รมว.ศธ.เมินเด็ก ม.6 เตรียมอุดมส่งข้อสอบเปล่าวิชาหน้าที่พลเมือง ระบุไม่แปลก ย้ำสื่อมวลชนไม่ควรจะเสนอ ยันพร้อมเดินหน้าปรับการเรียนการสอบ เน้น เยาวชนแยกแยะหน้าที่-สิทธิ ตามค่านิยม 12 ประการของ คสช...

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 23 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการเพิ่มหลักสูตรเสริมสร้างความเข้มแข็งของประเทศโดยเน้นหน้าที่พลเมืองว่า กระทรวงศึกษาธิการได้รับนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ แล้วทั้งการเน้นหน้าที่พลเมือง ด้านสังคม ด้านประวัติศาสตร์ เพราะรัฐบาลต้องการให้เยาวชนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของตัวเอง มีคุณธรรมจริยธรรม มีทักษะในการใช้ชีวิต ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐานได้เน้นกิจกรรมเกี่ยวกับหน้าที่พลเมืองที่ควรปฏิบัติ โดยนำค่านิยม 12 ประการเข้ามาผสมผสาน แต่ไม่ได้มีการเพิ่มเวลาเรียนของนักเรียนแต่อย่างไร

พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า การส่งเสริมให้เยาวชนสามารถแยกแยะระหว่างสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองถือเป็นเรื่องสำคัญ และครูต้องมีความเข้าใจเรื่องดังกล่าวด้วย เพราะหากไม่เข้าใจ แล้วมีการละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น ก็ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมายังไม่มีการเน้นเรื่องลักษณะนี้เท่าที่ควร แต่ในอนาคตจะเน้นมากขึ้น อย่างไรก็ตามหลักสูตรการเรียนการสอนได้มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการปรับปรุงในระบบใหญ่ ทั้งนี้การปรับปรุงหลักสูตรจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นักเรียนหญิงชั้น ม.6 ส่งกระดาษเปล่าในข้อสอบวิชาหน้าที่พลเมือง แสดงความไม่เห็นด้วยกับการเข้ามาควบอำนาจของรัฐบาล พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า ไม่คิดอะไร เด็กคนเดียวจากเด็ก 10 กว่าล้านคน จึงอาจมีบ้างที่เด็กจะมีความคิดแบบนั้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก แต่คิดว่าสื่อมวลชนไม่จำเป็นต้องนำเรื่องนี้มีนำเสนอให้เป็นเรื่องใหญ่

...

"อย่างเรามีเพื่อนแม้กระทั่งในห้องเรียนก็ดี บ้างคนที่มีความคิดแตกต่าง ก็เป็นไปในลักษณะเดียวกันว่า ถ้าเราไม่ยกมาเป็นประเด็นก็คงไม่เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร แต่วิชาหน้าที่พลเมืองเราเน้นให้โรงเรียนและครูทำความเข้าใจ แล้วให้ความรู้กับเด็กอย่างถูกต้อง ซึ่งก็ไม่ได้กังวลว่าเรื่องดังกล่าวจะลุกลาม และก็คงไม่ต้องทำความเข้าใจ เพราะเข้าใจว่าทางโรงเรียนคงมีการทำความเข้าใจอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นข่าวขึ้นมา ยิ่งแน่นอนว่าต้องได้รับความสนใจ" พล.ร.อ.ณรงค์กล่าว

พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวถึงมาตรการควบคุมมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบ โดยเฉพาะประเด็นการเรียกเก็บค่าเล่าเรียนที่สูงว่า มหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ออกนอกระบบต่างระบบตรวจสอบอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับแล้วจะสามารถเพิ่มค่าเทอม ค่าหน่วยกิต คงไม่ได้มีการเพิ่ม เท่าที่สำรวจมหาวิทยาลัยของรัฐที่ออกไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ เรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิด มันมีมาหลายปีและมีหลายมหาวิทยาลัยแล้ว อย่างไรก็ตาม เท่าที่สำรวจค่าใช้จ่ายที่เค้าเรียกเก็บจากเด็กก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น ถ้าลองไปดูสถิติย้อนหลัง.