"บิ๊กป้อม" ยันไม่ชะลอสร้างรถไฟจีน ระบุดำเนินการต้องโปร่งใส ปัดไม่รู้ส่ง 2 คนจีนกลับประเทศเป็นผู้ลี้ภัย ยันไทยมุ่งหน้าแก้ปัญหาการบินพลเรือน ไม่หวั่นผลประเมินลดลง...
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.58 ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง โดยจะซื้อรถไฟจากประเทศจีนว่า เราต้องดูให้เท่าเทียมกัน ซึ่งจะเสียเปรียบไม่ได้ ให้เหมาะสมด้วยกันทั้งคู่ ไม่ใช่อยากจะทำอะไรก็ทำ ทุกอย่างต้องทำให้ตอบคำถามได้ ถ้าตอบไม่ได้ก็ทำไม่ได้
เมื่อถามว่าจะมีการเลื่อนโครงการรถไฟดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาก็ไม่ได้เลื่อน ยังคงเดินหน้าต่อไป แล้วต้องประชุมเพื่อดูว่ามีความพร้อมขนาดไหนและต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อีกทั้งการดำเนินการดังกล่าวต้องมีความโปร่งใส ถ้าไม่โปร่งใสไม่ได้ ซึ่งทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ก็ได้มีการเน้นย้ำไม่ว่าจะเป็นโครงการเล็กหรือโครงการใหญ่ก็ได้ให้ทางรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ไปดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้วิธีพิเศษก็ต้องดูอย่างละเอียด ไม่ใช่อยากทำก็ทำ
ส่วนกรณีที่ทางรัฐบาลไทยส่งชาวจีน 2 คน กลับประเทศ จนเป็นที่วิจารณ์ของสำนักข่าวต่างประเทศ และรัฐบาลรู้หรือไม่ว่าเป็นผู้ลี้ภัยนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ตนไม่รู้ เพราะว่าเราจับมาได้เพียง 2 วัน ส่วนคนที่ถูกจับมาแล้วเกือบปีกลับไม่ได้สถานะผู้ลี้ภัย ซึ่งเขาเหล่านั้นก็รอกันอยู่หลายคนเลย โดยข้อมูลส่วนนี้ทาง ผบ.สตม.รายงานมาให้ทราบ โดยคนที่ถูกจับมาเกือบปียังไม่ได้สถานะผู้ลี้ภัย แต่ 2 คนนี้ถูกจับเพียง 2 วัน กลับได้สถานะผู้ลี้ภัย ซึ่งมองว่ามันไม่เท่ากัน ซึ่งมีความผิดปกติ รวมถึงทั้ง 2 คนนี้มีเรื่องกับรัฐบาล โดยทางรัฐบาลจีนได้ยืนยันมาเพราะเป็นบุคคลที่ทำให้ประเทศเขาเสียหาย ส่วนคนของเราที่อยู่ข้างนอกนั้น เราก็อยากได้คืน แต่ขอเท่าไรก็ไม่ได้คืน โดยเฉพาะพวกที่ออกไปด่าอยู่ข้างนอกประเทศ"
...
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีที่ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (Federal Aviation Administration หรือ FAA) ประกาศลดระดับประเทศไทยจาก category 1 เป็น category 2 ว่า เมื่อผลการประเมินออกมาเป็นแบบนี้ เราก็ต้องดำเนินการแก้ไขต่อไปตามเอฟเอเอ ทั้งนี้ ไม่ต้องไปตกใจอะไรปัญหาดังกล่าวเราจะแก้ไขกันอยู่แล้ว และทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่า จะมีการปรับลดระดับการบินของไทย อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคม คณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (ศบ.ปพ.) ของกองทัพอากาศ ได้ร่วมกันเพื่อหาจุดบกพร่องเพื่อดำเนินการแก้ไข
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า คาดว่าการแก้ไขน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนการประเมินมาตรฐานการบินในรอบต่อไปนั้น ตนไม่ทราบว่าจะประเมินเมื่อใด คาดว่าในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน คสช.ครั้งต่อไปเราจะรู้ว่าต้องดำเนินการแก้ไขต่อไปอย่างไร ตอนนี้เราดำเนินการแก้ไขตามกรอบของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหภาพยุโรป (EASA) หรือเอียซ่า และองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ทั้งนี้ คิดว่าเอียซ่า จะมีการประเมินมาตรฐานการบินครั้งต่อไปในช่วงประมาณเดือน ก.พ. 2559 คาดว่าการประเมินอาจจะออกมาดีขึ้น แต่ทางรัฐบาลจะประมาทไม่ได้ ต้องแก้ไขปัญหาอย่างละเอียดรอบคอบ แก้ไขในจุดที่พวกเขาต้องการ