หลังจากการ 'สเกตช์ภาพ' หน้าตาคนร้ายที่ก่อเหตุวางระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จนกลายเป็นกระแสแชร์เพื่อตามล่าแทบพลิกแผ่นดิน คำถามที่หลายคนสงสัยก็คือหน้าตาแบบไหนที่มีสิทธิ์จะก่อเหตุร้าย หน้าตาแบบไหนจิตใจดุร้าย หรือ หน้าตาที่จะมีความเสี่ยงในการก่อเหตุความรุนแรง แล้วทั้งหมดที่หลายคนสงสัย
ภายใต้คำว่า 'โหงวเฮ้ง' คนร้ายมีสถิติมีการจดบันทึกไว้ไหม? มีหรือไม่? รู้ไว้เพื่อที่จะระวังและเท่าทัน ไทยรัฐออนไลน์พาไปหาคำตอบ


...
วิทยาศาสตร์ : โหงวเฮ้งอาชญากรมีจริงหรือ?
'มี'...ประเด็นนี้ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ บูรณะ ผู้กำกับการฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากร 2 กองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือที่ใครเรียกกันว่า ผู้ควบคุมด้านการสเกตช์ภาพมือหนึ่งของประเทศไทยบอกว่า หากย้อนหลังไป 20-30 ปี เรื่องนี้เป็นไปได้ แต่ในยุคปัจจุบันจะเกิดขึ้นกับคนทั่วๆ ไป ลักษณะใบหน้าของอาชญากรเราจะตั้งประเด็นตรงนั้นไม่ได้แล้ว แต่สมัยก่อนอาจจะได้เพราะมันมีกลุ่มอาชญากรเป็นกลุ่มเล็กๆ โหงวเฮ้งที่พบบ่อยก็คือ เช่น มีกรามใหญ่ ตาโต โหนกคิ้วหนา คล้ายๆ อะไรแบบนั้น
แต่สมัยนี้มันไม่ได้แล้ว มือควบคุมการสเกตช์ภาพชื่อดังบอกและว่า เนื่องเพราะปัจจุบันมีประชากรเป็นจำนวนมาก โครงหน้าหรือที่เรียกว่า 'โหงวเฮ้ง' อาชญากรมันก็ไม่ตายตัวอีกต่อไปเพราะฉะนั้นอาชญากรรมเกิดขึ้นจากปัญหาของสังคม พร้อมบอกขั้นตอนในการสเกตช์ภาพโหงวเฮ้งคนร้ายว่าสิ่งสำคัญต้องมีพยานบุคคลที่พบเห็นใบหน้าของผู้ต้องสงสัย หรือคนร้าย ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถสเกตช์ได้เลย
"หลายคนอาจจะเข้าใจว่าการสเกตช์ภาพเอากล้องวงจรปิดมาดูอย่างเดียวแล้วสเกตช์ จริงๆ ไม่ใช่ ต้องมาจากปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งขบวนการสืบสวนในเรื่องของวัตถุพยานที่เกิดเหตุต้องเก็บอยู่แล้ว และเรื่องของกล้องวงจรปิดก็ส่วนหนึ่ง แต่ในส่วนของภาพสเกตช์เราต้องได้จากคำบอกเล่าของพยานหรือผู้เสียหายเท่านั้น ถามว่าต้องฟังพยานสักกี่คน ส่วนใหญ่ไม่มีคนเห็นมากนัก บางคดีมีผู้เสียหายคนเดียวที่เห็น ถ้าพยานคนอื่นเห็นคนร้ายหนีไปแล้วมีคนพบพิรุธอะไรแล้วจำได้ ตรงนั้นอาจจะเป็นเรื่องของการขยายผลตามมาในเรื่องของพยาน แต่หลักๆ เราฟังการสเกตช์ภาพจากผู้เสียหาย"


