สุนัขนับเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนดี ซื่อสัตย์ และรักเจ้าของมาก บางคนเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา บางคนเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน ซึ่งหลายท่านนิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์ดุเพื่อป้องกันขโมย และปัญหาที่มักจะตามมาคือ สุนัขไล่กัดผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ หรือไปทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น

วันนี้ขอนำเสนอปัญหาข้อกฎหมายที่เกิดจากสุนัขหรือสัตว์เลี้ยง ไปทำร้ายผู้อื่นหรือไปสร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สินของผู้อื่นครับ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เจ้าของสัตว์ หรือผู้รับเลี้ยงสัตว์ มีหน้าที่จัดการดูแลสัตว์เลี้ยง หากเจ้าของสัตว์เลี้ยงประมาทเลินเล่อ หรือปล่อยปละละเลย จนสัตว์เลี้ยงดังกล่าวไปสร้างความเสียหายให้แก่ผู้อื่น เจ้าของสัตว์เลี้ยงหรือผู้รับเลี้ยงจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย หรือค่าสินไหมทดแทนที่เกิดจากการกระทำของสัตว์ดังกล่าว รวมถึงผู้ที่ชอบยั่วยุสัตว์ ทำให้สัตว์โมโหและหลุดออกมาจากกรง หากสัตว์ดังกล่าวไปทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหาย ผู้ที่ยั่วยุก็ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายด้วยเช่นกัน

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๓๓ วางหลักไว้ว่า "ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ ท่านว่าเจ้าของสัตว์หรือบุคคลผู้รับเลี้ยงรับรักษาไว้แทนเจ้าของ จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ฝ่ายที่ต้องเสียหายเพื่อความเสียหายอย่างใดๆ อันเกิดแต่สัตว์นั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยงการรักษาตามชนิดและวิสัยของสัตว์ หรือตามพฤติการณ์อย่างอื่น หรือพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายนั้นย่อมจะต้องเกิดมีขึ้น ทั้งที่ได้ใช้ความระมัดระวังถึงเพียงนั้น

อนึ่ง บุคคลผู้ต้องรับผิดชอบดังกล่าวมาในวรรคต้นนั้น จะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่บุคคลผู้ที่เร้าหรือยั่วสัตว์นั้นโดยละเมิด หรือเอาแก่เจ้าของสัตว์อื่นอันมาเร้าหรือยั่วสัตว์นั้นๆ ก็ได้"

...

กรณีเจ้าของสัตว์ หรือผู้รับเลี้ยงสัตว์ สั่งการ ยุยงส่งเสริมให้สัตว์เลี้ยงหรือสุนัขเข้าทำร้ายร่างกายผู้อื่น หรือเห็นสัตว์เลี้ยงหรือสุนัขของตนกำลังกัดผู้อื่น แทนที่จะเข้าห้ามปรามกลับยุยงส่งเสริมให้สัตว์นั้นทำร้ายผู้อื่นต่อไป นอกจากจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีความผิดทางอาญาด้วยนะครับ เนื่องจากกรณีนี้ไม่ใช่กรณีประมาท แต่ถือว่าเจ้าของสัตว์หรือผู้รับเลี้ยงสัตว์ มีเจตนาทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยใช้สัตว์เลี้ยงหรือสุนัขเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด มีความผิดทางอาญา ข้อหาทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ วางหลักไว้ว่า "ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" หรืออาจจะต้องรับโทษหนักขึ้น ซึ่งจะต้องพิจารณาความเสียหายเป็นหลัก

ทั้งนี้ หากท่านผู้อ่านกำลังจะถูกสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงเข้ามาทำร้าย ไม่ว่าจะเกิดจากการจงใจ หรือประมาทเลินเล่อก็ตาม ท่านสามารถป้องกันตัวได้นะครับ โดยกรณีที่ท่านทำร้ายสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงที่จะเข้ามาทำร้ายท่านดังกล่าว ไม่เป็นความผิดทางอาญา และไม่เป็นการทารุณสัตว์ เนื่องจากเป็นกรณีมีเหตุอันสมควร ตามที่มาตรา ๒๐ กำหนดไว้ครับ อ้างอิงพระราชบัญญัติ ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๗ มาตรา ๒๐ วางหลักไว้ว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดกระทําการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร" และ มาตรา ๒๑ วางหลักไว้ว่า "การกระทําดังต่อไปนี้ ไม่ถือว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ตามมาตรา ๒๐ ......
(๖) การฆ่าสัตว์ในกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อป้องกันอันตรายแก่ชีวิตหรือร่างกายของมนุษย์ หรือสัตว์อื่น หรือป้องกันความเสียหายที่จะเกิดแก่ทรัพย์สิน"

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านใช้ความระมัดระวังในการเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของตนเอง ครอบครัว และผู้อื่นครับ

สำหรับใครที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย และต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมได้ที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยครับ

Facebook: ทนายเจมส์ LK