จากสองตอนที่ผ่านมาคือ รับได้ไหม? ค้ากามเสรี EP.1 ล้วงที่มาไทยเซ็กซ์ทัวร์ อาชีพแอบซ่อนฟันปีละหมื่นล้าน และ รับได้ไหม? ค้ากามเสรี EP.2 เงินมา ผ้าหลุด! สาวบริการเปิดใจ แค่กล้า ก็ขายได้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้นำเสนอแง่มุมเกี่ยวกับธุรกิจเพศพาณิชย์ไปพอสมควรในสองตอนก่อนหน้า จนถึงคราวที่ต้องยื่นข้อสรุป และตอบคำถาม ว่าการค้าบริการมีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร พร้อมดูความคิดเห็นว่าประเทศไทยพร้อมและเหมาะสมแล้วหรือไม่ กับการค้าบริการทางเพศแบบถูกกฎหมาย
ต้องยอมรับความจริง ของขึ้นชื่อประเทศไทย = เซ็กซ์
นางจันทวิภา อภิสุข เลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมโอกาสผู้หญิง (Empower) กล่าวว่า บ่อน กับ การค้าประเวณี ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ เนื่องจาก การค้าบริการต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เข้าไปด้วย แต่หากถามว่า จะสามารถทำให้ถูกกฎหมายได้หรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่า ควรจะทำให้ถูกกฎหมาย แต่ต้องทำอย่างจริงจัง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่วาทกรรม ที่พูดแต่ไม่ปฏิบัติ หรือทำให้เป็นปัญหาที่นักการเมืองเข้ามาใส่ใจเฉพาะช่วงที่ต้องหาเสียงเลือกตั้งเท่านั้น
...
การจะทำให้ถูกกฎหมาย ควรเริ่มจาก ยอมรับความจริงให้ได้เสียก่อนว่าประเทศไทยเต็มไปด้วยสาวค้าบริการ ที่เป็นที่นิยมและเลื่องชื่ออย่างมากในวงนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อประเทศไทยได้ถูกจัดอันดับให้อยู่ที่ 1 ในเรื่องของการค้าบริการ เพราะฉะนั้น ประเทศไทยควรที่จะเป็นผู้นำ ในเรื่องการดูแลจัดการอย่างจริงจัง โดยการกำหนดขอบเขต และกติกาให้ชัดเจน
ตอบแทนคุ้มค่า กับการบริการ เข้าขั้นเป็นอาชีพที่ดี
นางจันทวิภา กล่าวต่อว่า ผู้ประกอบอาชีพค้าบริการไม่ว่าหญิง หรือชายล้วนแต่เป็นกลุ่มคนที่ไม่มีทางเลือกมากนัก อีกทั้งยังตกเป็นเหยื่อ และเครื่องมือทางสังคมอยู่หลายครั้ง เช่น การถูกประณามว่าเป็นอาชีพที่ไม่ดี หรือ ถูกมองว่าทำให้หน้าตาและชื่อเสียงของประเทศตกต่ำ แต่ทั้งนี้ อาชีพค้าบริการ ก็สามารถสร้างรายได้จำนวนมากให้กับผู้ประกอบอาชีพโดยไม่เดือดร้อนผู้อื่น
เลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมโอกาสผู้หญิง (Empower) ได้ยกข้อความจาก องค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ไอแอลโอ (International Labor Organization; ILO) ที่ระบุไว้ว่า อาชีพที่ทำแล้วได้ค่าตอบแทนสมกับบทบาทที่ทำ ก็ถือว่าเป็นอาชีพที่ดี มาเป็นเหตุผลสนับสนุน เพื่อให้เห็นว่า อาชีพดังกล่าวก็มีข้อดีอยู่บ้าง เมื่อมองถึงเรื่องค่าตอบแทนที่เข้าขั้นเกินมาตรฐานแรงงานทั่วไป มากไปกว่านั้นหากการบริการคำนึงถึงความปลอดภัย มีการป้องกันการติดต่อของโรค ก็ถือว่าเป็นอาชีพที่ดีได้
ความเท่าเทียมที่ควรได้รับ เรื่องนี้รัฐบาลต้องใส่ใจ
นางจันทวิภา กล่าวต่ออีกว่า รัฐควรจะให้ความเท่าเทียมกับผู้ประกอบอาชีพค้าบริการ ถึงแม้สังคมอาจจะยอมรับได้บางส่วน แต่พวกเขายังคงถูกมองด้วยอคติอยู่แน่นอน ดังนั้น หากรัฐเข้ามาใส่ใจดูแล และพยายามส่งเสริมอาชีพพื้นฐานที่สามารถสร้างรายได้ให้เพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับพวกเขา หรือเข้ามากำหนดขอบเขตให้แน่ชัด คงเป็นเรื่องที่ดีต่อทั้งรัฐและอาชีพดังกล่าวได้พร้อมๆ กัน
ค้าบริการถูกกฎหมาย อาจส่งผลดีแบบไม่รู้ตัว
ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย คิดเห็นเช่นเดียวกันว่า ธุรกิจค้าบริการสามารถทำให้ถูกกฎหมายได้ แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลานาน เนื่องจากคนไทย ยังคงเคารพกฎกติกาอย่างเคร่งครัดไม่ได้เสียที อีกทั้งยังรู้หลบหลีกได้อย่างฉลาดหลักแหลม แต่หากทำได้ กฎหมายฉบับนี้อาจส่งผลดีในเรื่องดังต่อไปนี้
1. สามารถจำกัดขอบเขตของการค้าประเวณี ว่าทำได้มากเพียงใด เช่น เรื่องอายุของผู้ค้า ข้อจำกัดผู้ใช้บริการ และอื่นๆ
...
2. สามารถควบคุมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ โดยกฎหมายต้องเข้ามาระบุอย่างชัดเจนว่า การค้าบริการต้องมีการป้องกันโดยใช้ถุงยางอนามัย และมีการตรวจโรคอย่างเคร่งครัด มีหน่วยงานเข้ามากำกับดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ
3. สามารถควบคุมคนที่จะเข้ามาอยู่ในวงจรดังกล่าวได้ โดยมีการคัดกรองผู้ค้า และ ผู้ซื้อบริการ ว่าเป็นคนประเภทใด หากเข้าข่ายที่จะสร้างอันตราย หรือ เป็นคนไม่ดี ก็จะไม่สามารถรับบริการหรือประกอบอาชีพนี้ได้
4. รัฐสามารถเก็บภาษีรายได้จากธุรกิจดังกล่าว ซึ่งเป็นจำนวนที่สูง โดยคาดการณ์ได้ว่าปีหนึ่งอาจเก็บได้ถึง 5 หมื่นล้านบาทต่อปี เงินในส่วนนี้จะสามารถนำไปพัฒนาบ้านเมืองในด้านอื่น
5. การเปิดให้ถูกกฎหมาย อาจทำให้ผู้ค้าบริการไม่ว่าหญิงหรือชายน้อยลง ซึ่งเป็นผลดีที่คาดไม่ถึง เนื่องจาก เมื่อกฎหมายเข้าควบคุม ผู้ค้าบริการจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบ อาจมีการเก็บข้อมูล ขึ้นทะเบียน หรือปรากฏชื่อในประกันสังคม และตามต่อด้วยอาชีพและประสบการณ์ พ่วงท้าย ซึ่งปกติผู้ค้าบริการก็ไม่ชอบที่จะเปิดเผยอาชีพที่ตนทำ เหตุผลนี้จึงอาจทำผู้ค้าบริการลดน้อยลงเนื่องจากความอับอาย หรือรับไม่ได้
ไม่เห็นด้วย! การค้าบริการทำเสื่อม วัฒนธรรมไทยติดลบ
นางลลิตา ฤกษ์สำราญ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการ กิจการเยาวชนสตรี และผู้สูงอายุ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว ว่า ตนไม่สนับสนุนให้มีการค้าบริการอย่างถูกกฎหมาย เนื่องจาก วัฒนธรรมและสังคมไทย ยังไม่มีความพร้อมในการรองรับการค้าบริการเช่นนี้ เหมือนกับต่างประเทศ เพราะเด็กและเยาวชน รวมไปถึงผู้ใหญ่บางคนยังไม่มีวินัยในตัวเอง และยังไม่สามารถทำตามกฎระเบียบได้อย่างเคร่งครัด หากเปิดให้ถูกกฎหมาย เท่ากับเป็นการยอมรับว่าการค้าประเวณีเป็นอาชีพอย่างหนึ่ง ซึ่งความคิดเช่นนี้ถือเป็นเรื่องอันตราย เพราะจะส่งผลเสียต่อสังคมในเรื่องต่อไปนี้
...
