ตำรวจชุมพร สกัดจับแก๊งขนยาไอซ์ลอตใหญ่น้ำหนักร่วม 100 กก.คิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท รับขนยาข้ามฝั่งแม่น้ำโขงเพื่อส่งไปขายภาคใต้ สารภาพขนมาแล้ว 5 ครั้งรวมยาไอซ์กว่า 330 กก.และยาบ้าอีก 2 แสนเม็ด...

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 5 ก.ย.58 พล.ต.ต.สมชาย นิมิตรบวรกุล รอง ผบช.ภ.8 พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ ศิริคง รองผบก.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ พ่วงพิศ ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร นายสราวุธ ภัคดี ผอ.บังคับใช้กฎหมาย ปปส.ภ.8 ร่วมกันสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาค้ายาเสพติด 2 ราย มีผู้ต้องหาที่ 1 ชื่อนายสงกรานต์ อ้อมกอกุล อายุ 32 ปี ชาวบ้าน หมู่ 6 ตำบลอ้อมกอ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาที่ 2 ชื่อนายสมชาย ทาจำปา อายุ 32 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ตำบลน้ำอ้อ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลางที่ตำรวจยึดได้มี ยาไอซ์ 100 ห่อ รวมน้ำหนัก 100 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 3 ล้านบาท รวมมูลค่า 300 ล้านบาท รถยนต์กระบะอีซูซุ สีดำ สี่ประตู ทะเบียน 4กถ 3982 กรุงเทพมหานคร และรถเก๋งโตโยต้า คัมรี สีขาว ทะเบียน ฌฟ 3964 กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากช่วงเช้าของวันที่ 4 ก.ย.58 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ฉลาด พลนาการ รอง ผกก.สภ.เมืองชุมพร ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าด่านตรวจความมั่นคงประตูภาคใต้ บ้านพละ หมู่ 3 ถนนเพชรเกษม ตำบลเขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร นำกำลังออกตั้งด่านตรวจป้องกันปัญหาอาชญากรรม สิ่งผิดกฎหมาย และยาเสพติด กระทั่งมีรถยนต์กระบะอีซูซุ สีดำ แบบ 4 ประตู ทะเบียน 4กถ 3982 กรุงเทพมหานคร ขับผ่านมาจึงเรียกตรวจแต่ปรากฏว่าคนขับเร่งเครื่องฝ่าด่านหลบหนีไปอย่าง รวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังออกไล่ติดตาม กระทั่งมาพบรถยนต์คันดังกล่าวกำลังขับย้อนสวนทางออกมาจากถนนซอยทางเข้า สำนักงานส่งเสริมเกษตรและสหกรณ์ที่ 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา หมู่ที่ 1 ตำบลเขาไชยราช อ.ปะทิว ห่างจากด่านตรวจประมาณ 4 กิโลเมตร 

...


เจ้าหน้าที่จึงขับรถยนต์ขวางให้จอด ตรวจสอบทราบคนขับชื่อนายสงกรานต์ อ้อมกอกุล อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนจนยอมเปิดปากรับสารภาพว่า ได้ขนยาไอซ์มากับรถยนต์และขับแหกด่านหลบหนีมาถึงถนนซอยจึงเลี้ยวรถเข้าไป ประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วนำยาไอซ์เข้าไปซ่อนไว้ในป่าละเมาะข้างทาง จากนั้นขับรถย้อนกลับออกมาจน ถูกจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปยังจุดซ่อนของกลาง พบกระเป๋าเป้สะพายหลังจำนวน 5 ใบ ซุกอยู่ในพงหญ้าห่างจากถนนประมาณ 100 เมตร เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดดูมีห่อกระดาษฟอยล์สีเหลืองคล้ายกับถุงบรรจุกาแฟอยู่ ภายในกระเป๋าเป้ทั้ง 5 ใบ รวมจำนวน 100 ห่อ น้ำหนัก 100 กิโลกรัม เมื่อตรวจสอบพบเป็นยาไอซ์ทั้งหมด จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

