น้ำลดตอผุด หลักแนวเขตที่ดินที่หลงเหลือจากการรื้อทุบทำลายโผล่อยู่ในกอต้นจาก ริมปากคลองบางตะบูนซึ่งชาวบ้านไปพบ ขณะที่นายทุนแจ้งยกเลิกคำขอรังวัดออกโฉนดที่ดินในป่าชายเลน.
จากกรณีกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านบ้านบางใหญ่ หมู่ 4 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนถูกนายทุนอ้างเอกสารสิทธิ (น.ส.3) ในป่าชายเลน อ่าวทุ่งคา-สวี เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรฟ้องขับไล่ที่และรื้อทุบทำลายบ้านเพื่อเตรียมยื่นขอออกโฉนด ท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัยของสาธารณชนทั่วไปที่มี น.ส.3 ไปโผล่อยู่กลางป่าชายเลน ขณะเดียวกันกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านฮึดสู้นายทุนได้รวมตัวจัดตั้งเป็นกลุ่มอนุรักษ์เพื่อปกป้องผืนป่าสมบูรณ์แห่งนี้ ล่าสุดนางเรณู มีอินทร์ อายุ 62 ปี ชาวบ้านอีกรายที่ซื้อที่ดิน ส.ค.1 ในผืนป่าเดียวกันและถูกกรมที่ดินสั่งเพิกถอน ได้ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมที่ดิน น.ส.3 ของนายทุนรายนี้ยังลอยนวลนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. นายสมดี คชายั่งยืน ผวจ.ชุมพร กล่าวกับทีมข่าวเฉพาะกิจภูมิภาค “ไทยรัฐ” ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งให้นายไมตรี ไตรติลานันท์ รอง ผวจ.ชุมพร เป็นผู้รับผิดชอบแต่งตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว ทราบว่าเจ้าของที่ดินดังกล่าวอ้างเอกสารสิทธิ น.ส.3 ในการฟ้องขับไล่ชาวบ้าน และคดีถึงที่สุดแล้ว เพราะฝ่ายชาวบ้านที่ตกเป็นจำเลยไม่ได้อุทธรณ์ต่อ แต่ชาวบ้านต้องการให้ทางจังหวัดตรวจสอบ น.ส.3 ฉบับนี้ว่าได้มาโดยชอบหรือไม่ มีการทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อนหรือไม่ หากตรวจพบว่าได้มาโดยมิชอบ หรือที่เรียกว่า น.ส.3 บินก็จะต้องเสนอให้อธิบดีกรมที่ดินสั่งเพิกถอนสถานเดียว อย่างไรก็ตาม จะเรียกเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดชุมพรเข้ามาชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง แต่ในเบื้องต้นได้รับรายงานว่าเจ้าของที่ดินรายนี้ได้แจ้งขอยกเลิกคำขอรังวัดออกโฉนดที่ดิน ตามคำขอลงวันที่ 25 พ.ค.2555 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
...
ทางด้านนายวิษณุ เซียงเจ็น แกนนำกลุ่มประมงพื้นบ้าน ในฐานะรองประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบางใหญ่ อ่าวทุ่งคา-สวี เปิดเผยว่าหลังจากทราบว่านายทุนคนนี้ได้ไปขอยกเลิกคำขอรังวัดออกโฉนดที่ดินตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2558 ที่ผ่านมาซึ่งจะต้องนำหลักเขตถอนคืนแก่สำนักงานที่ดิน
ล่าสุดตนและชาวบ้านไปพบหลักหมุดแนวเขตอีก 2 หลัก ที่นายทุนคนนี้รื้อถอนทำลายหลักฐานไม่หมด โดยไปพบตอหลักเขตปักอยู่ในกอต้นจากริมคลองทุ่งคาและได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว “ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่าการขอรังวัดออกโฉนดในครั้งนี้น่าจะมีปัญหา เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่าง อาทิ ขนาดของพื้นที่ที่ขอไม่ตรงกัน โดยเฉพาะที่ระบุว่าพื้นที่ใกล้เคียงด้านทิศเหนือจดคลองบางตะบูนนั้นก็ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงแต่อย่างใด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้มาหลายช่วงอายุคนก็ไม่เคยเห็นใครเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวเลย หากคณะกรรมการที่ทางจังหวัดตั้งขึ้นมาและได้ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก็น่าจะมีความเห็นเช่นเดียวกับชาวบ้านในพื้นที่”
ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อผู้เกี่ยวข้องแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ซึ่งข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป.