แม้จะเป็นซุปเปอร์คอนเน็กชั่น เป็นสาวที่ทรงอิทธิพลในแวดวงสังคมเมืองไทย แต่เรื่องราวต่างๆ เสมือนไร้การถูกบันทึก มีแต่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า เป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ ทว่าขยำรวมกันได้ใจความว่า เธอน่าจะ 'หยิ่ง' และน่าจะเข้าถึงตัวได้ยากมากที่สุดคนหนึ่งในแวดวงสังคม
และเรื่องของเธอยิ่งฮือฮาเข้าไปใหญ่ เพราะหากคุณได้ติดตามข่าวบันเทิงที่ 'ดาราสาว' ชื่อดัง โพสต์ภาพและข้อความลง 'ไอจี' ต่อว่าใครสักคน ใครสักคนที่ว่า หลายคนสันนิษฐานว่าเป็นหญิงผู้ทรงอิทธิพลในวงการสังคมไฮโซผู้นี้ ทุกสำนักข่าวต่างตามสัมภาษณ์แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้
แล้วสาวมาดสง่าปริศนาก็ปรากฏกายจากเงา ไทยรัฐออนไลน์ได้รับเกียรติสัมภาษณ์เปิดใจ แม่อุ๊-มณฑ์ลัชชา สกุลไทย หรือที่ใครๆ เรียกติดปากว่า 'แม่อุ๊ สกุลไทย' ถามไถ่กันทุกเรื่องที่คนสงสัย ตั้งแต่ประวัติส่วนตัว หน้าที่การงาน และความเป็นตัวตน กระทั่งเรื่องดังกล่าวข้างต้น
บทสัมภาษณ์ที่ไม่อ่านไม่ได้ เพราะว่านี่คือครั้งแรกๆ ที่เปิดหมดใจ 'แม่อุ๊ สกุลไทย' หญิงบุคลิกสง่าวัยใกล้ 60 ปี ที่แทบทุกคนที่รู้จักการันตีว่าไม่ได้ร้ายหรือหยิ่งเหมือนบุคลิกที่คนตีตรา แต่ทว่ารู้จักแล้วจะรักล้านเปอร์เซ็นต์
...
ภายนอกเหวี่ยงดุ : ภายใน แม่อุ๊ สกุลไทย อยู่ใกล้แล้วจะ...?
ทันทีที่เปิดบ้าน (เปิดคอนโดเก๋ 'แม่อุ๊-พะเพื่อน สกุลไทย'-ชมคลิป) ออกมา หญิงสาวใบหน้าอ่อนกว่าวัย เดินออกมาทักทายอย่างเป็นกันเอง เปลี่ยนบรรยากาศเกร็งๆ ให้อบอุ่นขึ้นมาทันที
"ไม่ต้องเกร็ง หน้าแม่เป็นแบบนี้ (หัวเราะ) แม่ไม่ได้หยิ่ง เอาจริงๆ เป็นคนบ้าบอ ตลก ติ๊งต๊องด้วยซ้ำ แค่เป็นคนที่เร่ิมต้นคุยไม่เป็น"
แม่อุ๊หัวเราะสดใส และเร่ิมต้นย้อนประวัติที่ว่าด้วยหน้าตาหยิ่งแบบน่ารักๆ ให้ฟังว่า สมัยเรียนหนังสือแรกๆ เพื่อนทุกคนจะคิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้ดูหยิ่งมาก แต่พอรู้จักแล้วไม่ใช่เลย อย่างเข้ามหาวิทยาลัย อาจารย์จัดไปอยู่กลุ่มบ๊องสุด ไม่ค่อยรู้มุกคนอื่น อย่างคำผวนไม่เคยรู้เรื่องเลย ตามไม่ทัน บางทีเขาขำกันก็งง แต่ต้องเก็บไว้ก่อนเดี๋ยวคนหาว่าโง่
"แม่เริ่มเข้าวงการออกงานสังคม คนก็เข้าใจผิดอีกว่าเข้าไม่ถึงแม่อุ๊หรอก (เสียงสูง) ครั้งหนึ่งนักข่าวมาเล่าตอนหลังว่า เห็นเราก็อยากสัมภาษณ์ ก็เกี่ยงกันไปๆ มาๆ นานจนมาถึงตัว 'แม่บอกได้เลยค่ะลูก ทำยังไงบ้างคะลูก' เขาก็ตกใจกันใหญ่ (หัวเราะ) บอกว่าหนูไม่คิดว่าคุณแม่จะเป็นแบบนี้ ง่ายๆ ไม่หยิ่ง เราก็หัวเราะ อ้าวแล้วแม่ต้องทำยังไงล่ะลูก..."