เจาะสเกตช์ โหงวเฮ้ง และวิธีจดจำโหงวเฮ้งคนร้ายทำไง
ขั้นแรกต้องคุยกับเขาว่าภาพที่เห็น สิ่งแรกคือโครงหน้า โหงวเฮ้งเป็นอย่างไร...? ผู้มีประสบการณ์บอกและย้ำโหงวเฮ้งหรือโครงหน้าของคนแบ่งเป็น 4 ลักษณะตามรูปทรงเรขาคณิต 1. กลม 2. รูปไข่ 3. หน้าเหลี่ยม มีกราม 4. หน้าแหลม-เรียว ส่วนดีเทลจะกลม หรือ เรียวมาก-น้อย เราเอาภาพรวมไว้ก่อน
"สิ่งที่ดูพร้อมกันกับโครงหน้าคือเรื่องของทรงผม ถ้าคนเราจะมองไปต้องมองทรงผมก่อนว่าเป็นทรงอะไร ส่วนมากที่สะดุดตา คือผมยาว ผมสั้น มีหนวด-เคราไหม นี่เป็นจุดเด่นที่คนเราจะมองเห็นตรงนั้นก่อน ซึ่งบางทีเราก็จะไม่ได้รายละเอียดในลักษณะของใบหน้าส่วนอื่นเลย อย่างเช่น ตา คิ้ว จมูก ปาก เพราะคนเราถ้ามีหนวดมันก็จะปิดบริเวณอื่น ถ้าเราไม่สังเกตปากเราจะไม่รู้เลย เราจะมองเห็นแค่หนวดแค่นั้น ลึกไปกว่านั้นเราไม่ได้สังเกต"

...

ผู้ควบคุมด้านการสเกตช์ภาพ ย้ำด้วยว่า ลักษณะเด่นที่พูด หมายถึงคนที่มีหนวดทำให้เราไม่ได้ไปสังเกตส่วนอื่นของใบหน้า แต่สิ่งที่เราสังเกตบนใบหน้าคือชิ้นส่วน โครงหน้า ทรงผม ตาคิ้วจมูกปาก ส่วนใบหูจะเป็นลักษณะปกติหรือไม่ แต่ที่สุดโหงวเฮ้งมันสื่อสารด้วยใบหน้า
"อีกขั้นตอนที่สำคัญก็คือให้ผู้เสียหายรื้อฟื้นความทรงจำ โดยให้ดูภาพก่อน ดูลักษณะของชิ้นส่วนต่างๆ เป็นอย่างไร โครงหน้าเป็นอย่างไร ตาโต ตาเล็ก พอเขาเลือกได้ จึงกันตรงนั้นมาวิเคราะห์ มาประกอบเป็นภาพขึ้นมาตามข้อมูลที่ผู้เสียหายหรือพยานให้ วาดคร่าวๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ดูก่อนว่าตรงไหม (หลังปี 2535 เลิกใช้ดินสอสเกตช์เปลี่ยนมาใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมโฟโต้ช็อปแทน) ถ้าจะพูดกันในรายละเอียดลึกลงไป เช่น ลักษณะใบหน้าเป็นเพศไหน วัยไหน อายุประมาณเท่าไร ผิวเป็นอย่างไร หรือจะเป็นเรื่องเชื้อชาติต้องดูด้วยว่าชาติไหน รวมๆ จากการที่จดจำของพยานด้วย แล้วจึงสเกตช์ภาพออกมา ซึ่งส่วนใหญ่คำตอบที่ได้จากพยานก็คือคล้าย กับคล้ายมาก 60-"
ผู้ทำหน้าที่จิตรกรในกรมตำรวจย้ำว่า หลายครั้งพยานก็บอกเราว่าไม่เหมือน ไม่เหมือนเลย คล้าย คล้ายมาก เปอร์เซ็นต์ที่เราจะตั้งเป็นบรรทัดฐานไว้ว่าคือคล้าย 65-70% จึงจะให้ภาพนั้นออกไปให้พนักงานสอบสวนได้ แต่ทั้งนี้อย่าลืมคำว่า 65-70% มันเป็นรูปที่พยานอาจจะจำมาได้ไม่ละเอียดเท่าไร แต่สิ่งที่เขาบอก 65-70% เป็นความจำของเขา ซึ่งจำไม่ได้ 100% อยู่แล้ว การจดจำใบหน้าหรือเอกลักษณ์เด่นของคนร้ายข้างต้นเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำ เพราะมันเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนและจับกุม" ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสเกตช์ภาพคนร้ายกล่าวในที่สุด
...

