ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน เข้าพบสภาทนายความฯ ขอช่วยเหลือ หลังถูกสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 5 ปี รวมกว่า 800 ล้าน ขณะ คตร. สั่งชะลอจ่ายเงินทุกโครงการที่ขอรับเงินจาก สสส. ทำโครงการชะงัก ยัน ทำเพื่อส่วนรวม
เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 59 น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมแกนนำขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน (ขสช.) กว่า 20 คน เข้าหารือร่วมกับ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปภัมภ์ เพื่อขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ 2 เรื่อง คือ กรณีถูกสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 5 ปี กับมูลนิธิและองค์กรต่างๆ ที่ได้รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งรวมค่าปรับไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาท รวมถึงกรณี คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) สั่งชะลอโครงการทั้งหมดที่เครือข่ายภาคประชาชน ขอรับทุนจาก สสส. ทำให้กิจกรรมทุกอย่างไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ จึงต้องการคำแนะนำเพื่อเดินหน้าตามกฎหมายว่าควรฟ้อง สสส. หรือฟ้อง คตร. ได้หรือไม่
ทั้งนี้ ตัวแทนเครือข่าย ขสช. มองว่า การเสียภาษีต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ หากเป็นค่าตอบแทน หรือเงินเดือนในโครงการ จะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายอยู่แล้ว อีกส่วนเป็นเงินที่ทำกิจกรรมประโยชน์เพื่อสังคม ดังนั้น การเรียกเก็บภาษีย้อนหลังทั้งหมดของกรมสรรพากรเป็นระยะเวลา 5 ปี จึงเป็นเรื่องยาก เพราะกิจกรรมทั้งหมดล้วนทำเพื่อสังคมไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตัว
นอกจากนี้ การถูก คตร. สั่งชะลอโครงการทั้งหมดที่ขอรับทุนจาก สสส. ยังส่งผลกระทบต่อการดำเนินโครงการหลายโครงการ ทั้งที่ควรจะเร่งเดินหน้า ซึ่งเมื่อถูกกล่าวหาทำให้สังคมหรือภาคประชาชนเริ่มเกิดความกังวลว่ามีการทุจริตจริงหรือไม่ จึงต้องการให้สภาทนายความ เข้ามาช่วยเหลือด้านกฎหมายโดยเร่งด่วน.
...