรื่อง การลงโทษนักศึกษาที่โพสต์ข้อความบนอินเทอร์เน็ตอันเป็นเหตุให้ผู้อื่นเกิดความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงหรืออื่นๆ

ด้วยสังคมออนไลน์บนอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันเกิดปัญหาการโพสต์ข้อความที่ทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงหรืออื่นๆ โดยผู้ทำการข้อความดังกล่าวจะมีความผิดทางอาญาฐานหมิ่นประมาทและความผิดตามมาตรา 328 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 รวมทั้งมีความผิดตามข้อ 5.2.13 แห่งระเบียบมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.2552

...

เพื่อเป็นการป้องกันและส่งเสริมการมีจิตสำนึกความรับผิดชอบในสิทธิของตนเองและเคารพสิทธิของผู้อื่น มีความรับผิดชอบต่อสังคมให้กับนักศึกษาและเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารกิจการนักศึกษา ในการประชุมครั้งที่ 1/2559 ประชุมเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2559 จึงประกาศมาตรการลงโทษนักศึกษาที่โพสต์ข้อความบนอินเทอร์เน็ต เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นหรือมหาวิทยาลัยเกิดความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงหรืออื่นๆ ดังนี้

1. ตัดคะแนนความประพฤติ 50 คะแนน

2. ทำทัณฑ์บนเป็นลายอักษร และให้อยู่ในการกำกับดูแลของอาจารย์ที่ปรึกษา

3. เชิญผู้ปกครองรับทราบการกระทำความผิดของนักศึกษา

ประกาศ ณ วันที่ 28 เดือนมกราคม พ.ศ. 2559

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัต กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี"

ทั้งนี้ ภายหลังมีการเผยแพร่ประกาศในเรื่องนี้ ได้มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยฝ่ายที่เห็นด้วย เห็นว่ามาตรการที่ออกมาของ มรฏ.เพชรบุรีในครั้งนี้ น่าจะเป็นการปรามไปในตัว ไม่ให้นักศึกษาที่ใช้โซเชียลฯ ไปกระทำการใดๆ ที่เป็นการละเมิด หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย

ขณะที่ฝ่ายไม่เห็นด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นนักศึกษาในสถาบันเอง มองว่า นักศึกษาถือว่าเป็นปัญญาชน และบางคนก็บรรลุนิติภาวะแล้ว จึงไม่ต้องให้ใครมาคอยบอกว่า ควรใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างไร อีกอย่าง กฎหมายที่เกี่ยวข้องก็มีอยู่แล้ว ใครทำผิดกฎหมาย ก็ควรใช้กฎหมายลงโทษไปตามความผิด.