นายกฯ สั่งการ 8 กระทรวง เร่งสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์จากยางพารา ระบุ หากบ้านเมืองสงบ เศรษฐกิจดีด้วย เผย ของขลังประจำตัวคือ "พูดความจริง ไม่โกหก ไม่มีผลประโยชน์"
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 19 ม.ค. 59 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียนรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เยี่ยมชมการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และการใช้ประโยชน์จากยางพารา โดยมี ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำผลงานนวัตกรรมยางพาราของกระทรวงมาจัดแสดงนิทรรศการ อาทิ ผลิตภัณฑ์ยางเพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะมีการนำไปเป็นส่วนผสมสำหรับการทำสนามฟุตซอล ปูพื้น ผลิตภัณฑ์เพื่อการผลิตอุตสาหกรรม เช่น การจัดทำรูปแบบโรงงานมาตรฐานสำเร็จรูป หรืออุปกรณ์การออกกำลังกาย และอุปกรณ์การเล่นสำหรับเด็ก ผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตร เช่น การนำยางไปปูสระน้ำ หรือปูพื้น ผลิตภัณฑ์ยางเพื่อการคมนาคม อาทิการนำไปสร้างทางจักรยาน นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ถุงมือผ้า หมอนเคลือบยางพารา รวมถึงการปูพื้นรถยนต์และวัตถุตกแต่งอื่นๆ เป็นต้น
"อะไรที่มันทำแล้วขายไม่ออกก็ไม่ต้องทำ ทุกอย่างต้องทำได้เอง ให้ทั้ง 8 กระทรวง นำเข้าที่ประชุม ครม.วันนี้ ว่าจะมีการสั่งซื้ออะไร ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตต้องมีมาตรฐาน ต้องเขียนของใหม่มา อย่าพูดแต่เรื่องของเก่า กทม. ต้องเอาไปใช้และปรับใช้ในการทำงาน ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เข้าใจว่าใช้เท่าไหร่ แต่ถึงจะใช้เท่านี้ก็ดีกว่าไม่ได้ใช้กว่า 2 ปีมาแล้วที่ให้ทำ ยังไม่เคยเสร็จสิ้นสักที มีทุกอย่างแต่ไม่มีมาตรฐาน หากมีก็ขายได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว
...
จากนั้น ที่บริเวณด้านหน้าตึกบัญชาการ 1 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้มาเรียนเชิญนายกรัฐมนตรี และ ครม. ร่วมส่งมอบของขวัญในวันปีใหม่ให้คนในครอบครัว พร้อมส่งต่อรอยยิ้มให้ผู้สูงวัย ผ่านการสนับสนุนเสื้อเพื่อการกุศล "ชราอย่างมีคุณภาพ" ในโครงการเพราะรัก โดยเสื้อดังกล่าวเป็นเสื้อยืดภาพวาดฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทั้งนี้ ทางตัวแทนโรงพยาบาล ได้มอบพระพุทธปฏิมาสุวรรณภูมิสิริโชค แบบจำลองจากเนปาล ให้กับนายกรัฐมนตรี และ ครม. โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราต้องช่วยกันสนับสนุนส่งเสริมให้กำลังใจผู้สูงวัย เพราะในอนาคตวันข้างหน้าจะมีจำนวนผู้สูงวัยเพิ่มมากขึ้น จำนวนแรงงานก็จะลดลง ดังนั้นเราต้องสร้างคนรุ่นใหม่ให้ขึ้นมาอย่างแข็งแรง โดยใช้กำลังสมองและสติปัญญา ต้องเร่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะหันมาบอกกับกลุ่มผู้สื่อข่าวว่า "เวลาเขียนข่าวก็ขอให้คล้องจองอย่างนี้บ้าง อย่าไปจับอะไรจุกจิกมาเขียน แล้วทำให้ฉันโมโหทุกวัน เห็นหรือไม่ว่าผมอารมณ์ดีมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เพราะโมโหไปเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่แล้ว อารมณ์เสีย เสาร์-อาทิตย์เวลาที่อยู่บ้าน แต่พอมาเจอพวกเธอฉันก็อารมณ์ดี ถ้าบ้านเมืองสงบสุข เศรษฐกิจก็จะดีขึ้น ผู้สื่อข่าวเงินเดือนก็จะสูงขึ้น เพราะฉะนั้น อย่าไปเขียนข่าวอะไรที่วิลิศมาหรา จนทะเลาะกันทุกวันนี้ มันไม่เป็นประโยชน์ แต่ก็เข้าใจเรื่องการทำธุรกิจต่างๆ เพียงแต่ว่าเราจะต้องไม่ทะเลาะ ต้องมาช่วยกัน อะไรที่จะทำให้ประเทศปลอดภัย เพราะวันนี้มันเข้ามาทุกเรื่อง แล้วเป็นข่าวสำคัญพาดหัวกันทุกวัน จริงๆ เอาเข้าไปอยู่หน้าในบ้างก็ได้ ข่าวดีๆ อย่างเช่น เราจะช่วยผู้สูงอายุได้อย่างไร จะผลิตยางอย่างไร เอามาไว้ด้านหน้าบ้าง ไม่ใช่อะไรก็ทุจริตอีกแล้ว ทุกวันนี้ผมก็คิดจนหัวจะแตกอยู่แล้วว่าทำอย่างไรจะไม่ทุจริต สื่อก็ต้องช่วยกันสอนคนขายยาง ว่าอย่าทุจริต อย่าไปร่วมมือกับนายทุน วันนี้รัฐบาลกำลังช่วยอยู่ ดังนั้น เกษตรกรต้องนำผลผลิตมาขายจริง ไม่ใช่เอายางที่อยู่ในคลังที่ขายแล้ว เอาออกมาขายใหม่ อย่าลืมว่ารัฐบาลที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำอย่างนี้ รัฐบาลนี้มีทั้ง คสช. มีทั้ง กระทรวงมหาดไทย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมมือกันดำเนินการ นี่คือมาตรการที่ผมทำ อย่าไปเขียนดักหน้าดักหลัง ผมแก้ปัญหาทุกวัน ปวดหัวไปหมด" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเสริมว่า โดยปกติไม่ค่อยนิยมใช้สินค้าแบรนด์เนม แต่มีใช้บ้างหากจำเป็น ซึ่งถ้าหากต้องการให้รัฐบาลช่วย ทุกคนก็ต้องช่วยกันใช้ของในประเทศ ส่วนที่มีข่าวว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะไปสร้างแบรนด์ไทยให้ชาวต่างชาติเป็นที่รู้จัก คือการนำสินค้าที่มีอัตลักษณ์ของไทยมาจำหน่ายเพื่อเพิ่มมูลค่า ไม่ใช่สนับสนุนสินค้าแบรนด์ดังที่มีอยู่
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทุกวันนี้มีของขลังอะไรติดตัวอยู่บ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ของขลังคือการพูดจาให้ตรงกับใจ พูดความจริง ไม่โกหก ไม่มีผลประโยชน์ นี่คือของขลัง".