โหรฤทัยทิพย์กับอาจารย์พันธ์ศักดิ์.

จุดผ่านแดนถาวรภูดู่...หรือ “ด่านภูดู่–ผาแก้ว” ตั้งอยู่ บ้านภูดู่ หมู่ 2 ตำบลม่วงเจ็ดต้น อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นสาขาของ ด่านศุลกากรทุ่งช้าง ...ได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ 19 พฤษภาคม 2556....

...จุดผ่านแดนฯนี้เป็น ประตูอินโดจีนเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยกับนครหลวงเวียงจันทน์และเมืองหลวงพระบาง โดยตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับบ้านผาแก้ว เมืองปากลาย ประเทศลาว และคาดว่าในอนาคตอาจยกระดับขึ้นเชื่อมต่อกับ เขตเศรษฐกิจพิเศษไชยบุรี ของลาว...

O O O

แม้ อายุของจุดผ่านแดนถาวรภูดู่จะมีอายุครบ 2 ปี ในอีกราวๆ 2 สัปดาห์ แต่เส้นทางคมนาคมนี้มิใช่เพิ่งจะเริ่มใช้กัน มันมีอายุมานานกว่า 8 ศตวรรษ โดยมีหลักฐานใน ศิลาจารึกหลักที่ 1 สมัยกรุงสุโขทัย บันทึกเป็นตัวยืนยันการันตี...ว่า

“...การเดินทางขนส่งสินค้าไปล้านช้างต้องใช้เมืองสวางคบุรีเป็นทางผ่าน ตรงจุดช่องม่วงเจ็ดต้น...ฯลฯ..” จึงเป็นการยืนยันการันตีว่าจาก สุโขทัยไปลาวต้องใช้เส้นทางนี้...

...

O O O

และ...เมื่อ หมุนกาลเวลาให้เร็วขึ้นสู่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เส้นทางนี้ก็ยังมีการบันทึกความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ ครั้งสมัย พระพุทธ-เจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 พื้นที่ของลาวบางส่วนยังขึ้นตรงกับสยาม

ช่วงนั้นฮ่อเกิดฮึกเหิม...พระองค์ทรงโปรดให้นำทัพไปปราบฮ่อที่เมืองหลวงพระบาง ได้กวาดต้อนผู้คนกลับแผ่นดิน ในจำนวนนี้มี เจ้าเมืองภูคำภูเงินกลับมาด้วย

พอผ่านช่องม่วงเจ็ดต้นเข้ามาราวๆ 20 กิโลเมตรเจ้าเมืองภูคำภูเงินเห็นว่าเป็นชัยภูมิที่เหมาะสมจึงหยุดพักแล้วสร้างค่ายคูประตูหอรบ ปักหลักตั้งเป็นชุมชนตั้งป้อมเพื่อสู้รบกับข้าศึกพิกัด ตรงนี้คือ...อำเภอบ้านโคกในปัจจุบัน...

O O O

เมื่อ...เจ้าเมืองภูคำภูเงินเสียชีวิตลง ชาวบ้านเห็นว่าเป็นบุคคลสำคัญต่อบ้านเมือง จึงได้สร้างศาลให้ดวงวิญญาณเจ้าเมืองฯ สถิต โดยให้ชื่อว่า...ศาลเจ้าปู่ตาหมวกคำ!!

ปู่ตาหมวกคำ... เป็นที่สักการบูชาของชาวบ้านโคกมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในพลังความศักดิ์สิทธิ์ มีความเข้มขลังไม่ว่าจะ บนบานศาลกล่าวใดๆ ก็จะได้ตามประสงค์

...ทุกวันนี้ก็ยังมีผู้คนทั้งไกลใกล้ไป กราบไหว้และแก้บนกันอย่างไม่ขาดสาย...

O O O

ในอดีต...อาณาเขตบ้านโคกเป็นป่าทึบที่น่าสะพรึงกลัวและถือว่าเป็นดินแดนอาถรรพณ์ หากมีการเจ็บป่วยไข้นอกจากการใช้คาถาอาคมแล้ว ยังใช้ ราก เปลือก แก่น ผลใบ ของต้นไม้มาทำการรักษาตามวิถีของสมุนไพร

หรือ.....แม้แต่ในเรื่องของไสย อยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม ฯลฯ ก็นำชิ้นส่วนต่างๆอันเป็นองค์

ประกอบของป่าดงเป็นหลักและหนึ่งในนั้นก็มี “เครือเถาหลง” หรือ “เครือเขาหลง” ซึ่งเชื่อกันว่ามีพลังอันเร้นลับส่งผลในด้านเสน่ห์มหานิยม

โดยมีการแยกเป็นต้นตัวผู้ตัวเมีย ตัวผู้เรียก “เถาหลงทอง” ตัวเมียเรียก “เถาหลงเงิน” และก็มิใช่จะนำมาใช้ใน อิทธิทางชู้สาว เท่านั้น ยังนำมาเรียกความนิยมในด้าน การค้าการขาย

ถึงขั้นเชื่อว่า...สามารถแก้เวรลดกรรม แก้อาถรรพณ์ต่างๆนานาได้อย่างชะงัด...!!

O O O

ต่อมาเมื่อ ฝรั่งเศสเข้ายึดครองประเทศลาวจึงขีดเส้นเอาบ้านโคกเป็นเขตชายแดน เครือเถาหลงจึงเหลืออยู่ประปรายตามเขตแนวชายแดน 2 ประเทศ ไทย–ลาว เลยกลายเป็นของหายากไปโดยปริยาย (...ปัจจุบันบนภูเขาควายประเทศลาว ก็ยังมีเถาวัลย์ชนิดนี้หลงเหลืออยู่บ้างเช่นกัน....)

...

จาก ปากต่อปาก ที่เล่าขานมาอย่างยาวนาน โหรฤทัยทิพย์ เย็นสกุลสุข กับ อาจารย์พันธ์ศักดิ์ เย็นสกุลสุข 2 พี่น้อง มีความสนใจและ เชื่อในอิทธิฤทธิ์พลังของเครือเถาหลง จึงได้ลงพื้นที่เสาะแสวงหาเถาไม้ศักดิ์สิทธิ์ชนิดนี้ในเขตอำเภอบ้านโคก

(...โหรฤทัยทิพย์ เข้าสู่วงการหัตถศาสตร์พยากรณ์ตั้งแต่อายุ 18 ปี ขณะเรียนอยู่คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปีสุดท้าย โดยสอบได้เป็นที่ 2 ของสมาคมโหรแห่งประเทศไทย จึงได้เบนเข็มอาชีพ...

...ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาพยากรณ์ชีวิตให้กับนักการเมืองและนักธุรกิจหลายท่าน โดยตั้งสำนักอยู่ที่ 708/6 จรัญสนิทวงศ์ ซอย 3 บางกอกใหญ่ กทม. ...)

O O O

ใช้เวลาพอสมควร....โดยหาข้อมูลจากคนที่เก็บมาขายกระทั่งรู้จักแหล่ง รู้จักต้น

...

...ปัจจัยสำคัญต้องรู้ว่าเถาวัลย์ของเครือเถาหลงพันขึ้นกับต้นไม้อะไร ไม้ต้นนั้นมีสรรพคุณในทางใดและนามเป็นมงคลหรือไม่ หากถูกต้องตามข้อกำหนดที่ยึดถือกัน.....จึงจะนำมาใช้ประโยชน์

...การ ขุดถอนจากป่าต้องจุดธูปขอขมา ก่อน เนื่องจากเป็น ต้นไม้ที่มีอิทธิฤทธิ์พลังสูง...!!

และ...เพื่อเสริมพลังความเข้มขลังจึงได้นำเข้าสู่พิธีกรรมทางสงฆ์ ซึ่งนิมนต์ “พระครูบาถ่อน” จากปากลายให้เป็นเจ้าพิธี โดย กำหนดเอาวันโกนก่อนวันพระใหญ่ของข้างแรมเป็นฤกษ์ ด้วยเป็น อิทธิฤทธิ์ในทางไสยต้องอาศัยความมืด...ที่มืดสนิทในช่วงเดือนแรม

O O O

พิธีกรรมได้ ขดเถาวัลย์แต่ละท่อนให้ได้ 8 ชั้น ด้วยเลขตัวนี้มีพลัง ในด้านความร่ำรวย (คติความเชื่อของจีนว่า 8 หมายถึงความร่ำรวย แต่ทำไมพระสงฆ์ลาวจึงได้นำมาเป็นเคล็ดก็ไม่รู้) ขึ้นวางไว้บนแท่นบูชาถาวรภูดู่

โดยดำเนินการ บวงสรวงอัญเชิญเทวดาเจ้าป่าเจ้าเขาลงมาสถิตกับมวลไม้เพื่อความเป็น สิริมงคลมีอิทธิพลัง แล้วจึงนำมาตัดซอยเป็นท่อนให้เหมาะสมในการพกพา.......

บนเส้นทางของความเชื่อ...... “เหนือฟ้า ใต้บาดาล” นำมาบอกกล่าวเป็นความรู้ มิใช่ให้งมงาย แต่หาก ไม่ศรัทธาก็อย่าลบหลู่...!!

ก้อง กังฟู