"บิ๊กตู่" ลั่น ไม่ปรองดองคนไม่เอากฎหมาย ชี้ สิทธิมนุยชนไม่ได้มีไว้ให้ใครทำผิด ก.ม. ชี้อย่าเอาความขัดแย้งมาอ้างทำชาติไม่สงบ ฮึ่ม ตนไม่ชอบให้ใครขู่

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 58 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (กพย.) ถึงการสร้างความปรองดองว่า ต้องแบ่งเป็นการสร้างความปรองดอง ความสามัคคีของคนในชาติ และความปรองดองในเรื่องคดีความการเมือง ซึ่งทั้ง 2 อย่าง ต้องทำต่อในวันหน้า สำหรับเรื่องคดีความที่มีการพูดถึงการนิรโทษกรรมนั้น ตนยังไม่รู้ว่าจะไปได้แค่ไหน แต่ที่วางไว้หลักๆ ได้เตรียมเป้าหมายไว้ 3 รูปแบบ คือ 1. คนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วมีการตัดสินแล้ว ต้องได้รับการพิจารณาก่อน 2. คนที่กำลังอยู่ในกระบวนการ เมื่อได้ข้อยุติมาแล้วก็มาพิจารณาต่อ และ 3.ใครที่ยังหลบหนี ยังไม่เข้ากระบวนการยุติธรรม ก็ปรองดองไม่ได้อยู่แล้ว เนื่องจากกฎหมายมีเกณฑ์กำหนดไว้อยู่ ไม่ใช่เอาตามความพอใจ ตนไม่ชอบให้ใครมาขู่ว่าถ้าไม่ปรองดองแล้วไม่สงบ ก็ลองดู กฎหมายเขามีไว้ทำอะไร ไม่ได้มีไว้ให้ดูถูกหรือให้เล่น แล้วสื่ออยากปรองดองหรืออยากให้บ้านเมืองสงบหรือไม่ ถ้าอยากแล้วต้องทำอย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า คนที่ไม่ยอมรับกระบวนการทางกฎหมาย ไม่ใช่ผู้ที่หนีไปต่างประเทศเท่านั้น แต่คนในประเทศที่ไม่รับและไม่ปฏิบัติตามกฎหมายมีหรือไม่ พอจะทำอะไรก็อ้างสิทธิมนุษยชน ซึ่ง สิทธิมนุษยชน ไม่ได้หมายความว่าให้คนทำผิดกฎหมายได้ แต่ สิทธิมนุษยชน คือ การดูแลสิทธิของผู้บริสุทธิ์ ไม่ให้ถูกรังแกและให้เป็นไปตามประชาคมโลก แต่บ้านเราก็มีกฎหมายอยู่ ฉะนั้น หากกฎหมายประกาศไว้แล้ว ก็ต้องผิดกฎหมายทั้งหมด แต่เมื่อทำกลับไม่ได้ เพราะไม่ชอบทำตามกฎหมาย หากบอกว่าทุกคนต้องมีสิทธิเท่าเทียม ทำอะไรก็ได้มีเสรีภาพทุกอย่าง อย่างนี้ไม่มีทางทำได้ทุกเรื่อง พัฒนาอะไรก็ไม่ได้ วันหน้าก็เป็นอยู่อย่างนี้ แล้วความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นมาอีก เพราะความขัดแย้งยังไม่ยุติกัน ทุกคนไม่นึกถึงประเทศชาติมันก็จบ มันมีคนสองข้างทะเลาะกันอยู่แล้ว ข้างที่สามมาบอกว่าต้องประชาธิปไตย ก็เหมือนเดิม

...