ชาวบ้านสุดทนวัดป่าชัยมงคลปรับพื้นที่ยอดเขาหลังวัดเหี้ยนเตียนเป็นหน้ากลอง ทำให้ฝนชะดินโคลนไหลเข้าบ้านเรือนประชาชนรอบวัด บ่อปลาเล้าไก่เสียหาย น้ำประปาหมู่บ้านเริ่มมีสีขุ่น ผอ.สำนักพุทธศาสนาจังหวัดระนองยันมีการขออนุญาตใช้พื้นที่ถูกต้อง แต่ทางเทศบาลยืนยันยังไม่มีการขออนุญาตดำเนินการก่อสร้าง ตรวจสอบพบมีการปรับพื้นที่เพื่อทำถนนกว้าง 40 เมตร ไปถึงพื้นที่ก่อสร้างเจดีย์ มีต้นไม้ใหญ่กว่า 300 ต้น ถูกตัดโค่นกองอยู่ตลอดเส้นทาง ขณะที่คนงานก่อสร้างยังทำงานต่อเนื่องทั้งที่เจ้าอาวาสรับปากชะลอโครงการก่อสร้างไว้ก่อน
จากกรณีชาวบ้านที่อาศัยรอบวัดป่าชัยมงคล หมู่ 3 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง รวมตัวเจรจากับพระครูภาวนาชัยมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าชัยมงคล ให้ยุติการก่อสร้างพระมหาเจดีย์ชัยมงคล เนื่องจากทางวัดปรับพื้นที่ยอดเขาหลังวัดจนเตียนโล่งเป็นลานกว้าง มีการตัดโค่นต้นไม้จำนวนมาก ทำให้ฝนที่ตกลงมาพัดพาดินโคลนถล่มบ้านเรือนประชาชนโดยรอบ ทำให้บ่อปลา เล้าไก่เสียหาย น้ำประปาหมู่บ้านเริ่มมีสีขุ่น รวมทั้งให้ตรวจสอบเอกสารสิทธิ ที่ดินบริเวณดังกล่าว พระครูภาวนาชัยมงคลรับปากจะชะลอการก่อสร้างไปก่อน
...
ความคืบหน้าการตรวจสอบการตัดเขาสร้างเจดีย์เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 พ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบริเวณยอดเขาหลังวัดป่าชัยมงคล พบว่ามีการตัดถนนกว้างราว 40 เมตร จากหน้าวัดลัดเลาะเขาไปยังพื้นที่ก่อสร้างพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ตลอดสองข้างทางมีต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกตัดโค่น และใช้รถเครื่องจักรดันจนโค่นล้มไม่น้อยกว่า 300 ต้น ส่วนพื้นที่ยอดเขา ที่ถูกปรับจนเตียนโล่ง เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ มีคนงาน ราว 10 คน ช่วยกันเจาะหิน และหล่อพื้นให้เสมอ กับศิลาฤกษ์ ที่มีพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2556 ขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างดังกล่าว ยังไม่ได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐ แต่อยากให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบโครงการก่อสร้างของวัดโดยเร็วที่สุด เพราะทางวัดไม่ได้หยุดก่อสร้างตามที่รับปากกับชาวบ้าน
สำหรับเหตุชาวบ้านได้รับผลกระทบจากการปรับพื้นที่ยอดเขาสร้างเจดีย์ครั้งนี้ สืบเนื่องจากบ่ายวันที่ 4 พ.ย. ชาวบ้านในพื้นที่รอบวัดป่าชัยมงคลจำนวนกว่า 50 คน เข้าเจรจากับพระครูภาวนาชัยมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าชัยมงคล เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการที่ทางวัดปรับพื้นที่ยอดเขาเพื่อก่อสร้างพระมหาเจดีย์ชัยมงคล จนยอดเขาเตียนราบเป็นหน้ากลอง ทำให้ดินโคลนไหลตามน้ำฝนทำให้ประปาหมู่บ้านเริ่มขุ่น บ่อปลา เล้าไก่เสียหาย มีพระครูอุปนันทโสภณ เจ้าคณะอำเภอเมืองระนอง นางวชิรา น่วมเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดระนอง นายอัฐณัฐ ภู่เพชร นิติกรสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดระนอง (สปก.จ.ระนอง) นายก้องเกียรติ เภาวิเศษ รองนายกเทศมนตรีเมืองบางริ้น ร่วมเจรจาหาข้อยุติ
พระครูภาวนาชัยมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าชัยมงคล กล่าวว่า วัดกำลังก่อสร้างพระมหาเจดีย์ชัยมงคลบนยอดเขาหลังวัด โครงการนี้มีมูลค่าราว 100 ล้านบาท มีการขออนุญาตใช้พื้นที่อย่างถูกต้อง ช่วงนี้เป็นการเริ่มต้นการก่อสร้างมีการปรับพื้นที่บนยอดเขา เมื่อมีฝนตกลงมาทำให้น้ำฝนได้พัดพาเอาดินโคลนลงไปด้านล่างเป็นเหตุให้ชาวบ้านบางส่วนได้รับความเดือดร้อน วัดจะได้ให้ความช่วยเหลือและเยียวยาให้ อยากให้มาพูดคุยกันเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน วัดและหมู่บ้านหรือชุมชนต้องอยู่ร่วมกัน เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นต้องมาคุยกัน
ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบกล่าวว่า การก่อสร้างเจดีย์ของวัดทำไปโดยไม่ได้มีการพูดคุยหรือปรึกษากับชาวบ้านรอบข้างเลย ระยะเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบอย่างมากคลองที่เคยมีน้ำใสสะอาดกลายเป็นน้ำโคลนไม่สามารถใช้งานได้ บ่อเลี้ยงปลาดุกของชาวบ้านก็ตื้นเขินจากดินโคลนที่พัดลงมา ไก่ที่เลี้ยงไว้ก็ตายหมดเล้าเพราะจมน้ำโคลน อีกทั้งน้ำที่ใช้ทำประปาหมู่บ้านก็เริ่มขุ่น ตามซอยที่เข้าสู่บ้านเรือนมีขี้เลนและโคลนสกปรกทุกครั้งที่มีฝนตก หลายครั้งรถไม่สามารถเข้าออกจากซอยได้เพราะติดดินโคลน ชาวบ้านต้องอยู่อย่างหวาดผวาเวลาที่ฝนตกหนักเกรงดินบนยอดเขาถล่มลงมา
...
ด้านนางวชิรา น่วมเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดระนอง กล่าวว่า วัดขออนุญาตใช้พื้นที่อย่างถูกต้อง จาก สปก. ตามเอกสาร 2 ฉบับ คือ สปก.4-31ก แบ่งเป็นหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภคและกิจการอื่นๆ ในเขตปฏิรูปที่ดินที่ 166/2546 ขอใช้ที่ดินเพื่อสร้างวัด 15 ไร่ และหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภคและกิจการอื่นๆ ในเขตปฏิรูปที่ดินที่ 163/2547 ขอใช้ที่ดินเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติกิจทางพระพุทธศาสนา อนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าและก่อสร้างพระบรมธาตุเจดีย์จำนวน 225 ไร่ 3 งาน 69 ตารางวา
นายอัฐณัฐ ภู่เพชร นิติกร สปก.จ.ระนอง กล่าวเสริมว่า ขั้นตอนการดำเนินการต่างๆในการใช้ที่ดินถูกต้อง และก่อนออกเอกสารสิทธิ สปก.นั้น พื้นที่นี้อยู่ในเขตป่าสงวนและมีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรม ส่วนการออกเอกสารสิทธิ สปก. นอกจากยกให้เพื่อทำการเกษตรกรรมแล้ว ยังสามารถยกให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ได้เช่นที่วัดแห่งนี้
จากนั้นชาวบ้านได้ยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ 1.ขอให้ทางวัดชะลอการก่อสร้าง หรือยุติไปเลย 2.หาวิธีแก้ไขปัญหาเหตุดินเลื่อนไหลที่กระทบกับชาวบ้าน 3.แก้ไขแหล่งน้ำใช้ที่มีดินเลื่อนไหลเข้าทับถม ขุ่นแดง 4.ทางวัดจะเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างไร นอกจากนี้ ชาวบ้านขอให้ตรวจสอบเอกสารสิทธิพื้นที่ด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์มีต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก แต่ปัจจุบันถูกตัดโค่นทิ้งเพื่อทำถนนทางขึ้นเจดีย์ พระครูภาวนาชัยมงคลรับปากจะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านและจะชะลอการก่อสร้างไปก่อน
นายดุลยาพร มานะกล้า ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลเมืองบางริ้น ให้สัมภาษณ์ว่า วัดเคยมายื่นเอกสารเพื่อขออนุญาตแล้ว แต่เนื่องจากเอกสารไม่ครบถ้วน คือขาดหนังสืออนุญาตใช้ที่ดินของ สปก. ทางเทศบาลไม่สามารถออกใบอนุญาตก่อสร้างให้ได้ ตอนนี้ถือว่าวัดยังไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างเจดีย์ ส่วนการขุดและตักดินต้องขออนุญาตเช่นกัน แต่การอนุญาตยังไม่สมบูรณ์เนื่องจากเอกสารยังไม่ครบถ้วน
...