บอกไปไหมว่าที่เห็นๆ กันมันธรรมชาติให้หน้าเหวี่ยงมา ตั้งแต่เกิด...? ไฮโซรุ่นใหญ่หัวเราะ ใช่ๆ แม่สอนลูกเสมอๆ ห้ามหยิ่ง ห้ามดูถูกคน นี่เป็นสิ่งที่เราเกลียดที่สุด เพราะเราไม่รู้ว่าวันหนึ่งเราจะเป็นยังไง ชีวิตคนเรา เกิดวันหนึ่งมีปัญหาหรืออะไรก็ตามให้คนเขารู้สึกว่าเป็นกระบอกเสียงให้เรา
"แม่ง่ายๆ ไม่เยอะ ไปกองถ่ายถ้าต้องนั่งพื้นก็นั่ง แม่เป็นคนลุย กิน นอนกับพื้นได้ เอาเสื่อปูๆ นอน ชิลมาก บางทีคนเขาเกรงใจ เอาเก้าอี้มาให้ แม่บอกไม่ต้องๆ เด็กนั่งตรงไหน แม่นั่งตรงนั้น อย่างเรื่องอาหารไม่ต้องพิเศษ ทานเหมือนทุกคนทานได้หมด อย่ามาอะไรพิเศษ"
...
ข้าวกล่อง กะเพราไก่ไข่ดาว ส้มตำกินได้-เราแย็บ? ชอบมาก เธอตอบเร็ว ส้มตำปลาร้านะชอบสุดๆ เป็นคนที่สามารถทานส้มตำได้ทุกมื้อ แต่ละเมนูจะง่ายมาก ความเป็นอยู่ง่ายๆ อยู่บ้านนี้ ไม่มีคนมาก็ใส่เสื้อผ้าชิลๆ เสื้อยืดกางเกงขาสั้น ผมไม่ทำ ปล่อยสบายๆ เลย
แม่อุ๊ สกุลไทย เป็นใคร นั่นซิเธอทำงานอะไร?
เห็นนามสกุลคุ้นๆ หลายคนเข้าใจว่าเป็นเจ้าของนิตยสารดัง...? แม่อุ๊ สกุลไทย ปฏิเสธเสียงดังว่าไม่ใช่ และย้ำว่า แม้ว่าทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ยังเชื่อแบบนั้นอยู่
...