เจ้าหน้าที่สอบสวนนายสงกรานต์ให้การว่า รับจ้างขนยาไอซ์ทั้งหมดมาจากริมฝั่งโขงด้าน อ.หนองหาร จ.อุดรธานี โดยมีรถยนต์ร่วมขบวนมาทั้งหมด 4 คัน เป็นรถนำทาง 3 คัน ส่วนรถยนต์คันที่ตนขับได้ขนยาไอซ์ขับตามหลังมาเป็นคันสุดท้าย แต่ละคันจะทิ้งช่วงห่างกันประมาณ 5 กิโลเมตร ได้รับค่าจ้างคันละ 2 แสนบาท รับเงินล่วงหน้ามาแล้วคันละ 1 แสนบาท เพื่อนำยาไอซ์ทั้งหมดไปส่งที่ จ.พัทลุง

โดยรถนำทั้ง 3 คัน จะคอยโทรศัพท์แจ้งกันเป็นระยะๆ ว่าจุดไหนมีด่านหรือไม่มีไม่ด่าน หากเจอด่านตน ก็จะจอดรถรอให้เจ้าหน้าเลิกตรวจหรือหาทางเลี่ยงด่านตรวจ โดยรถนำคันแรกเป็นรถกระบะอีซูซุ สีดำสี่ประตู ทะเบียนกรุงเทพมหานคร คันที่ 2 รถยนต์กระบะอีซูซุ ตอนครึ่งสีฟ้า ทะเบียนกรุงเทพมหานคร และคันที่ 3 รถเก๋งโตโยต้า คัมรีสีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งช่วงเช้าของวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา รถยนต์นำทางทั้ง 3 คัน ได้ขับผ่านด่านตรวจประตูภาคใต้ไปแล้ว และได้โทรศัพท์แจ้งมาที่ตนว่าไม่มีการตั้งด่านแต่อย่างใด ตนจึงขับมาตามปกติ แต่ปรากฏว่าขณะที่ตนขับมาถึงด่านพบว่าตำรวจกำลังตั้งด่านตรวจพอดีทำให้ตนตกใจจึงขับแหกด่านมาได้สักพัก แล้วเลี้ยวเข้าไปในถนนซอยนำยาไอซ์ทั้งหมด เข้าไปซ่อนไว้ในป่าละเมาะข้างทาง จากนั้นรีบขับรถย้อนออกมาจนถูกตำรวจที่ไล่ติดตามมาจับกุมได้ดังกล่าว

ขณะที่เจ้าหน้าที่คุมตัวนายสงกรานต์ผู้ต้องหาคนที่ 1 มาสอบสวนที่ด่านตรวจอยู่นั้นได้มีรถเก๋งโตโยต้า คัมรี สีขาว ทะเบียน ฌฟ 3964 กรุงเทพมหานคร ที่เป็นรถนำคันที่ 3 ตามที่นายสงกรานต์ให้การซัดทอด ได้ขับย้อนกลับมาที่ด่านตรวจเพื่อจะตามมาดู นายสงกรานต์เนื่องจากไม่สามารถติดต่อกันได้ เจ้าหน้าที่จึงสกัดรถให้หยุดทราบคนขับชื่อนายสมชาย ทาจำปา อายุ 32 ปี ผู้ต้องหารายที่ 2 ไว้ได้ คุมตัวไปสอบสวนให้การรับสารภาพว่าร่วมแก๊งขนยาไอซ์มาด้วยกันกับนานสงกรานต์ โดยทำหน้าที่เป็นคนขับรถนำคันที่ 3 จริง

...

นอกจากนั้น จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังรับสารภาพด้วยว่าได้ร่วมกันขนยาเสพติดจากฝั่งโขงมาแล้วถึง 5 เที่ยว ครั้งแรกขนยาบ้าจำนวน 2 แสนเม็ด ครั้งที่ 2 ยาไอซ์ 100 กิโลกรัม ครั้งที่ 3 ยาไอซ์ 50 กิโลกรัม ซึ่งทั้ง 3 ครั้งนำไปส่งที่ อำเภอวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 19 ส.ค.58 ที่ผ่านมาขนยาไอซ์ จำนวน 80 กิโลกรัม ไปส่งที่ จ.พัทลุง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ขนยาไอซ์จำนวน 100 กิโลกรัม จนมาถูกตำรวจด่านประตูภาคใต้ที่ จ.ชุมพร จับกุมได้ดังกล่าว

พล.ต.ต.สมชาย นิมิตรบวรกุล รอง ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่าการจับกุมยาไอซ์ได้ถึง 100 กิโลกรัม ครั้งนี้ถือเป็นลอตใหญ่ที่สุดครั้งแรกของภาคใต้ที่มีการจับกุมยา ไอซ์ได้จำนวนมากขนาดนี้ ซึ่งจะต้องขยายผลถึงเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.