โหราศาสตร์จีน : โหงวเฮ้งอาชญากรมีจริงหรือ?
มาทางฝากของศาสตร์โบราณ เรื่องนี้ หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา หมอดูชื่อดังระดับประเทศไทย เจ้าของฉายานักเก็บสถิติชื่อดัง กล่าวผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า ตามตำราโหงวเฮ้งที่ระบุว่าใครเป็นอาชญากรนั้นไม่มี เพราะการบอกคนไหนเป็น 'คนดี' หรือ 'คนร้าย' มันตัดสินด้วยหน้าตาไม่ได้ แต่หลักของโหงวเฮ้งสามารถบอกความใจร้อนแล้วอารมณ์รุนแรงของคนคนนั้นได้ ว่าคนเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะ 'ก่ออาชญากรรม' ได้ง่ายกว่า ไม่ได้หมายความว่า 'โหงวเฮ้ง' ที่ว่าจะต้องเป็นอาชญากรได้ 4 อย่างดังนี้
1. เรื่องคิ้วสำคัญมาก เช่น 'โหนกคิ้ว' จุดนี้สำคัญมาก เพราะหลักของตำราระบุว่าโหนกคิ้วสูง (หมายถึงโหนกคิ้วยื่นออกมามากกว่าปกติ) เป็นตัวที่แสดงออกถึงเรื่องของอารมณ์ หมายถึงใจร้อน วู่วาม ไม่ค่อยกลัวอะไร 'ขนคิ้ว' หรือ คิ้วไม่เป็นระเบียบ เช่น ขนหัวคิ้วไปทาง ขนหางคิ้วไปอีกทาง หรือ 'ขนคิ้วหยาบหนา' คนพวกนี้คุมสติอารมณ์ไม่อยู่ มีความเสี่ยงในการก่อความรุนแรง
2. โหงวเฮ้งลักษณะตา หรือการจ้องตา เวลามนุษย์มองขึ้นไปข้างบน หมายถึง การคิดการวางแผน แต่มองลงมาข้างล่าง หมายถึง เรื่องยอมรับ แต่สำหรับคนที่คุยแล้วชอบจ้องตา (หมายถึงไม่ใช่การอายคอนแทค) แต่ต้องเป็นตาที่มองลักษณะไม่ขยับ หรือเรียกว่า 'ตาเกร็ง' ตาลอย จะเป็นคนที่มีความรุนแรงทางจิตใจ ระงับสติอารมณ์ไม่ได้
...
3. โหนกแก้ม คนที่มีรูปของ 'โหนกแก้ม' ชัดเจน เช่น โหนกแก้มสูงเป็นคนที่ชีวิตต้องดิ้นรนต่อสู้ หรือหมายถึงเป็นคนที่ชอบต่อสู้ ชอบการต่อสู้ ชอบอะไรที่โลดโผน พวกนี้จะไม่ค่อยกลัวอันตราย กล้าเสี่ยง กล้าได้กล้าเสีย มักจะทำอะไรแบบที่คนไม่คาดคิด
4. จมูก ที่ต้องระวังลักษณะเหมือนกับเหยี่ยว กล่าวคือ ปลายจมูกงุ้ม หรือ ปลายจมูกปิดลง พวกนี้มันจะไม่ค่อยคิดถึงผลกระทบเหตุการณ์รอบๆ ข้าง คิดแต่เรื่องของตัวเอง เวลาทำอะไรก็ไม่ค่อยคิดถึงผลกระทบตามมาว่าจะเกิดอะไรกระทบกับใคร
"ส่วนโครงหน้าต้องเป็นหน้าในเชิงธาตุไฟ หมายถึง ความใจร้อน คือคนที่มีกรามใหญ่ หน้าผากแคบอันนี้เป็นโหงวเฮ้งอันตราย มีสิทธิ์ในการก่อเหตุการณ์ความรุนแรง"

เมื่อถามถึงภาพ 'ภาพสเกตช์' ใบหน้าคนร้ายในการก่อเหตุระเบิดที่ราชประสงค์เป็นอย่างไร หมอช้างบอกว่า จากที่เห็นคิ้วเข้ม แต่เนื่องจากมองลักษณะคิ้วไม่ชัดเจนทั้งหมด เนื่องจากใส่แว่นตา จึงไม่สามารถเห็นมิติของคิ้วได้หมด อย่างไรก็ดี สิ่งที่เห็นชัดเจนก็คือลักษณะ 'ตาลอย' ตาเกร็ง แบบเดียวกัน โหงวเฮ้งแบบนี้ระบุว่าเป็นคนขาดสติใจร้อน ขาดความยับยั้งชั่งใจ
"ถามว่าโหงวเฮ้งไม่ดีแก้ด้วยการทำศัลยกรรมได้ไหม โหงวเฮ้งมาจากจิตใจถึงใบหน้า การเปลี่ยนที่ดีที่สุดคือการเปลี่ยนข้างใน ที่สุดแล้วแบบที่บอกว่า 'เราไม่สามารถบ่งบอกว่าใครดีหรือไม่ดี บางคนมีโหงวเฮ้งที่ใจร้อน แต่มีการฝึกควบคุมอารมณ์ได้ดีปัญหาก็ไม่เกิดขึ้น แต่หากปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือความควบคุม ต่อให้หน้าตาแบบไหนก็ต้องระวัง อาจจะทำให้ก่อเหตุการณ์ร้ายแรงได้ในชีวิต" หมอดูชื่อดังกล่าวสรุปไว้อย่างชัดเจน