"บอกชัดๆ ตรงนี้ว่าเราไม่ใช่เจ้าของหนังสือ 'สกุลไทย' แต่รู้จักเจ้าของเป็นเพื่อนกัน ยังเคยคุยกันว่าทำให้พี่เหนื่อยกับการตอบคำถาม เพราะทุกคนจะคิดแบบนี้ ซึ่งไม่ใช่ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเลย ส่วนคำว่า 'อุ๊ สกุลไทย' เร่ิมต้นจากที่ตั้งขึ้นมาเองเพื่อเล่น Instagram เพราะไม่รู้จะตั้งไอจีชื่ออะไร พะเพื่อนบอกใช้ชื่อ 'อุ๊ สกุลไทย' เหมือนกับชื่ออีเมล (มาจากชื่อเล่น 'อุ๊' และนามสกุล 'สกุลไทย') คนก็ติดชื่อนี้ไป เพราะเรียกง่ายดี ย้ำอีกทีไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีอะไรเกี่ยวข้องกับนิตยสารสกุลไทยเลย"
ปัจจุบัน แม่อุ๊ เป็นประธานกรรมการบริหารของ บริษัท วินนิ่งทรี เป็นธุรกิจทางด้านเคมี ซึ่งกำลังจะไปร่วมลงทุนกับทางมาเลเซีย ทำถุงมือที่ใช้ในห้องคลีนรูม ในอุตสาหกรรมผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และมีแผนที่จะขยายโรงงานมาทำที่ประเทศไทยปีหน้าในแบบร่วมทุน
นอกจากนี้ มีคนมาช่วยร่วมลงทุนเปิด 'ศูนย์ศัลยกรรมทางการแพทย์' ศูนย์ศัลยกรรมนี้ถือเป็นอันดับ 1 และดังที่สุดของประเทศเกาหลี มูลค่าโปรเจกต์นี้กว่า 200 ล้านบาท นอกจากร่วมลงทุนแล้ว เรายังเป็นประธานกรรมการบริหาร เพราะเห็นว่ามีคอนเน็กชั่นเยอะ โดยจะเปิดที่ CDC ซึ่งตอนนี้ออฟฟิศที่ให้คำปรึกษาการทำศัลยกรรมที่ 'เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่' สาวผู้ทรงอิทธิพลในวงการสังคมกล่าว
...
ความฝัน จุดพลิกผัน สู่สาวสังคม
"ความฝันแรกตอนเด็ก ไม่อยากเป็น ไม่ใช่แนวเลย จริงๆ อยากเป็นผู้ประกาศข่าวทีวี..." เธอหัวเราะและเล่าว่าเคยขอคุณพ่อคุณแม่เรียนนิเทศฯ แต่ท่านไม่ให้ เพราะรู้สึกว่าจบมาต้องเต้นกินรำกิน ซึ่งคุณพ่อเป็นนายแบงก์ใหญ่ อยากให้ไปเรียนบัญชี เรียนบริหาร ทะเลาะกันร้องไห้ ยังไงก็ไม่ยอม แต่สุดท้ายต้องเรียนบริหาร และจบจาก ม.กรุงเทพ คณะเลขานุการ ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่แตกสาขาออกมา
แม่อุ๊บอกจุดพลิกผันที่ทำให้เข้าวงการเซเลบฯ ว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว กลุ่มเพื่อนรักก็อยู่ในวงสังคมไฮโซหมด มักจะลากเราออกงานตั้งแต่สมัยสาวๆ ก็ออกเรื่อยมา มีงานอะไรผู้จัดการก็มาเชิญพวกเราตลอด แต่บางงานก็หลีกเลี่ยง ซึ่งการออกงานสังคม คนไม่รู้ว่าแต่ละงานมันไม่ใช่เรื่องสนุก เพราะมันเหนื่อยมาก
"ถ้าชอบเราออกงานทุกวันแล้ว การออกงานสังคมมันต้องเป็นคนที่ใจรักจริงๆ ไม่ได้รังเกียจนะลูก ไหนจะต้องแต่งหน้าทำผม เลือกชุดที่เป็นเรา ให้ดูพอดี มันเหนื่อยมากๆ เมื่อก่อนออกงานถี่กว่านี้นะ 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์ ไม่ได้ถี่ แต่สื่อก็ถ่ายรูปไปลงกันตลอด คนติดภาพว่าเราเป็นสาวสังคมมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ไม่ใช่ ส่วนใหญ่ไปด้วยความเกรงใจ ช่วงหนึ่งเราหายไปนะ ไม่ออกงานเกือบ 20 ปี กระทั่งมีน้องกลับมาอีกครั้งตอนน้อง 18 ปี ไปเพราะเกรงใจเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ซะมากกว่า" สาวสังคมรุ่นๆ บอก
งานสังคมกับราคาที่ต้องจ่าย มหาศาล!
