(ภาพ: AFP)
ชาวซีเรียกว่า 250,000 คนต้องเสียชีวิตไปในเหตุความรุนแรงในประเทศที่เริ่มจากการลุกฮือของประชาชนฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ก่อนจะขยายกลายเป็นสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบ และทวีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากการเข้ามาของต่างชาติ, การขึ้นมามีอำนาจของกลุ่มก่อการร้ายใหม่อย่าง รัฐอิสลาม หรือ ไอซิส และล่าสุดการเข้าแทรกแซงทางทหารของรัสเซีย ทำให้ตอนนี้กองกำลังใน ซีเรีย ถูกแบ่งออกเป็น 4 ฝ่ายใหญ่ๆ
การลุกฮือกลายเป็นความรุนแรง
กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในซีเรียเริ่มเคลื่อนขบวนในเดือนมี.ค. 2011 ที่เมืองเดรา ทางใต้ของประเทศ หลังจากเกิดเหตุตำรวจจับกุมและใช้กำลังทรมานวัยรุ่นหลายคน ฐานวาดข้อความสโลแกนเรียกร้องประชาธิปไตยบนกำแพงโรงเรียน และเหตุการเริ่มลุกลามเมื่อกองกำลังความมั่นคงยิงปืนเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย
ความไม่สงบที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการเคลื่อนขบวนประท้วงทั่วประเทศ เรียกร้องให้ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ลาออกจากตำแหน่ง แต่รัฐบาลกลับใช้กำลังเข้าปราบปรามผู้ชุมนุม เป็นการกระตุ้นให้การประท้วงรุนแรงขึ้นไปอีก โดยแค่ในเดือน มิ.ย.ปีเดียวกัน ก็มีประชาชนหลายแสนคนออกมาประท้วงตามท้องถิ่นทั่วประเทศแล้ว ก่อนที่ผู้สนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลจะเริ่มจับอาวุธขึ้นมา แรกเริ่มเพื่อป้องกันตนเอง กระทั่งใช้อาวุธเพื่อขับไล่กองกำลังความมั่นคงออกจากเมืองของพวกเขา
...
เหตุความรุนแรงทวีขึ้นและกลายเป็นสงครามกลางเมืองในที่สุด ฝ่ายต่อต้านรวมตัวกันก่อตั้งเป็นกลุ่มกบฏติดอาวุธหลายกลุ่มต่อสู้กับกองทัพรัฐบาลเพื่อยึดครองเมืองต่างๆ ในปี 2012 การต่อสู้คืบคลานไปถึงเมืองหลวงกรุงดามัสกัส และเมืองใหญ่อันดับ 2 อย่างเมืองอเลปโป กลุ่มกบฏยังได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และชาติตะวันตกที่กล่าวหารัฐบาลของนายอัสซาดว่าเป็นเผด็จการ ขณะที่รัสเซียและอิหร่านก็ออกตัวปกป้องรัฐบาลอัสซาดอย่างเต็มที่เช่นกัน
หลังการโจมตีสายฟ้าแลบของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามในปี 2014 เดือน ก.ย. ปีเดียวกัน สหรัฐอเมริกาเป็นแกนนำจับมือกับชาติตะวันตกเป็นพันธมิตร เริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเพื่อทำลายกลุ่มไอซิส, ช่วยเหลือนักรบชาวเคิร์ดปกป้องเมืองโคบานีทางตอนเหนือจากการโจมตีของไอซิส รวมทั้งให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏต่อต้านประธานาธิบดีซีเรีย
ต่อมาในวันที่ 30 ก.ย. 2015 รัสเซียตัดสินใจเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย ประกาศกร้าวว่า จะโจมตีกลุ่มก่อการร้ายทุกกลุ่มที่เป็นศัตรูกับรัฐบาล
สงครามกลางเมืองในซีเรียยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะยุติ โดยตามรายงานขององค์กรสหประชาชาติ ในปี 2013 จำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุความรุนแรงมีมากถึง 90,000 คน และเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าเป็น 191,000 คนในปี 2014 กระทั่งในเดือน ส.ค. ปี 2015 ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 250,000 คนแล้ว
ตอนนี้ใครสู้กับใคร
สถานการณ์ความขัดแย้งในซีเรียในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้ระหว่างฝ่ายหนุนหรือต่อต้านประธานาธิบดีอัสซาดอีกต่อไปแล้ว หากแต่มีกลุ่มติดอาวุธมุสลิมและนักรบญิฮาดเข้ามาเกี่ยวข้อง เหตุความรุนแรงยังดึงประเทศเพื่อนบ้านและมหาอำนาจโลกเข้ามามีส่วนร่วม และการผงาดขึ้นมามีอิทธิพลในภูมิภาคอย่างรวดเร็วของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม ก็ได้ยกระดับเหตุการณ์ขึ้นไปอีกขั้น ทำให้กองกำลังที่กำลังต่อสู้อยู่ในซีเรียตอนนี้แบ่งออกได้เป็น 4 ฝ่ายคือ
1. ฝ่ายรัฐบาลอัสซาด ปัจจุบันครอบครองพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศ พวกเขาได้รับการสนับสนุนจาก รัสเซีย, อิหร่าน, เลบานอน, อิรัก และ จีน รับมือการโจมตีจากฝ่ายกบฏ, กลุ่มติดอาวุธญิฮาด และไอซิส
โดยรัสเซียกับอิหร่านแสดงออกอย่างชัดเจนมาตั้งแต่แรกว่าสนับสนุนรัฐบาลอัสซาด อิหร่านได้ทุ่มงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปีในการสนับสนุนนายอัสซาดทั้งในด้านที่ปรึกษาทางทหารการอุดหนุนอาวุธ รวมทั้งการขนส่งน้ำมัน ขณะที่เลบานอนซึ่งเป็นพันธมิตรกับอิหร่าน ได้ส่งนักรบของกลุ่มติดอาวุธมุสลิมชีอะห์ 'ฮิซบอลเลาะห์' เข้ามาช่วยเหลือรัฐบาลซีเรียตั้งแต่ปี 2013
...
