ยืนยันแล้ว กับโครงการ "เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด" ให้กับแม่และครอบครัวทารก เดือนละ 400 บาท เป็นระยะเวลา 12 เดือน โดยเปิดลงทะเบียน วันที่ 15 ก.ย. นี้

ในเรื่องนี้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเห็นความสำคัญในการดูแลเด็กแรกเกิด ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ยังขาดการสนับสนุน จึงได้เห็นชอบจัดสรรเงินอุดหนุนแก่เด็กแรกเกิดกับครอบครัวยากจน และที่เสี่ยงต่อความยากจน จำนวน 400 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 12 เดือน

"แม้จะเป็นจำนวนน้อย แต่เชื่อว่าเงินจำนวนนี้หากอยู่ในมือคนที่จำเป็นก็ถือว่ามีค่า จึงอยากให้ครอบครัวที่อยู่ในเกณฑ์ได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ และยังเป็นฐานข้อมูลในการให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.), กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกระทรวงมหาดไทย (มท.) เข้าไปติดตามดูแลกลุ่มเป้าหมายในด้านต่างๆ มากขึ้น โครงการนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนาอนาคตชาติ รวมทั้งลดความเหลื่อมล้ำในสังคม จึงเชื่อว่าคงไม่ใช่ดำเนินการเพียงปีเดียว" พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าว

...

ลงทะเบียน

เด็กแรกเกิด หรือหญิงตั้งครรภ์ที่มีคุณสมบัติที่ฝากครรภ์แล้ว ยื่นลงทะเบียนด้วยตนเองที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามถิ่นที่อยู่ของผู้มีสิทธิ์ (สำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร หรือ เมืองพัทยา หรือ เทศบาล หรือ อบต.)

เอกสารหลักฐานประกอบการลงทะเบียน มีดังนี้

1. แบบลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ฯ (แบบ ดร.01)
2. แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (แบบ ดร.02)
3.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของหญิงตั้งครรภ์ หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ
4. สำเนาเอกสารแสดงการฝากครรภ์ หรือ สำเนาสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก (หน้าแรก)
5. สำเนาสูติบัตรเด็กแรกเกิด (ยื่นหลังคลอด) ที่ได้รับการรับรองแล้ว
6. สำเนาสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย(กรณีประสงค์รับเงินผ่านบัญชีธนาคาร

คุณสมบัติของกลุ่มเป้าหมายของโครงการ ดังนี้

1.เด็กแรกเกิด :
- เกิดระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ถึง 30 กันยายน 2559
- มีสัญชาติไทย (บิดาและมารดา หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสัญชาติไทย)
- ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ เงินสงเคราะห์บุตรจากกองทุนประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการหรือรัฐวิสาหกิจ และไม่อยู่ในความดูแลของหน่วยงานของรัฐ เช่น บ้านพักเด็กและครอบครัว สถานสงเคราะห์ของรัฐ

2.หญิงตั้งครรภ์ :
- มีกำหนดคลอดระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ถึง 30 กันยายน 2559
- อยู่ในครัวเรือนยากจนและครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน ที่มีการรับรองสถานะของครัวเรือนเรียบร้อย

กรณี มารดาเด็กเป็นคนต่างด้าว หรือไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร หรือเสียชีวิต อนุโลมให้บิดาเด็ก สัญชาติไทยตามสูติบัตร ลงทะเบียนแทนมารดาเด็กได้หลังจากเด็กเกิดแล้ว โดยให้นำเอกสารหลักฐานของ บิดาเด็กและมารดาเด็กในกรณีดังกล่าว ที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐมายื่นเพื่อแสดงความจำนงขอรับสิทธิ์

กรณี อยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัว หรือสถานสงเคราะห์ของรัฐ จะไม่ได้รับสิทธิ์ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เนื่องจากได้รับการดูแลจากภาครัฐ แต่หากมีคุณสมบัติสามารถขอรับสิทธิ์ เงินอุดหนุนได้ แต่จะได้รับเงิน เฉพาะเดือนที่ไม่อยู่ใน ความดู แลของบ้านพักเด็กและครอบครัว หรือสถานสงเคราะห์ของรัฐ (หลังออกจากบ้านพักเด็กและครอบครัวหรือสถานสงเคราะห์ของรัฐแล้ว)

ครัวเรือนยากจนและครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน หมายถึง ครัวเรือนที่สมาชิกในครัวเรือน มีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 3,000 บาท ต่อคน ต่อเดือน หรือต่ำกว่า 36,000 บาท ต่อคน ต่อปี โดยนำรายได้ของสมาชิก ทั้งหมดในครอบครัว หารด้วยจำนวนสมาชิกทั้งหมดในครอบครัวซึ่งรวมเด็กแรกเกิดด้วย ในความเป็นจริงการสอบถามรายได้อาจไม่ได้ข้อมูลที่ตรงกับข้อเท็จจริง จึงจำเป็นต้องใช้การประเมิน ความยากจนระดับครัวเรือน ด้วยข้อมูลสถานะของครัวเรือนมาประกอบการพิจารณาด้วย ดังนี้ 

1.ครอบครัวมีภาระพึ่งพิง ได้แก่ ในครอบครัวมีคนพิการ หรือผู้สูงอายุ หรือเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี หรือคนว่างงาน อายุ 15-65 ปี หรือเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว
2.สภาพที่อยู่อาศัย สภาพบ้านชำรุดทรุดโทรม บ้านทำจากวัสดุพื้นบ้าน เช่น ไม้ไผ่ ใบจาก หรือวัสดุเหลือใช้หรืออยู่บ้านเช่า
3.ไม่มีรถยนต์ส่วนบุคคล รถปิกอัพ รถบรรทุก รถตู้ 
4.เป็นเกษตรกรมีที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ 

...

การรับเงิน

1.รับด้วยตนเอง ณ กรมกิจการเด็กและเยาวชน หรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นรับแทน) กรณีมอบอำนาจ ให้นำหนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจมายื่นด้วย

2.รับผ่านบัญชีธนาคาร (นำสำเนาสมุดบัญชีธนาคารที่หน้าแสดงหมายเลขบัญชีและชื่อผู้รับเงินมายื่น)
 
นอกจากนี้ กรมกิจการเด็กและเยาวชนหรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดจะประสานส่งต่อข้อมูลกลุ่มเป้าหมายไปยังสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (ตามแต่กรณี) ทุกวันที่ 16 ของเดือน เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปใช้ประกอบการให้บริการเชิงรุกด้านอนามัยแม่และเด็กสำหรับผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โดยทีมหมอครอบครัวจะติดตามเยี่ยมบ้านและดูแลหญิงตั้งครรภ์และเด็กแรกเกิดได้ตามมาตรฐาน

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือ อ่านรายละเอียดทั้งหมด คลิก 

...