สมัยก่อนกับสมัยนี้เวลาออกงานสังคมเขาทำอะไรกันบ้าง-เราสงสัย? ซุปเปอร์คอนเน็กชั่นเมืองไทยบอกว่าคนอื่นไม่รู้ แต่ของตนเองพอเขาเชิญเราปุ๊บ ก็ต้องรู้แล้วว่างานนั้นคืองานอะไร งานกลางวันหรืองานเย็น ก็ต้องคิดก่อนว่าถ้าเป็นงานกลางวัน หรืองานเย็น จะต้องแต่งตัวระดับไหน ถ้าเป็นงานเย็นแบบไม่ใช่ดินเนอร์ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ดังนั้น ต้องดูธีมงานก่อนด้วย
"จากนั้นต้องดูเสื้อผ้าให้เหมาะสม เว่อร์ไปไม่ได้ เราไม่ชอบเลยให้ใครมาพูดลับหลังว่าเว่อร์ กลัวมาก (หัวเราะ) เลยกลายเป็นโจทย์ที่เราต้องทำการบ้านพอสมควร เราเลยอยากให้มันพอดีๆ ซึ่งพอดีของเราอาจจะเยอะกว่าคนอื่นก็ไม่ทราบ ฉะนั้นก็ต้องปรึกษากันให้สวยไม่เว่อร์แต่เป็นตัวเรามากที่สุด"
สไตล์แม่ก็คือตัวแม่ สไตล์น้องก็คือตัวน้อง...ไฮโซรุ่นใหญ่บอกว่านี่ก็เพิ่งปฏิเสธไป 2 งาน เพราะรู้สึกว่าถ้าหากไม่สนิทมากก็จะขอพักนะลูกไม่งั้นมันแย่ เหนื่อยจริงๆ
ถามว่านอกจากได้เจอเพื่อน เวลาออกงานได้อะไรบ้าง...? พูดถึงตัวเงิน รุ่นแม่ไม่เคยได้ แต่ถ้ารุ่นลูกๆ มีบ้างแบบให้ค่าน้ำมัน แต่รุ่นแม่ไม่มี ปฏิเสธไม่ได้ว่าการออกงานต้องมีรายจ่าย เช่น ค่าทำผม ค่าแต่งหน้า ค่าแต่งตัว เสื้อผ้า เครื่องประดับ ที่สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์กันได้ แต่พยายามให้ไม่ซ้ำกันเพราะต้องให้เกียรติเจ้าของงานด้วย แต่งานที่เราออกคืองานที่เราเต็มใจไป แต่ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็จะหลีกเลี่ยงไป
"อย่างเสื้อผ้ารวมๆ ก็หลักหลายล้าน แต่หุ่นเราไม่ค่อยเปลี่ยน ตัดหรือซื้อแล้วก็เก็บไว้ได้ นานๆ จะหมุนดัดแปลงเก๋ๆ กลับมาใส่อีก เราชอบสีดำซึ่งมันดีอยู่อย่างหนึ่งคือว่าใส่เมื่อไหร่ก็ยังทันสมัยอยู่ แม่เป็นคนสลับสับเปลี่ยนของได้เก่งมาก เป็นคนมีอินเนอร์แฟชั่นสูง ชอบมาก หลายคนต้องมาขอคำปรึกษาจับมิกซ์สีรองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้าได้เก่งมาก แรงบันดาลใจส่วนใหญ่เปิดนิตยสารดูแล้วสั่งตัดบ้าง ซื้อบ้าง เรื่องนี้ลูกก็ได้เซ้นส์นี้จากคุณแม่ แต่จะเป็นแนวเด็กวัยรุ่น ที่หยิบจับอะไรใส่ก็จะเท่ๆ เป็นตัวเขา แต่รวมแล้วไม่เยอะ ไม่น้อย ไม่ดูเว่อร์ไป เพราะไม่อยากให้ใครนินทาลับหลัง" แม่อุ๊ของน้องพะเพื่อนกล่าว