1. ผู้หญิงรักสนุก จะเห็นว่าการทำอาชีพนี้หรือการเข้าสู่อาชีพค้าบริการเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มพูนผู้ค้าบริการทางอ้อม เนื่องจากเป็นอาชีพที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงมากแต่กลับได้ผลตอบแทนที่เกินคุ้มและมากกว่ารายได้ทั่วไป
2. การค้าบริการที่มีมากขึ้น ย่อมส่งผลให้มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากขึ้นด้วยเช่นกัน ถึงแม้รัฐจะมีข้ออ้างว่ามีการเข้าไปควบคุมอย่างจริงจัง แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นไปได้ค่อนข้างยากที่จะสามารถเข้าควบคุมได้ทุกคน
3. ท้องไม่พร้อม หากเกิดกรณีนี้ขึ้น กฎหมายทำแท้งจะถูกยกขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากสาวบริการอาจอ้างได้ว่าเป็นการท้องแบบไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจส่งผลให้กฎหมายทำแท้งดูอ่อนลง
4. ที่นี่ประเทศไทย ถึงแม้ไม่ได้มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ แต่ควรพึงระลึกไว้ว่าบ้านเมืองเราเป็นเมืองพุทธ มีวัฒนธรรมที่ดีงาม และมีเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่ทั่วโลกรู้ดี นั่นคือ เสน่ห์ของสาวไทยในเรื่องการยิ้ม การไหว้ ที่ดูอ่อนน้อม หากทำให้ถูกกฎหมาย ก็จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ที่ดีงาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ
5. ครอบครัวแตกแยก การค้าประเวณี หากเกิดขึ้น จะทำให้เกิดปัญหาครอบครัวตามมา เพราะถือเป็นการส่งเสริมให้ครอบครัวมีความแตกแยก เนื่องจากผิดลูกผิดเมียของผู้อื่น
โฆษณาตัวดี สื่อล่อแหลม ที่เด็กก็เข้าถึง
นอกจากข้อเสียที่พอจะเล็งเห็นได้หากการค้าบริการถูกรับรองให้เป็นอาชีพถูกกฎหมาย นางลลิตา อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการ กิจการเยาวชนสตรีฯ ยังคงเผยความกังวลของตนกับทีมข่าวว่า สังคมปัจจุบันอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทอย่างมาก และทุกช่วงวัยสามารถเข้าถึงได้ง่าย แต่ตามบรรดาหน้าเว็บไซต์บางแห่ง กลับมีภาพโป๊ เปลือย หรือข้อความที่ส่อไปในเรื่องของเซ็กซ์ ที่อาจทำให้เยาวชนเข้าใจผิดและหลงไปกับคำเชิญชวนเหล่านั้น รวมไปถึงบรรดาเว็บหาคู่ที่อาจทำขึ้นมาบังหน้าการค้าบริการ โดยไม่มีผู้ใดเข้าไปควบคุม ตรวจสอบ หรือขจัดปัญหาตรงนี้ เมื่อถูกปล่อยทิ้งไว้นานอาจจะเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้ การค้าบริการ ไม่มีวันลดน้อยลง
...
เริ่มแก้ที่เรื่องใกล้ตัว ครอบครัว โรงเรียน รัฐ ต้องช่วยกัน
เมื่อทีมข่าวถามถึงวิธีการที่จะกู้ภาพลักษณ์ประเทศไทยกลับคืนมา หรือ วิธีการที่ทำให้อาชีพดังกล่าวลดน้อยลงไป นางลลิตา ตอบกลับด้วยเสียงหนักแน่นว่า สังคมต้องเอาจริงจังในการแก้ปัญหา ปราบปราม หรือทำให้อาชีพดังกล่าวน้อยลง โดยอาศัยความร่วมมือ จากสถาบันครอบครัว โรงเรียน และรัฐอย่างจริงจัง เพราะในปัจจุบัน โลกได้เปลี่ยนไปเร็วมาก การรับรู้ข้อมูล และการชักจูงให้เข้าสู่วงการค้าบริการสามารถทำได้ง่ายมากขึ้น
"ครอบครัวต้องมีการพูดคุย และตักเตือนกับพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยง ครู หรือ โรงเรียน ต้องเข้มงวดกวดขันให้มากขึ้น พร้อมทั้งควรปรับปรุงหรือเพิ่มเติมหลักสูตรที่เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการค้าบริการ แก่เยาวชนไม่ว่าจะเป็นเพศใด ส่วนภาครัฐต้องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโดยเร็ว สร้างงาน สร้างรายได้ให้ครอบครัว เพราะถ้าพ่อแม่มีรายได้ เด็กบางคนก็ไม่ต้องออกมาประกอบอาชีพนี้ รวมไปถึง สั่งการตรวจจับอย่างเคร่งครัด เข้ามาใส่ใจทั้งปัญหาการค้าบริการ และปัญหาอื่นที่อาจนำมาซึ่งธุรกิจค้าบริการ เช่น เรื่องยาเสพติด พรากผู้เยาว์ หรือ การล่วงละเมิดทางเพศ" นางลลิตา กล่าว
ธุรกิจในวังวนสีเทา ย่อมหาทางสว่างเจอได้ยากนัก เช่นเดียวกับการเปิดโอกาสให้อาชีพค้าบริการถูกกฎหมาย ก็ยังคงไม่สามารถหาทางออกหรือคำตอบที่แน่ชัดได้เช่นกัน อาชีพค้าบริการจะเป็นเช่นไร ล้วนขึ้นอยู่กับความคิดและทัศนคติของแต่ละตัวบุคคล ท้ายที่สุด สยามเมืองเซ็กซ์ จะถูก ลบล้าง หรือถูกยอมรับ คงต้องติดตามกันต่อไป.