การผ่าตัดเฉือนคอ เพื่อนำไปใส่ในร่างใหม่ หากสัก 10 หรือ 20 ปีที่แล้ว มีใครพูดเรื่องนี้ขึ้นมา มีหวังถูกนำตัวไปเช็กสมองแน่ว่า ยังสติดีอยู่หรือไม่แน่ แต่...ปัจจุบันโลกต้องตกตะลึง เมื่อมีนายแพทย์ชาวอิตาลี ประกาศก้องโลกว่า เค้าสามารถทำเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้นี้ ให้เป็นไปได้ มันจะเป็นไปได้จริงหรือ เทคนิคทางการแพทย์อันสลับซับซ้อนนี้ จะทำให้การตายหมดสิ้นไปจากโลก และทำให้การชุบชีวิตใหม่ เกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ หรือวิถีทางการแพทย์นี้ หากประสบความสำเร็จจริง จะทำให้เกิดการ Mutation หรือการกลายพันธุ์ ในหมู่มวลมนุษยชาติ เหมือนในภาพยนตร์ X-MEN หรือไม่ ทุกคำตอบนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปฟังจากปากกูรู และผู้คร่ำหวอดด้านวิทยาศาสตร์เมืองไทย รองศาสตราจารย์ ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล
ผ่าตัด ตัดหัวเสียบร่างใหม่ เกิดขึ้นจาก...
เป็นความคิดของนักวิทยาศาสตร์อิตาลี ชื่อ เซอร์จิโอ คานาเวอร์โร (Sergio canavero) ซึ่งได้ประกาศตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว (ค.ศ.2013) ว่า ได้พัฒนาวิธีการทางการแพทย์ จนมีความแน่ใจและมีความพร้อม ว่าจะสามารถผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนหัวมนุษย์ได้ภายใน ค.ศ.2017 ซึ่งการเปลี่ยนหัวที่ว่านี้ เป็นการเปลี่ยนหัวจริงๆ คือ ตัดตั้งแต่ศีรษะถึงคอของมนุษย์ เพื่อไปใส่ไว้ในร่างมนุษย์อีกร่างหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นร่างของคนที่ตาย ซึ่งอาจจะเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ หรือจบชีวิตด้วยโรคต่างๆ ที่ทำให้สมองตาย แต่ร่างกายยังดีอยู่ โดยอ้างว่าวิธีการดังกล่าว ทำไปเพื่อช่วยมนุษย์ที่ประสบปัญหาอาการป่วยทางร่างกาย หรือมีความพิการ แต่สมองยังทำงานได้ดี เพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข
...
ซึ่งหลังจากได้ประกาศออกไป พร้อมกับให้ผู้ที่สนใจ เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครสำหรับการทดลองผ่าตัดครั้งประวัติศาสตร์สำหรับวิทยาการทางการแพทย์ดังกล่าว ก็ปรากฏว่าได้มีผู้ให้ความสนใจเสนอตัวเป็นอาสาสมัครร่วม 1 พันคน และเมื่อกลางเดือนเมษายน ค.ศ.2015 แพทย์อิตาลี ก็ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ อาสาสมัครคนแรกที่ได้รับการคัดเลือก (และก็เป็นข่าวดังไปทั่วโลก) เป็นชายชาวรัสเซีย ชื่อ วาเลอรี สปิริโดนอฟ (Valery spiridonov) อายุ 30 ปี เป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ที่ป่วยเป็นอัมพาต ร่างกายไม่สามารถใช้งานได้ แต่สมองยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเจ้าตัวยอมรับว่า แม้จะรู้สึกหวาดกลัวกับการผ่าตัดดังกล่าว แต่เค้าเองก็ไม่มีทางเลือก หากไม่ทำอะไรเลย ก็คงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกไม่นาน และที่สำคัญก็คือ หากแม้ล้มเหลว วงการวิทยาศาสตร์ก็จะมีองค์ความรู้เพิ่มเติมสำหรับนำไปใช้ในการพัฒนาเรื่องนี้ให้สำเร็จต่อไปได้ในอนาคต
ซึ่งหลังจากได้อาสาสมัคร นักวิทยาศาสตร์อิตาลีรายนี้ เปิดเผยว่า การดำเนินการผ่าตัดเปลี่ยนหัวคนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาถึง 2 ปี กว่าที่ขั้นตอนที่จะทำให้โลกทั้งโลกต้องสั่นสะเทือนในครั้งนี้จะเกิดผลลัพธ์ โดยเจ้าตัวมั่นอกมั่นใจว่า จะต้องสำเร็จลงอย่างแน่นอน
ผ่าตัดเปลี่ยนหัวคน เป็นไปได้จริงไหม! นิยายวิทยาศาสตร์หรือแค่การคุยโว
...