ส่วนรัสเซียเริ่มการโจมตีทางอากาศช่วยรัฐบาลซีเรียตั้งแต่ 30 ก.ย. พวกเขามีฐานทัพอากาศในเมืองลาตาเกียในภาคตะวันตก เครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์อีกกว่า 30 ลำ และนอกจากโจมตีทางอากาศด้วยเครื่องบิน รัสเซียยังได้ยิงขีปนาวุธร่อน 26 จากเรือรบของพวกเขาในทะเลแคสเปียนโจมตีกลุ่มกบฏในซีเรียแล้วด้วย
ขณะที่ประเทศจีน ยังไม่มีส่วนร่วมในการโจมตีในซีเรีย แต่พวกเขานำเรือบรรทุกเครื่องบินพร้อมขีปนาวุธร่อนมาประจำการในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว จึงมีความเป็นไปได้ว่าเครื่องบิน เจ-15 เข้าร่วมการโจมตีทางอากาศ หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง
2. ฝ่ายกบฏต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอัสซาดในซีเรียแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย แต่ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือ 'กองกำลังพันธมิตรเพื่อการต่อต้านและปฏิวัติซีเรีย' (เอ็นซีเอสอาร์โอเอฟ) ซึ่งก่อตั้งโดย 'สภาแห่งชาติซีเรีย' ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่ลี้ภัยไปอยู่ในประเทศตุรกี โดยพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากหลายประเทศในอ่าวเปอร์เซีย, ชาติตะวันตก และสหรัฐฯ และให้การสนับสนุน กองทัพซีเรียเสรี ต่อต้านรัฐบาลของนายอัสซาด
...
หลังจากการกำเนิดของกลุ่มไอซิส สหรัฐฯ เริ่มให้การสนับสนุนฝ่ายกบฏ ทั้งในเรื่องการสนับสนุนทางอากาศ, เครื่องกระสุนและการฝึกฝนเพื่อต่อต้านกลุ่มไอซิส แต่โครงการฝึกนักรบถูกยกเลิกไป เนื่องจากมีนักรบจำนวนหยิบมือเดียวเท่านั้นที่มาร่วมการฝึก
ขณะนี้ฝ่ายกบฏต้องรับมือการโจมตีตอบโต้ของรัฐบาลซีเรียซึ่งได้รับการสนับสนุนทางอากาศจากรัสเซีย รวมทั้งการโจมตีจากกลุ่มไอซิสด้วย
3. ฝ่ายกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) พวกเขาแตกแขนงออกมาจากกลุ่มก่อการร้ายอัลเคดาในอิรัก มีอิทธิพลขึ้นมาหลังจากการบุกสายฟ้าแลบยึดเมืองทางเหนือของประเทศอิรักเอาไว้ได้หลายเมืองเมื่อเดือนมิ.ย. 2014 นอกจากนั้นพวกเขายังได้ยึดพื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันออกของซีเรียเอาไว้ด้วย
นักรบชาวต่างชาติของไอซิสในซีเรียยังมีส่วนร่วมใน 'สงครามในสงครามกลางเมือง' ต่อสู้กับฝ่ายกบฏและนักรบญิฮาดจากกลุ่มอัล-นุสรา ฟรอนต์ สาขาของอัลเคดาในซีเรีย ซึ่งประกาศไม่ยอมรับวิธีป่าเถื่อนของกลุ่มไอซิส พวกเขายังต่อสู้กับกองกำลังชาวเคิร์ดและกองทัพรัฐบาลซีเรียด้วย
...
ปัจจุบัน เชื่อว่าพวกเขามีนักรบในซีเรียและอิรักรวมกันถึง 60,000 คน รวมทั้งมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ยึดเอาไว้ได้จำนวนมาก เช่น รถถัง, รถหุ้มเกราะ, รถฮัมวี, จรวดของประเทศจีน, เครื่องจีพีเอสของรัสเซีย ปืนเอเค-47 และปืนกล พีเคเอ็ม ด้วย
4. กลุ่มติดอาวุธญิฮาด ก่อนหน้านี้ในซีเรียมีกลุ่มติดอาวุธญิฮาดหลายกลุ่ม แต่เมื่อเดือน มี.ค. 2015 ที่ผ่านมา พวกเขาได้จับมือเป็นพันธมิตรภายใต้ชื่อ 'กองทัพแห่งชัยชนะ' (Army of Conquest) โดยเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มติดอาวุธมุสลิมและสาขาของอัลเคดา 8 กลุ่ม รวมทั้งกลุ่ม อาห์ราร์ อัช-ชาม และ อัล-นุสรา ฟรอนต์ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดด้วย
กองทัพแห่งชัยชนะ มีเป้าหมายในการสร้างฐานที่มั่นในซีเรีย ทำลายอิทธิพลของต่างชาติในประเทศมุสลิม และสร้างรัฐอิสลามภายใต้กฎหมายชาริอะห์ขึ้นทั่วโลก ศัตรูหลักๆ ของพวกเขาในซีเรียคือกองทัพรัฐบาลซีเรีย และกลุ่มไอซิส ที่แม้จะเป็นกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่เหมือนกัน แต่มีแนวคิดต่างกัน