คอลัมน์ตะลุยฟุตบอลโลกวันนี้ ขออนุญาตคุณผู้อ่านแวะไปเรื่องหมัดมวยคู่หยุดโลก มีวงเงินสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ระหว่างฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ กับ แมนนี ปาเกียว

ผมเขียนต้นฉบับเมื่อวันเสาร์จึงยังไม่ทราบผลการชกคู่นี้ แต่มีเรื่องราวที่น่าสนใจของบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นนักมวยคนสุดท้ายที่เอาชนะเมย์เวทเธอร์ได้ในการชกมวยสากลสมัครเล่น หลังจากนั้นฟลอยด์ขึ้นชกอาชีพแล้วไม่เคยแพ้ใคร 47 ไฟต์ก่อนที่จะดวลหมัดกับปาเกียวไฟต์ล่าสุด

นสพ.นิวยอร์ก ไทม์ส ในสหรัฐฯไปควานหาตัวเซราฟิม โทโรดอฟ อดีตนักชกสมัครเล่นทีมชาติบัลแกเรีย ที่ชนะเมย์เวทเธอร์ในรอบตัดเชือกรุ่นเฟเธอร์เวท มวยโอลิมปิก 1996 ที่แอตแลนตา ก่อนที่โทโรดอฟจะแพ้สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกของไทยในรอบชิง ถึงตอนนี้แฟนมวยบางท่านคงร้องอ๋อกันบ้างแล้ว

โทโรดอฟในวัย 45 ปี อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เล็กๆที่เมืองปาซาร์ดซิก ในบัลแกเรียกับภรรยา, ลูกชายและลูกสะใภ้

ตอนที่ชกกับเมย์เวทเธอร์ เขาอายุ 27 ปี เมย์เวทเธอร์ 19 ปี โทโรดอฟมีดีกรีเป็นแชมป์มวยสากลสมัครเล่นโลก 3 สมัย และแชมป์ยุโรป 2 สมัย ผ่านศึกเหนือเสือใต้มาอย่างโชกโชน เป็นยอดฝีมือเพลย์บอยที่มั่นใจในตัวเอง ชกแต่ละทัวร์นาเมนต์ซ้อมน้อย ชอบหนีเที่ยว จนเทรนเนอร์ต้องไปนอนเฝ้าในห้องเดียวกัน

ครั้งนั้นเขาชนะเมย์เวทเธอร์อย่างฉิวเฉียด 10-9 หมัด แต่ทีมงานและกองเชียร์อเมริกันรู้สึก

ข้องใจว่า มีความไม่ชอบมาพากลในการตัดสินยุคที่ใช้กรรมการกดปุ่มให้คะแนน ถ้ากรรมการ 3 ใน 5 กดให้คะแนนในช่วงเวลาห่างกันไม่เกิน 1 วินาที แต้มจะขึ้น

ที่สำคัญบัลแกเรียมีเอมิล เยตเชฟ ผู้มีอิทธิพลในวงการมวยสากลสมัครเล่น ดำรงตำแหน่งประธานผู้ตัดสิน แฟนมวยอเมริกันจึงเชื่อว่า น่าจะมีส่วนสำคัญทำให้โทโรดอฟชนะเมย์เวทเธอร์ ก่อนหน้านั้นในโอลิมปิก 1988 ที่โซล เยตเชฟก็ถูกตั้งข้อสงสัยมาแล้ว

...

โทโรดอฟเล่าความหลังว่า ในช่วงตรวจโด๊ปก่อนชกกับเมย์เวทเธอร์ มีกลุ่มโปรโมเตอร์มวยสากลเข้ามาให้ห้องพักนักมวย ทาบทามไปชกอาชีพ เพราะเห็นว่าเขาฝีมือดี หานักชกผิวขาวเก่งๆแบบนี้ได้ยาก มีการยื่นข้อเสนอให้ทั้งรายได้ บ้านและรถยนต์ แต่เขาตอบปฏิเสธไปทันที เพราะเชื่อว่า ถ้าได้เหรียญทองจะมีรายได้จากสมาคมมวยบัลแกเรียมากกว่า

เมื่อโทโรดอฟเซย์โน กลุ่มโปรโมเตอร์หันไปคุยกับเมย์เวทเธอร์ที่นั่งอยู่ใกล้ๆกันทันที โทโรดอฟเชื่อว่า วินาทีนั้นเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตระหว่างเขากับเมย์เวทเธอร์

ก่อนชกกับสมรักษ์ในรอบชิงเหรียญทอง โทโรดอฟเล่าว่า เยตเชฟมาพบเขาและย้ำว่า ต้องชนะน็อกสมรักษ์เท่านั้น เมื่อได้ฟังเช่นนี้โทโรดอฟรู้ได้ทันทีว่า เขากำลังจะแพ้ เพราะเยตเชฟไม่เคยเข้ามาพูดอะไรแบบนี้กับเขามาก่อน และเขาเป็นมวยเทคนิค ไม่ใช่ไฟเตอร์ไล่ทุบคู่ต่อสู้ การชนะน็อกจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

รอบชิงโทโรดอฟแพ้สมรักษ์ 5-8 เขาผิดหวังมากเพราะเคยชนะสมรักษ์มาแล้วในปรีโอลิมปิก และข้องใจเช่นเดียวกับทีมงานเมย์เวทเธอร์ที่รู้สึกแบบนี้ในรอบตัดเชือก

หลังจากโอลิมปิก 1996 สมาคมมวยตุรกีติดต่อเขาให้ไปชกในนามทีมชาติตุรกีพร้อมข้อเสนอเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ต้องผ่านการรับรองจากสมาคมมวยบัลแกเรียในการโอนสัญชาติ โทโรดอฟแฉว่า ข้อตกลงนี้ยกเลิกไปในวินาทีสุดท้ายเมื่อเยตเชฟเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยการเรียกเงินกินเปล่าจากสมาคมมวยตุรกี 300,000 ดอลลาร์

สุดท้ายเขาไม่ได้ชกให้ทั้งตุรกีและบัลแกเรีย เส้นทางชีวิตไม่รุ่งโรจน์อย่างที่หวัง หันไปประกอบอาชีพหลากหลาย ทั้งเป็นคนขับรถ, เป็นคนขายของชำ และทำงานในโรงงานไส้กรอก ไม่มีงานที่มั่นคงถาวรเช่นเดียวกับภรรยาของเขา

ในขณะที่เมย์เวทเธอร์ขึ้นชกกับปาเกียวรับ ทรัพย์ร่วม 180 ล้านดอลลาร์ (5,000 ล้านบาทเศษ) โทโรดอฟ และภรรยาตกงาน ใช้เงินบำนาญที่ได้รับเดือนละ 400 ยูโรในบ้านเกิด (14,400 บาท)

ถ้าเขาตัดสินใจชกอาชีพในสหรัฐฯป่านนี้อาจมีดีกรีแชมป์โลก เส้นทางชีวิตอาจพลิกผันชนิดหน้ามือเป็นหลังมือก็เป็นได้.

โต้ บ้านแหลม