อ.ชัยวัฒน์ แสดงทัศนะว่า หากเป็นเฉพาะแค่การเปลี่ยนหัวคน จากร่างหนึ่งไปใส่อีกร่างหนึ่ง ทางวิทยาศาสตร์คิดว่า น่าจะเป็นไปได้ เพราะหลายปีที่ผ่านมา ได้มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์อย่างจริงจัง โดยการผ่าตัดเปลี่ยนหัวสัตว์อย่างน้อย 3 ชนิด ประกอบด้วย ลิง สุนัข และหนู มาแล้ว โดยเฉพาะในรายของลิงนั้น พบว่า สามารถทำให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้นานถึง 9 วัน แต่…หนึ่งในสุดยอดนักวิทยาศาสตร์ของไทย ทิ้งท้ายให้ชวนคิด
แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นกับการทดลองเปลี่ยนหัวในสัตว์ คืออะไร
ใช่…แม้การผ่าตัดเปลี่ยนหัวลิง จะประสบความสำเร็จ และเจ้าลิงในร่างใหม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 9 วัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เจ้าลิงตัวนี้ มันไม่ปกติ เพราะส่วนท่อนล่างตั้งแต่คอลงไป หลังการผ่าตัดเปลี่ยนหัว มันไม่ยอมทำงานร่วมกับสมองใหม่ ทำให้ร่างตั้งแต่คอลงไปไม่ยอมทำงาน ก็แปลว่ามันไม่ตาย แม้ตามองเห็น เลือดจากหัวใจสูบฉีดไปเลี้ยงสมองได้ แต่ไม่สามารถควบคุมร่างกายให้ขยับเหมือนเป็นปกติได้ ซึ่งก็แปลว่าปัญหาใหญ่ของเรื่องนี้ คือ การเชื่อมต่อระหว่างไขสันหลังของร่างกายกับของสมองไม่เข้ากัน
...
เพราะฉะนั้น เฉพาะเพียงการผ่าตัดเปลี่ยนหัวคนแล้วไม่ตาย นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่รวมทั้งตัวผมเอง ก็เชื่อว่าด้วยวิทยาการปัจจุบัน น่าจะสามารถทำได้ แต่เมื่อทำไปแล้ว จะอยู่ได้นานแค่ไหน และจะสามารถทำให้สมองสั่งการร่างกายใหม่ได้นั้น ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามคำโตอยู่...
เปลี่ยนหัวคน สร้างชีวิตใหม่ วงการวิทยาศาสตร์ เห็นด้วยหรือคัดค้าน
...
ในประเด็นนี้ ส่วนใหญ่คัดค้าน โดยมีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งให้คำนิยามการผ่าตัดเปลี่ยนหัวสร้างชีวิตใหม่ ซึ่งตรงกับความคิดเห็นส่วนตัวของผมว่า "ผู้ป่วย อาจจะอยู่ในสภาพยิ่งกว่าตาย" คือแม้สมองจะทำงานแต่ร่างกายเป็นอัมพาตทั้งตัว
เปลี่ยนหัวได้สำเร็จแล้ว ทำไมร่างกายส่วนล่างไม่ตอบรับ
เพราะธรรมชาติของมนุษย์ ไม่มีวันยอมรับร่างกาย หรือชิ้นส่วนอวัยวะของบุคคลอื่น หากมีสิ่งแปลกปลอมใดๆ เข้ามาในร่างกาย ร่างกายจะต่อต้าน แต่…วลีทิ้งท้ายให้ท่านผู้อ่านชวนคิดอีกแล้ว
…เพราะวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ แสดงให้เห็นแล้วว่า การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะในปัจจุบัน ซึ่งก็คือการนำอวัยวะใหม่ไปใส่ในร่างกายของมนุษย์ ได้สำเร็จมาแล้ว เพียงแต่เมื่อใช้วิธีการดังกล่าว ผู้ป่วยจะต้องกินยาเพื่อไม่ให้เกิดการต่อต้านตลอดชีวิตเท่านั้นเอง
ถ้างั้นแปลว่า การผ่าตัดเปลี่ยนหัวคน หากใช้คนที่เป็นพี่น้องหรือญาติ ซึ่งมีโครโมโซมใกล้เคียงกัน ก็มีทางสำเร็จใช่หรือไม่...
อ.ชัยวัฒน์ หยุดคิดนิดหนึ่ง ก่อนตอบว่า "ร่างกายก็อาจต่อต้านกันน้อยลง แต่ก็ต่อต้านอยู่ดี"
ขอคำเฉลย วิธีการผ่าตัดเปลี่ยนหัวคน
สำคัญที่สุดประการแรก คือ ต้องผ่าตัดแทบจะทันทีหลังการเสียชีวิต เพราะสมองจะขาดเลือดไปเลี้ยงได้เพียงไม่กี่นาที หรืออาจจะเพียง 2-3 นาที เท่านั้น มิเช่นนั้น สมองจะตาย ถามว่าตัดหัวไปต่อ แค่ไหนถึงจะพอ ส่วนตัวก็คิดว่าน่าจะถึงระดับคอ เพื่อให้สามารถไปเชื่อมต่อกับกระดูกสันหลังของร่างใหม่ได้ เพราะฉะนั้นวิธีการของการดำเนินการครั้งนี้ จึงถูกเผยออกมานิดหน่อยแล้วว่า จะต้องทำให้อาสาสมัครชาวรัสเซีย ผู้กล้าหาญรายนี้ อยู่ในสภาพโคม่า หรือไม่มีความรู้สึกใดๆ และขยับร่างกายไม่ได้เป็นเวลาถึง 4 อาทิตย์ เพราะหากร่างกายมีการขยับเขยื้อนแม้เพียงเล็กน้อย การผ่าตัดที่สลับซับซ้อนเพื่อเชื่อมต่อเส้นประสาทและเส้นเลือดจำนวนมหาศาลของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขสันหลัง ซึ่งเดิมก็ยากอยู่แล้วให้ยิ่งยากขึ้นไปเป็นเท่าทวี แต่...คำทิ้งท้ายชวนสงสัยมาอีกแล้ว
อ.ชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ปริศนาที่ถูกแพลมออกมา ในประเด็นการให้คนไข้อยู่ในสภาพโคม่า เป็นเวลาถึง 4 อาทิตย์ นี่แหละ เป็นเรื่องที่ทำให้หลายฝ่ายงุนงงสงสัย และเกิดการตั้งคำถามตามมา เพราะวงการวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน ยังไม่เคยพบว่า คนไข้ที่อยู่ในสภาพโคม่ามายาวนาน และอาจจะนานระดับ 4 อาทิตย์อย่างที่กล่าวอ้างนั้น เมื่อฟื้นขึ้นมาแล้วร่างกายจะเป็นปกติ
ที่ไหนในโลก จะยอมให้เกิดการผ่าตัด ที่ยังทิ้งคำว่า "ศีลธรรม" และ "กฎหมาย" ไม่ขาดเช่นนี้
สหรัฐอเมริกา คงไม่ใช่แน่ เพราะแม้แต่การทำโคลนนิ่งมนุษย์ ก็ยังไม่สามารถทำบนแผ่นดินอเมริกาได้ ล่าสุด ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่คิดว่าอาจจะไปลักลอบทำกันลับๆ ตามหมู่เกาะแห่งใดสักแห่งหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องข้อกฎหมาย เพราะต้องไม่ลืมว่า การผ่าตัดลักษณะนี้ ซึ่งหมายถึงการตัดศีรษะมนุษย์นั้น หากเกิดผิดพลาดเพียงเล็กน้อย คนไข้ก็อาจจะเสียชีวิตได้ทันที ซึ่งนั่นก็แปลว่าผู้ที่ดำเนินการผ่าตัดจากที่อาจจะเป็น "พระเจ้า" ก็จะกลายเป็น "ฆาตกร" ไปในทันที
ระยะเวลา 2 ปี ด้วยวิทยาการปัจจุบัน จะสามารถทำให้ คนเปลี่ยนหัวคน สำเร็จได้ไหม
นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ เชื่อว่าภายใน 2 ปีนี้ ตามที่นายแพทย์อิตาลี ประกาศนั้น น่าจะยังไม่สำเร็จ แต่อนาคตในอีกสัก 100 ปี คิดว่าน่าจะสำเร็จ เพราะปัจจุบันข้อมูลเรื่องการเชื่อมต่อหัวกับร่างกาย มีมากพอจนสามารถทำได้แล้ว เหลือแต่เพียงการเชื่อมต่อแล้วจะทำอย่างไรให้ร่างกายทำงานร่วมไปกับสมองอันใหม่ได้เท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ยังต้องศึกษาต่อไป
หากทำสำเร็จ คนไข้จะเป็นอย่างไร จะเป็นคนสองบุคลิกหรือไม่ เพราะมีสองคนในร่างเดียว
หากทำได้จริง...ร่างกายก็คงวุ่นวายน่าดู เพราะคงเกิดการต่อต้านกันภายในร่างกาย และคงต้องกินยาตลอดชีวิต เพื่อลดการต่อต้าน (หัวเราะ) แต่คิดว่าก็คงเป็นคนบุคลิกเดียว และยังเป็นคนเดิมตามสมองของเค้า เพราะสมองคือส่วนที่สำคัญที่สุด เพียงแต่อาจจะเป็นคนที่มี 2 DNA เพราะ DNA ของสมองและร่างนั้น เป็นคนละชุดกัน ซึ่งอาจจะทำให้กระบวนการผลิตสเปิร์มไม่ปกติ อันนี้แหละ ที่อาจเปิดช่องให้คิดไปไกลถึงขั้น หากคนที่ทำการผ่าตัดเปลี่ยนหัวสำเร็จ เกิดไปมีลูกขึ้นมา ก็อาจเป็นไปได้ที่จะให้กำเนิดบุตรที่มีลักษณะของการกลายพันธุ์ หรือ Mutation ตามนวนิยายวิทยาศาสตร์ก็เป็นได้ (หัวเราะ) อ.ชัยวัฒน์ กล่าวเจือเสียงปนหัวเราะ.