(เรือล่าวาฬแล่นออกจากท่าเรือเมืองชิโมโนเซกิ ในจังหวัดยามากูจิ เมื่อ 1 ธ.ค.58)

สำนักงานประมงญี่ปุ่น ทวนเสียงคัดค้านก้องโลก เปิดไฟเขียวให้ชาวประมงหวนกลับมาล่าวาฬในมหาสมุทรแอนตาร์กติกกันอีกครั้ง หลังหยุดพักไป 1 ปี ชี้เป็นการทำวิจัย และพยายามพิสูจน์ให้เห็น มีวาฬมากพอในมหาสมุทรแอนตาร์กติก

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.58 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า บรรดาเรือล่าวาฬของชาวญี่ปุ่นพากันแล่นออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าหวนกลับไปล่าวาฬในมหาสมุทรแอนตาร์กติกอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. หลังจากได้หยุดพักการล่าวาฬมาเป็นเวลา 1 ปี และถึงแม้จะถูกต่อต้านจากกลุ่มนักสิ่งแวดล้อมอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่ประณามว่าการล่าวาฬถือเป็นการก่ออาชญากรรมต่อธรรมชาติสิ่งแวดล้อม

ด้านสำนักงานประมงของญี่ปุ่น ให้เหตุผลของการหวนกลับมาล่าวาฬของชาวประมงญี่ปุ่น ว่า เป็นการพยายามพิสูจน์ให้เห็นว่ามีจำนวนประชากรวาฬมากพอ ที่จะหวนกลับไปล่าวาฬเพื่อการค้าอีกครั้ง และระบุว่าการหวนไปล่าวาฬครั้งนี้ เป็นการทำวิจัย อีกทั้งญี่ปุ่นยังมีความเคารพต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ที่เคยมีคำสั่งเมื่อปี 2557 ให้หยุดการล่าวาฬในมหาสมุทรแอนตาร์กติก

...

สำนักงานประมงญี่ปุ่น ชี้ว่า ในปีนี้ชาวประมงญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะล่าวาฬในมหาสมุทรแอตแลนติกเพียง 333 ตัว ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายก่อนหน้านี้ถึง 1 ใน 3 ทั้งนี้ ชาวญี่ปุ่นมองว่า การล่าวาฬ ถือเป็นอาชีพของชาวญี่ปุ่นที่ทำกันมานานต่อเนื่องหลายศตวรรษ และที่ผ่านมาเนื้อของวาฬ ยังถือเป็นโปรตีนสำคัญที่หล่อเลี้ยงประชากรชาวญี่ปุ่น