"บิ๊กเจี๊ยบ" ชี้ "ไอเอส" เข้าไทย เป็นแค่ข่าวสารไม่ใช่ข่าวกรอง รอกรองข้อมูล-ประเมินสถานการณ์ ชัดเจนก่อน ขอคนไทยอย่าตื่นตระหนก ช่วยเป็นหูเป็นตา พร้อมให้ความมั่นใจฝ่ายมั่นคงดูแลได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.58 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีรายงานว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ลงนามในหนังสือคำสั่ง ลงวันที่ 27 พ.ย.58 เรื่อง ติดตามพฤติการณ์ชาวต่างชาติ ใจความว่าหน่วยต่อต้านข่าวกรองของรัสเซีย หรือเอฟเอสบี ประสานผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แจ้งเตือนความเป็นไปได้ในการก่อเหตุร้ายของกลุ่มไอซิส ต่อผลประโยชน์ของรัสเซียในประเทศไทย โดยระบุว่า มีชาวซีเรีย 10 ราย ที่เกี่ยวข้องกับกองกำลังรัฐอิสลามหรือไอซิส ได้เดินทางเข้าไทยแล้วว่า ข่าวก็เป็นข่าว หากเราไม่ตกใจก็เป็นสิ่งที่ดี บ้านเราเงียบมานานแล้ว เรื่องไอซิสรอบบ้านมีการส่งไปรบกัน แต่ประเทศเราไม่เคยมีเรื่องเหล่านี้เลย แต่ก็อาจเป็นการประเมินสถานการณ์เป็นข้อควรระวัง ตนเห็นจากข่าวยังไม่ชัดเจน ซึ่งใครก็คิดได้ว่าน่าจะมี ตนมั่นใจว่าส่วนที่เกี่ยวข้องรักษาความปลอดภัยได้อย่างดีเยี่ยม แต่พี่น้องประชาชนทุกคนจะเป็นหูเป็นตาได้ดีที่สุด ตนเคยทำงานใหญ่ๆ มาหลายครั้ง หลายราชวงศ์ ไม่เคยมีเรื่องใดเกิดขึ้น หากทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตาเมื่อมีสิ่งผิดปกติเราจะได้สกัดกั้นเสียก่อน ซึ่งข่าวที่ออกมาถือเป็นข่าวสารไม่ใช่ข่าวที่กรองแล้ว ก็ได้มีการไปตรวจสอบก่อนว่าจริงหรือไม่ ซึ่งเอกสารนี้น่าจะออกมานานแล้ว แต่เพิ่งมีการเอาออกมาเผยแพร่
เมื่อถามว่า มีข่าวออกมาในลักษณะนี้ จะทำให้คนไทยหมดความสุข ในช่วงเทศกาลหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่หมดหรอกความสุขอยู่ที่ใจ และสิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่เกิด ซึ่งฝ่ายความมั่นคงก็ดูแลอย่างเต็มที่ คนที่ออกเอกสารนี้ออกมาอาจไม่ค่อยหวังดี หรืออาจจะสื่อสารอะไรก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน แต่ขอให้ความมั่นใจว่าฝ่ายความมั่นคงทำเต็มที่
...
เมื่อถามว่า ทางด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ต้องเพิ่มความระมัดระวังเพิ่มขึ้นหรือไม่ในช่วงนี้ รองนายกฯ กล่าวว่า ตม.ทำอยู่แล้ว และขณะนี้กำลังจะมีเครื่องมืออีกตัวหนึ่งมาช่วยตรวจเช็ก ก่อนที่จะเข้าประเทศ ซึ่งตม.ถือว่าทำงานหนัก เพราะคนที่เข้ามาในประเทศไทยมีเยอะ เมื่อถามย้ำว่า ทางการรัสเซียออกมาเตือนนักท่องเที่ยวของเขาเป็นข่าวจริงหรือข่าวสาร รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ตนเจอกับทูตรัสเซียก็ไม่เห็นเขาพูดอะไร ซึ่งความจริงเอกสารนี้ไม่สมควรจะหลุดออกไป ก็ต้องมีการตรวจสอบกัน แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริงป่านนี้เขาคงจับไปได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ตามตะเข็บชายแดนก็มีตำรวจทหารคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และยังมีชาวบ้านคอยเป็นหูเป็นตา แม้ว่าบริเวณชายแดนของเราจะมีจุดเข้าออกหลายทาง แต่เจ้าหน้าที่ได้พยายามดูอย่างเหนียวแน่น และหน่วยปฏิบัติการพิเศษของเราก็เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า เอกสารที่หลุดออกมาจะมีการหาสาเหตุ เพื่อที่จะเอาผิดคนที่ทำเอกสารหลุดหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนก็เพิ่งเห็นเมื่อเช้าเหมือนกัน เมื่อถามว่า ใน คสช.มีการพูดคุยเรื่องการรักษาความปลอดภัยอย่างไรบ้าง พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าภาษาความปลอดภัยเขาทำร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งบทเรียนจากแยกราชประสงค์จากวันนั้นมาถือว่าเราทำได้ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรายังแก้ได้เร็วและทำได้ดี เพราะฉะนั้นอยากให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตามีอะไรให้แจ้งเหตุที่ 191 หรือเบอร์ที่เกี่ยวข้องที่กำหนดไว้ได้.