59 ยังแจ๋ว ติดโลกโซเชียลมีเดีย
เป็นอีกหนึ่งคนที่แม้อายุจะใกล้เลข 6 แล้ว แต่ก็ยังเล่นโซเชียลอยู่สม่ำเสมอ พะเพื่อน บอก เธอสอนให้คุณแม่เล่น เนื่องจากตัวเองเล่นก่อน ตอนแรกคุณแม่ไม่ได้ใช้ไอโฟน ใช้ BB แล้วตอนนั้นคนก็เลิกเล่น BB แล้ว ก็เลยบอกคุณแม่ต้องมาใช้ไอโฟนแล้วนะ คุณแม่ก็โอเคเปลี่ยน ก็เริ่มเล่น WhatsApp เพราะ BB มันก็มี WhatsApp แล้วจากนั้นก็เห็นหนูเล่น Instagram อัพรูปเยอะแยะ คุณแม่มาแบบ อุ๊ยน่าเล่น เล่นบ้างดีกว่า ก็เลยให้เราสอน แล้วก็ติดในที่สุด
"ตอนแรกเริ่มเล่น Facebook ก่อน เพราะเขาจะติดต่อเพื่อนเก่าๆ เสร็จปุ๊บก็เล่น Instagram แล้วก็ติดใจ กลายเป็นคนบ้าถ่ายรูปไปเลย จากแต่ก่อนว่าหนูว่า ถ่ายรูปอีกละ เด็กๆ นี้เป็นอะไรทำไมบ้าถ่ายรูปอะไรกัน พอคุณแม่ก็เป็นเหมือนกัน ต้องถ่ายรูปกับหลานๆ และลูกๆ สวยๆ แบบมุ้งมิ้ง ไม่ค่อยมี แม่จะมีมุมเดียว มุมคลาสสิกของเขา (หัวเราะ)"
'ส่วนถ่ายมาภาพก็ไม่ค่อยแต่ง แค่ทำให้มันสว่าง แต่ไม่ได้แต่งให้มันดูสาวขึ้นอะไรแบบนั้น...' แม่อุ๊เสริม เอาตามความเป็นจริง ไม่ต้องแอ๊บสาว ที่สำคัญบอกพะเพื่อนเสมอว่า อย่ามาถ่ายรูปให้ทำท่าแอ็กชั่น มันเขิน โพสต์ไม่ได้ ไม่เป็น
ต้องท่ายืนตรงถือกระเป๋าด้านหน้า เป็นท่าเก่ง ? เธอหัวเราะ อย่ามาให้พอยท์ขาทำท่าโน้น-นี้แม่ทำไม่ได้ มันเกร็งไปหมด บางทีมีคนมาถ่ายรูปให้คุณแม่หันนิดนึงมันเกร็งไปหมด แต่ถ้าให้ยืนตามสบายก็ท่าเก่งเราแค่นั้นเสร็จเลย
ถามว่าติดโซเชียลไหม? แม่อุ๊บอกว่าติดเหมือนกัน ตื่นเช้ามาก็จะเปิดดูโดยเฉพาะไอจี ปกติจะเราจะอัพรูปมากสุดวันละ 2 รูป ส่วนใหญ่จะเป็นรูปกิจกรรมที่ไปมา ว่างๆ ก็ส่องไอจีลูกและเพื่อนๆ
"จริงๆ โซเชียลกับเกาหลี แม่ติดซีรีส์เกาหลีมากกว่า " พะเพื่อนแซว ซึ่งแม่อุ๊หัวเราะดัง ไม่ปฏิเสธแสดงว่าเป็นเรื่องจริง
น้ำตาจาก เรื่องเข้าใจผิด
สุดท้าย เป็นคำถามที่ไม่ถามไม่ได้ ชื่อ 'แม่อุ๊ สกุลไทย' โด่งดังเป็นวงกว้างไกลออกไปไกลกว่าแวดวงสังคม เนื่องจากมีคนโยงว่าเป็นข่าวกับดาราสาวชื่อดัง ส่งผลทำให้นักข่าวทุกสำนักตามหา 'แม่อุ๊ สกุลไทย' แบบพลิกแผ่นดิน แต่คุณก็ไม่เคยพูดที่ไหน คำถามก็คือเรื่องที่ว่าเกิดอะไรขึ้น? แม่อุ๊บอกว่า เกิดจากความเข้าใจผิด 100%
" ถ้าใครมารู้จักแม่จะรู้ว่าแม่นิสัยยังไง แล้วเรื่องมันก็ผ่านมานานละ เราก็ไม่ต้องพูดถึง แต่แม่คิดว่ามันเกิดจากความเข้าใจผิดอย่างมาก และเราก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรในเนื้อข่าวเลย ไม่ใช่เราเลย ไม่มีเลย ไม่ข้องเกี่ยวใดๆ เลย เราไม่เคยว่าใคร แค่นั้นจบ"
แม่อุ๊ย้ำว่า ตนเองไม่เคยว่าใคร ไม่ใช่นิสัยเรา อาจจะเกิดจากความเข้าใจผิด เพราะเรื่องราวมันน่าจะมาแบบปากต่อปาก ถึงวันนี้ก็ไม่เป็นไร มันทำให้เราแข็งแรงขึ้นมาก
"ช่วงเวลานั้นก็ร้องไห้อยู่ 2 วัน ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเรา แต่เรารู้สึกว่าเราไม่เคยมีใครว่าไงคะ ไม่เคยเจอแบบนี้อะ จนจะ 60 ละ พองั้นปุ๊บก็คิดว่าทำให้เรามีภูมิคุ้มกัน อะไรแบบนี้ ก็มีคนที่แบบรักๆ ก็มาให้กำลังใจ มันก็เลยแค่ว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไปแม่ก็จบ แม่ก็ไม่อะไรเลย แล้วมีคนมาสัมภาษณ์ แม่ก็บอกพอเถอะลูก แม่ไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว เอาแค่ว่าเข้าใจผิดก็แล้วกัน แค่นั้น" แม่อุ๊กล่าวในที่สุด
**ล้อมกรอบ**
1. แม่อุ๊ สกุลไทย ชื่อจริงว่า มณฑ์ลัชชา สกุลไทย มีความหมายว่า 'เครื่องประดับเทวดา'
2. รู้หรือไม่ว่าก่อนหน้าจะใช้ชื่อจริงว่า มณฑ์ลัชชา แม่อุ๊ ชื่อว่า 'สุกัญญา สกุลไทย' แต่ที่เปลี่ยนก็เพราะแม่อี๊ด ดวงใจ หทัยกาญจน์ ชวนไปวัด ซึ่งพระท่านเก่งดูชื่อมากๆ โดยท่านบอกว่าถ้าใช้ชื่อเก่า โยมจะเป็นหมันจะไม่มีลูก ควรจะไปเปลี่ยน ท่านก็ให้มาเลือกหลายชื่อ สรุปตกลงที่ชื่อ มณฑ์ลัชชา
3. ส่วนนามสกุล สกุลไทย เป็นนามสกุลแต่ดั้งเดิม โดยบรรพบุรุษเปิดบริษัทสกุลไทย เป็นผู้นำเข้าลูกบิดบ้านที่นำเข้าจากเมืองนอกเป็นเจ้าแรกของประเทศไทย ปัจจุบันขายกิจการไปแล้ว
ขอบคุณภาพส่วนหนึ่งจากไอจี อุ๊ สกุลไทย