"นายกฯ" ระบุ คสช.- รบ. เป็นฝ่ายชี้เรื่องปฏิรูป ลั่น 4 ปีเห็นการเปลี่ยนแปลง ศก.เข้มแข็งขึ้น ขอสื่อปฏิรูปการเสนอข่าว ยันไม่ปิดกั้น

เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2558 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการออกสารจากนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ถามในเรื่องนี้โดยมองว่านายกฯ สื่อสารทางเดียวหรือเปล่านั้น เห็นว่าเวลาคนอื่นสื่อสารทางเดียวเล่นงานตนผ่านสื่อ ไม่ยิ่งกว่าหรือ ฉะนั้นนานๆ ตนก็พูดทางเดียวบ้างอะไรที่มันมีปัญหาข้อสงสัย ตนก็ชี้แจงเท่านั้นเอง

นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้ ตนให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศในช่วงนี้มาก และถือว่าเป็นช่วงที่เราจะทำงานได้ จนกระทั่งถึงเดือนกรกฎาคมปี 2560 ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว ซึ่งมีเรื่องเยอะที่จะต้องทำ และตนก็สิ้นสุดแค่นั้นตามโรดแม็ป ฉะนั้นจะต้องขับเคลื่อนให้ได้ทั้งเรื่องของการปฏิรูปในระยะที่ 1 และต้องตรงกับที่รัฐบาลเริ่มต้น เพราะรัฐบาลเป็นคนริเริ่มทั้งหมด ที่ผ่านมา สปช.ก็ได้ทำออกมา 30 กว่ากิจกรรม จากนี้ สปท.ก็จะนำสิ่งเหล่านั้นมาขับเคลื่อนโดยทำเป็นแผนปฏิบัติการให้ชัดเจนขึ้น และจะต้องไปหารือกับ สนช.ที่จะต้องทำกฎหมายต่างๆ ให้สามารถทำได้ในวันหน้า ระหว่างนี้อีกปีครึ่งตนจะปฏิรูปหนึ่งบวกเอ็กซ์ โดยหนึ่งแรกทำไปแล้วตั้งแต่ คสช.กับปัจจุบันเน้นเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน เรื่องการปฏิรูปทำหมดแล้วทุกกิจกรรม และมีหลายเรื่องเห็นผลสัมฤทธิ์แล้ว ส่วนหนึ่งบวกเอ็กซ์คือสิ่งที่ต้องขยายต่อ ทั้งเรื่องกฎหมายกระบวนการยุติธรรม ต้นทาง ปลายทาง จะทำอย่างไร อย่างน้อยทั้งหมดต้องมีการคิดริเริ่ม จัดทำแผน และนำไปพิจารณาใน สปท.สนช.ต่อไป อะไรทำได้ก็ทำ

"คนที่จะชี้เรื่องการปฏิรูปทั้งหมดคือรัฐบาลและคสช. เพราะเป็นคนริเริ่มเรื่องเหล่านี้ ผมได้สั่งไปหลายกิจกรรม ทั้งฝ่ายความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม การต่างประเทศ ทุกกลุ่มงานมีกิจกรรมมหาศาลในวันนี้ ทั้งเริ่มต้นต่อของเดิมให้เข้มแข็งและวางอนาคต สื่อต้องทำความเข้าใจให้ดีไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะออกมาถึงวันนี้ได้ อย่างน้อยเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในห้วง 4 ปี ข้างหน้า เศรษฐกิจจะเข้มแข็งขึ้น ความสามารถประเทศสูงขึ้น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เอื้ออำนวยความสะดวกเพื่อเป็นศูนย์กลางอาเซียนจะเกิดขึ้นในวันหน้าทั้งสิ้น ฉะนั้นประโยชน์ที่จะได้กับผมไม่มีเลยในวันนี้ แต่จะได้ในวันหน้าต่อประชาชนกับรัฐบาลหน้าด้วยซ้ำไป ผมไม่มีอะไรไม่ได้อะไรทั้งสิ้น แต่อย่างน้อยผมก็ได้ทำการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แน่นอนย่อมมีผลกระทบและมีคนไม่ชอบ แต่ผมไม่ได้เอาความคิดตัวเองเป็นหลัก ทำงานโดยรับฟังความเห็นของทุกคน และเมื่อสั่งไปแล้วไม่ใช่ว่าต้องทำ ผู้ถูกสั่งต้องตอบว่าทำได้หรือไม่" นายกฯ กล่าว

...

นายกฯ กล่าวต่อว่า การทำสิ่งใหม่ๆ ย่อมมีผลกระทบแน่นอนวันนี้อยากให้การเสนอข่าวไม่เป็นแบบเดิม อยากให้น้องๆ ปฏิรูปในเรื่องการเสนอข่าว ซึ่งตนคงไม่บังอาจขนาดไปปฏิรูปสื่อ อยากให้สื่อปฏิรูปการนำเสนอข่าว การสร้างความเข้าใจ ในด้านที่ดีให้กับประชาชน ให้มีความรักความสามัคคี ไม่เกิดความขัดแย้งอีกต่อไป ทำนองนี้อะไรที่วิจารณ์แสดงความเห็นก็บอกมา แต่อยากให้เบาๆ ลงหน่อย ซึ่งตนก็ไม่ได้ไปปิดกั้นอะไรสื่ออยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นต่างชาติก็มองว่าตนไปปิดกั้น แค่เรียกนักข่าวมาคุยคนเดียวกลายเป็นว่าตนไปปิดกั้นเสรีภาพมนุษย์ มันใช่ที่ไหน ไม่ใช่หรอก พอกลับไปยังหัวเราะดี ไม่เห็นเดือดร้อนและก็เขียนใหม่อีก ก็เห็นอยู่การ์ตูนก็เขียนเหมือนเดิม เรียกไปก็เท่านั้น ตนก็โดนอีก แล้วอย่างนี้ประเทศชาติจะเรียกความสงบสุขจากใคร เรียกจากตน ก็ทำให้ไม่ได้ กฎหมายก็ต้องใช้กฎหมาย ขอความร่วมมือก็ไม่ได้อีก มันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ก็จะทำให้ ทำไปเรื่อยๆ.