“นายกยี” วรวีร์ มะกูดี เข้าชี้แจง กมธ.กีฬา กรณีเงินค่าตอบแทนผู้ตัดสิน โดยยืนยันเงินที่ออกจากสมาคมฟุตบอลฯ นัดละ 7,800 บาท จ่ายตรงเวลาไม่เคยติดค้าง ส่วนเงินของ กกท. นัดละ 1,800 บาท ซึ่งได้รับมาล่าช้า ทยอยโอนไปเกือบหมดแล้ว ยกเว้นกลุ่มเชิ้ตดำที่โดนลงโทษไม่ถึง 10 คน เผยรายชื่อผู้ตัดสินที่เปา “ชัยยะ” รวบรวมมายื่น กมธ.กีฬามีหลายรายที่ปลอมแปลงลายเซ็นและได้มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้หมดแล้ว
เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่ห้องประชุม 304 อาคารรัฐสภา คณะอนุกรรมาธิการกีฬา ในคณะกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดย พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) การกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นประธานในการประชุมคณะ พิจารณากรณี นายชัยยะ มหาปราบ ผู้ตัดสินสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นตัวแทนผู้ตัดสินยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กมธ.การศึกษาและกีฬา สนช. หลังจากไม่ได้รับค่าตอบแทนในการตัดสินฟุตบอลลีกอาชีพไทยปี พ.ศ.2555 และ 2556 โดยอนุ กมธ.ได้เชิญนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เข้าชี้แจง
ภายหลังการประชุม พล.ต.จารึก เปิดเผยว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ยืนยันว่า ได้โอนเงินส่วนดังกล่าวให้สมาคมฟุตบอลฯ เพื่อจ่ายให้กับผู้ตัดสินแล้วนั้น ขณะที่สมาคมฟุตบอลฯ ชี้แจงว่า เงินค่าตัดสินในแต่ละนัดมี 2 ส่วน ส่วนแรกคือจากที่ กกท.จัดสรรให้ผู้ตัดสิน 1,800 บาท ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 และ 2 คนละ 1,200 บาท ผู้ตัดสินที่ 4 คนละ 800 บาท และส่วนที่ 2 สมาคมฟุตบอลฯ เพิ่มเติมให้ผู้ตัดสินคนละ 7,800 บาท ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 และ 2 คนละ 5,900 บาท ผู้ตัดสินที่ 4 คนละ 4,800บาท ซึ่งในส่วนที่เป็นปัญหาของ กกท. สมาคมฟุตบอลฯได้นำเอกสารมาแสดงว่า โอนให้ผู้ตัดสินกลุ่มที่ค้างค่าตัดสินเกือบครบทุกคนแล้ว ยกเว้นผู้ตัดสินที่อยู่ในช่วงถูกลงโทษ อย่างไรก็ตาม สมาคมฯเพิ่งจะมาดำเนินการจ่าย เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่กลุ่มผู้ตัดสินจะยื่นเรื่องกับ กมธ.ไม่กี่วัน ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า อนุ กมธ.กีฬา จะเชิญสมาคมฟุตบอลฯและ กกท. รวมถึงผู้ตัดสินมาให้ข้อมูลพร้อมกัน
...
ทางด้านนายวรวีร์กล่าวว่า เงินส่วนของ กกท.นั้น สมาคมฟุตบอลฯได้รับมาล่าช้า แต่ทยอยโอนไปเกือบหมดแล้ว ยกเว้นกลุ่มที่โดนลงโทษไม่ถึง 10 คน ขณะที่เงินในส่วนของสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งมีจำนวนสูงกว่ามากก็จ่ายตรงเวลา ส่วนการที่นายชัยยะรวบรวมรายชื่อผู้ตัดสินมายื่นกับ กมธ.ศึกษาและกีฬาฯ มีหลายรายชื่อที่ปลอมแปลงลายเซ็นมา ซึ่งได้มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว