อย่าคิดว่า ไม่กล้า

กับมุก “ปิ้งปลาประชดแมว” ของนายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตประธานวิปรัฐบาล ที่เสนอดังๆออกอากาศไปถึงฝ่ายคุมเกมอำนาจที่กำลังร่างกติการัฐธรรมนูญใหม่

ถ้ารังเกียจนักเมืองมากนัก หรือมีอคติมากนัก ก็ให้เว้นวรรคอดีต ส.ส. อดีตนักการเมืองทั้งหมดทุกคนไปหนึ่งสมัย ล้างน้ำกันแบบยกเค้า ให้คนหน้าใหม่มาเล่นบ้าง

หารู้ไม่ นี่แหละ “ธง” เป้าหมายเลย

ตามสูตรล้างพันธุ์เก่า เปิดทางสายเลือดใหม่ เปลี่ยนโฉมหน้าการเมืองใหม่ ฝ่ายคุมเกมอำนาจประเทศไทยตั้งใจให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว

ที่แน่ๆแนวโน้มคำตอบในโมเดลรัฐธรรมนูญร่างสุดท้ายน่าจะชัดเจนระดับหนึ่ง

ตามคิวที่นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยโปรแกรมล่วงหน้า คณะรัฐมนตรีและ คสช.จะมีนัดประชุมร่วมกันในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ เพื่อหารือเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ

จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.ได้ให้รัฐมนตรีแต่ละคนกลับไปทำความเห็นร่างรัฐธรรมนูญเพื่อส่งให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย

คำตอบสุดท้ายจากโพยของ ครม.และเคาะโต๊ะโดย คสช.

บังเอิญวันเดียวกัน ก็เป็นคิว “นัดแรก” ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาคดีที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลยในความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

โดยวันดังกล่าว ถือเป็นไฟต์บังคับที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ต้องเดินทางไปแสดงตนต่อหน้าศาลเพื่อสอบคำให้การว่าจะตอบรับหรือปฏิเสธ

ที่สำคัญจะมีเงื่อนไขประกันตัวสู้คดี และการเดินทางออกนอกประเทศ

ตามฉากที่สวนทางกันระหว่างกระแสกติกาใหม่เพื่อนำไปสู่การปฏิรูป กับเงื่อนปมความขัดแย้งเก่าที่ยังอยู่ในจุดเสี่ยงเป็นหัวเชื้อชนวนปะทุไฟขัดแย้งตลอดเวลา

...

ที่ต้องจับตา กระแสการปรับคณะรัฐมนตรีก็เร้าขึ้นมาตามเงื่อนสถานการณ์บังคับ

จริงอยู่ตามบุคลิกที่อ่านกัน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นทหารอาชีพ ไม่ทิ้งเพื่อน ไม่ขายพี่ขายน้อง

ลากยื้อการปรับ ครม.มาถึงวันนี้ เพราะติดคำว่า “เกรงใจ”

แต่ถึงจังหวะ “จนแต้ม” น่าจะต้องพิจารณาเงื่อนไขสถานการณ์ที่โยงกับชะตาชีวิตของคนส่วนใหญ่ในประเทศ มาก่อนความสัมพันธ์ส่วนตัว

โดยเฉพาะปมเศรษฐกิจที่ลามถึงปากท้องชาวบ้านรากหญ้า

ล่าสุดข่าวร้ายจากข้อมูลร้อนวงในกระทรวงการคลัง ผวาภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก จากภาคการส่งออกที่ฟื้นตัวได้ต่ำกว่าคาดการณ์ ทำให้คาดว่าในครึ่งปีแรกส่งออกไทยจะขยายตัวติดลบ และทั้งปีก็มีโอกาสและความเป็นไปได้สูงที่ตัวเลขส่งออกจะขยายตัวแบบติดลบเช่นเดียวกัน

เพราะคู่ค้าสำคัญอย่างจีนแผ่นดินใหญ่ก็เจอภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหนัก

รวมถึงการติดปัญหา “ใบเหลือง” ของสหภาพยุโรป (อียู) จากเรื่องการทำประมงแบบผิดกฎหมาย ไหนจะปัญหาองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่หนีไม่พ้นส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย

ยิ่งกดทับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ให้ยิ่งหืดจับ

ถ้าไม่ขยับ ปรับยกเครื่อง “ครม.เศรษฐกิจ” มีหวัง “เรือแป๊ะจอด” ลอยลำรอล่ม

ตามสภาพที่ทีมของ “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ อยู่ในอาการ “หมดมุก” ปล้ำผีลุกปลุกผีนั่งมาเกือบปี ลากต่อไปไม่ไหว

ครั้นมองซ้ายมองขวา จะหาคนนอกมาเสี่ยงกับโจทย์เศรษฐกิจโคตรหินก็ยาก

โดยสถานการณ์บังคับแบบนี้ก็เหลือแค่คนใน ที่ตรงสเปกกระแสภายนอก เข้าเงื่อนไขทีมท็อปบูต น่าจะอยู่ที่ชื่อของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คสช.ในฐานะประธานกุนซือด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี ที่แม้จะติดปมรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวมาตรา 8 วงเล็บ 4 ห้ามคนติดชนักโดนตัดสิทธิทางการเมืองเป็นรัฐมนตรี

แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ ก็ต้องไม่ลืม นาทีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ “มีของ” อยู่ในมือ

มาตรา 44 “ดาบสารพัดนึก” ผ่าทางตันได้.

ทีมข่าวการเมือง