มวยคู่ประวัติศาสตร์ที่แพงที่สุด ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ กับ แมนนี ปาเกียว ผ่านไปแล้ว ไม่ต้องดูผลแพ้ชนะ แต่แค่ได้สัมผัสบรรยากาศและข่าวคราวที่ออกมาเป็นระยะๆ ที่ดูจะเน้นหนักไปที่ก้อนเงินอันเป็นจำนวนมหาศาลในมุมต่างๆ เป็นที่น่าอิจฉาตาร้อน

ขณะที่มวยไทยเราก็ฝันที่จะบรรจุเข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ฝันมาหลายครั้งและฝันมานานแล้ว ใครมีอำนาจ มีบทบาทหน้าที่ ก็พร้อมจะกระโจนร่วมทางไปทั้งนั้น เพราะเป็นเรื่องดี แถมสร้างภาพได้สบายๆ

สนามมวย ค่ายมวย ก็เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งมาดู มาซ้อม มาฝึกฝน เป็นศาสตร์แห่งศิลปะการต่อสู้ของโลก!

ไม่เท่านั้นเราภาคภูมิใจเหลือเกินว่าเรามีความ “ทันสมัย” กับเรื่องของหมัดมวย สมกับที่เรียกขานตัวเองว่า “เมืองไทย เมืองมวย” ด้วยเรามีทั้งกองทุนกีฬามวย มีคณะกรรมการกีฬามวย และมีกฎหมายมวย ที่ดูเป็นการยกระดับและสนับสนุนความเชื่อนั้น

แต่ทำไมทั้ง มวยโลก และมวยไทย ในบ้านเรา ซึ่งเป็นกีฬาที่เราคนไทยเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่า นักมวยไทยไม่เป็นรองใครในโลกใบนี้ เราเคยมีความทรงจำที่ดีมากมาย กลับมีบรรยากาศและข้อเท็จจริงอันแตกต่าง!!!

มวยไทยยุคนี้เป็นขาลง ไม่ว่าจะเป็นมุมของคนดู มุมของรายได้ หรือความสนุกสนาน เร้าใจ ทั้งๆที่มีการถ่ายทอดสดออกจอกันมากมาย

คนมวยโอดครวญ และดิ้นหนีตายกันเป็นแถว

มวยโลก เรามีแชมป์โลกจริงๆอยู่กี่คน เช่นกัน ทั้งๆที่มีการถ่ายทอดสดกันเป็นประจำ แต่ก็เกือบทั้งหมดเป็นสถาบันรองๆ ที่ไม่มีความสำคัญอะไรนัก ในวงการมวยโลก แถมเปิดดูฟรี เหมือนว่าไม่มีราคาพอที่จะจำหน่ายบัตรเสียงั้น

กลายเป็นจัดอีเวนต์เพื่อให้ได้ถ่ายทอดสด ขายโฆษณา หาประธานรับหน้าเสื่อ มีรายได้ไม่ต้องมากนัก เพียงจัดให้บ่อยหน่อย สะสม หมุนกันไปเรื่อยๆ ก็พออยู่ได้

...

ซึ่งในการดิ้นรนเพื่ออยู่รอดเหล่านี้ อาจเป็นการทำลายตัวตนของ “มวย” ในทางอ้อมอย่างไม่รู้ตัว

ยุคนี้เป็นยุคของการปฏิรูป ลองมาสังคายนากันจริงๆจังๆดีไหม ก่อนที่จะไปข้างหน้า ต้องสร้างฐานที่แข็งแกร่งให้เกิดขึ้นกับ “มวย” ในบ้านเรากันก่อน

อยากมีผลงาน อยากทำคุณประโยชน์ให้กับกีฬาไทย ลองปฏิรูป “มวย” ของเรากันหน่อยไหม

หาเหตุแห่งปัญหา หาทางปรับปรุง แก้ไข และช่วยสนับสนุนกัน ด้วยพื้นฐานของคนไทย มวยไทย มวยโลก เรามีต้นทุนที่ดีอยู่แล้ว

มวยกับคนไทยเป็นมากกว่ากีฬา มีมิติต่างๆ ที่แฝงอยู่มากมาย มีอำนาจ มีหน้าที่ อย่าปล่อยผ่านไปเลย...

“เบี้ยหงาย”