ขณะที่เขียนต้นฉบับคอลัมน์ฉบับนี้ คณะบีโอไอไทยและพ่อของผมนั่งรถไฟความเร็วสูงจากกรุงทัชเคนท์มายังนครซามาร์-คานด์ นอนที่นครซามาร์คานด์ 1 คืน เช้าวันรุ่งขึ้นก็นั่งรถยนต์อีกหลายชั่วโมงไปที่เขตเศรษฐกิจพิเศษนาวาอี จากนั้น ก็นั่งรถต่อมายังเมืองบุคารา นอนที่บุคาราอีก 2 คืน และบินกลับกรุงทัชเคนท์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน
คณะของบีโอไอเดินทางกลับประเทศไทย ส่วนพ่อจับเครื่องบินจากกรุงทัชเคนท์ บินต่อไปยังเมืองโซชิ เมืองชายทะเลดำที่อยู่ติดกับสาธารณรัฐอับคาเซีย
ตอนนี้รัสเซียกำลังแย่เพราะถูกสหรัฐอเมริกาและยุโรปลงโทษทางเศรษฐกิจ เพราะเรื่องของไครเมียและอูเครน เรื่องไครเมียและทะเลดำนี่ทำให้รัสเซียเสียเกียรติภูมิมาหลายครั้งแล้ว และครั้งนี้ ผมก็ยังเสียวอยู่ ว่าประวัติศาสตร์จะย้อนกลับไปซ้ำของเดิมหรือเปล่า?
สมัยก่อนตอนโน้น รัสเซียล้าหลัง หลายประเทศเลิกทาสไปแล้ว แต่รัสเซียยังมีทาสติดที่ดิน สาเหตุที่ทำให้รัสเซียเลิกทาสติดที่ดินและมีการปฏิรูประบบการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ผมว่ามาจากผลของสงครามไครเมียที่เกิดขึ้นระหว่าง ค.ศ.1853-1856 นี่แหละครับ สงครามไครเมียเกิดจากฝรั่งเศสบีบตุรกีให้ลงนามในสนธิสัญญาเพื่อยินยอม ให้สิทธิแก่ฝรั่งเศสในการเข้าไปคุ้มครองคริสต์ศาสนิกชนนิกายโรมันคาทอลิกในดินแดนที่อยู่ภายใต้ ปกครองของตุรกี ทว่าสิทธิที่ฝรั่งเศสได้ไปใหม่นี่ ดันไปซ้ำซ้อนกับสนธิสัญญากูชุกไก นาร์จี ที่ให้สิทธิรัสเซียปกครองคริสต์ศาสนิกชนนิกายกรีกออร์ทอดอกซ์ในดินแดนของตุรกีตั้งแต่ ค.ศ.1774
รัสเซียจึงไม่ยอม และบีบตุรกีให้ไปเลิกสัญญากับฝรั่งเศสซะ แต่ตุรกีไม่ปฏิบัติตาม เพราะถือว่าตัวเองเป็นประเทศเอกราชจะไปทำสนธิสัญญากับประเทศไหนก็ได้ รัสเซียไม่มีสิทธิมาเจ้ากี้เจ้าการสั่งการ รัสเซียโมโหโกรธาก็เลยส่งทหารเข้าไปบุกดินแดนตุรกี
ตุรกีก็ร้องขอความช่วยเหลือจากอังกฤษและฝรั่งเศส ในขณะเดียวกันก็ส่งกองเรือไปตีเมืองชายฝั่งทะเลดำของรัสเซีย รัสเซียมองไอ้หนูน้อยตุรกีเอาเรือไม้แล่นเข้ามาในทะเลดำ ก็ใช้แขนข้างเดียวรบกับตุรกี โดยฆ่าทหารตุรกีอ่อนหัดที่ลอยมาทางทะเลดำภายในเวลา 4 ชั่วโมงซะ 4,000 คน
...
คนอังกฤษและฝรั่งเศสได้ข่าวก็จึงบีบรัฐบาลของตนเองให้ส่งเรือเข้าไปในทะเลดำของรัสเซียเพื่อช่วยตุรกี หลังจากนั้นก็มีการนำทหาร 50,000 คน ยกพลขึ้นบกที่คาบสมุทรไครเมียและก็เข้าไปยึดเมืองเซวัสโตปอล ซึ่งเป็นฐานทัพเรือใหญ่ของรัสเซียในทะเลดำ จากนั้นก็ส่งกองกำลังทหารเข้าไปเพิ่มเติมขึ้นเรื่อยๆ
ทหารอังกฤษ ฝรั่งเศส และตุรกี รบกับรัสเซียอยู่นาน 1 ปี ฝ่ายรัสเซียแพ้ยับเยิน ทหารรัสเซียตายไป 110,000 คน ทหารฝรั่งเศสตาย 95,000 คน ตุรกี 30,000 คน อังกฤษ 20,000 คน รวมแล้ว ทหารทั้งสองฝ่ายตายไปมากกว่า 500,000 คน
รัสเซียแพ้สงครามในบ้านตัวเองก็อายมาก หนีออกจากสังคมยุโรปไปเลย ไม่ไปเกี่ยวดองหนองยุ่งแล้วยุโรป และก็หันมาปรับปรุงประเทศของตนให้ทันสมัยเหมือนประเทศทางตะวันตก ก่อนหน้าสงคราม คนรัสเซียคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ แต่พอรบกับอังกฤษ ฝรั่งเศส และตุรกี แล้ว ก็จึงถึงรู้ว่าประเทศของตนนั้นยังล้าหลังมาก ผู้คนจึงเรียกร้องให้พระเจ้าซาร์ยกเลิกระบบเก่าๆ ทั้งหลายทั้งปวงที่ล้าหลัง เช่น ระบบทาสติดที่ดินและเรียกร้องให้ประชาชนมีสิทธิมีเสียงในการปกครอง
ผู้อ่านท่านจำชื่อ ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล นางฟ้าพยาบาลได้นะครับ นางพยาบาลชาวอังกฤษผู้นี้รวบรวมสตรีอาสาสมัครได้
50 คน เพื่อไปประจำฐานทัพอังกฤษที่ไปรบที่ไครเมีย พอไปถึงสถานพยาบาลในสนามรบ ก็เห็นว่าที่นั่นสกปรกมาก ไม่มีระเบียบ ไม่มีมาตรฐานทางการแพทย์
ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล จึงเรียกร้องให้มีการปรับปรุงด้านการแพทย์และการรักษาพยาบาลให้ดีขึ้น บั้นปลายท้ายที่สุด ก็กลายเป็นการก่อกำเนิดขององค์การกาชาดสากล
ตอนนี้ รัสเซียโงนเงนอยู่กับปัญหาอูเครน ปัญหาสารพันที่อยู่แถบทะเลดำ โดยเฉพาะเมืองโซชินี่ ลงทุนไปแล้วตั้งสองล้านล้านบาท เท่ากับงบประมาณของประเทศไทยที่ใช้กันทั้งประเทศ 1 ปี แต่ผลที่ได้มานั้นน้อยนิด เป็นหนึ่งในหลายสาเหตุที่ทำให้รัสเซีย
ติดหล่มเศรษฐกิจ
เอาละครับ หมดหน้ากระดาษพอดี ขออนุญาตกลับมารับใช้ท่านกันต่อในวันพรุ่งนี้ครับ.