วันที่ 14 เมษายนเป็นวันครอบครัว ผมพาครอบครัวไปกินข้าวที่ Community Mall แห่งใหม่ที่ท่ามหาราช คุณพ่อผมแปลกใจว่ามีสถานที่กินข้าวอย่างนี้ด้วยเหรอ ผมก็บอกท่านว่า ในความทรงจำของผมในสมัยที่เรียนธรรมศาสตร์ เพื่อนผมเคยเอารถมาจอดรถที่นี่ และอีกครั้งเมื่อผมเคยนั่งกินข้าวที่ร้าน S&P เพื่อรอชมกระบวนพยุหยาตราชลมารคเมื่อนานมาแล้ว ผมก็ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันจะมีอะไรบ้าง เราต้องไปสำรวจกัน
ผมขับเลี้ยวเข้าท่ามหาราชช่วงเย็นๆ ราวสี่โมงครึ่ง ไปถึงคนเริ่มเยอะแล้วครับ เดินเข้าไปผมก็ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งปลูกสร้างใหม่ในสถานที่เก่า ภาพในอดีตที่เคยมีลานจอดรถและร้าน S&P เปลี่ยนไปหมดสิ้น ผมได้เจอคุณปิ๋ม - ณัฐปรี พิชัยรณรงค์สงคราม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุภัทรา เรียลเอสเตท จำกัด มาเดินดูความเรียบร้อยในการจัดกิจกรรมวันสงกรานต์พอดี ผมเลยขอคุยถึงที่มาที่ไปของโครงการนี้กันหน่อย คุณปิ๋มเล่าว่ามีความตั้งใจตั้งแต่เรียนจบว่าอยากจะพัฒนาที่ดินตรงนี้มานานแล้ว จึงมีการออกแบบด้านสถาปัตยกรรมให้สอดคล้องกับชุมชนที่เคยอยู่เดิม ตึกที่เห็นเป็นการรีโนเวตใหม่ให้สวยงาม สร้างท่ามหาราชให้เป็น Lifestyle Mall แห่งใหม่ให้กับเกาะรัตนโกสินทร์
คุณปิ๋มพาผมขึ้นไปดูชั้น 2 เห็นวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ลมพัดเย็นสบายมากครับ ด้านบนเป็นลานกิจกรรม สำหรับฟังดนตรีและนั่งพักผ่อนหย่อนใจ
...
ครอบครัวผมขอตัวไปรับประทานอาหารเย็นก่อน เราเลือกไปร้านเสวย กินอาหารไทย ถ้าใครมาเร็วอากาศยังร้อนอยู่ เข้าไปที่ร้านติดแอร์ด้านใน แต่ถ้าแดดร่มแล้ว ออกมาชมวิวกินบรรยากาศด้านนอกก็ชิลล์ดีครับ “สวยจริงๆ” ภรรยาผมกล่าวไว้
ผมเดินซอกแซกไปดูตึกเก่าที่รีโนเวต ปรากฏว่าเป็นตลาดพระติดแอร์ครับ เป็นแหล่งรวมพระเครื่องนับร้อยร้าน
พอพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน อากาศเย็นสบาย มีหลายโต๊ะเริ่มสั่งเครื่องดื่มต่างๆ มานั่งจิบไปเพลินๆ ระหว่างฟังวงดนตรีขึ้นมาเล่น
เดินมาดูฝั่ง Handmade Market มีทั้งเครื่องประดับ เสื้อผ้า ของแต่งบ้าน งานศิลปะที่ทำด้วยมือมาเปิดอยู่ด้านบน
...
คุณปิ๋มบอกว่ามีอีกตึกใกล้อาคารจอดรถที่คนนิยมขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกดิน เป็นพื้นที่สีเขียวให้คนได้พักผ่อน มองลงมาเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา วัดระฆัง วังหลัง อยู่ฝั่งตรงข้าม
ผมลงมาเดินเล่นด้านล่าง เพราะคึกคักไปด้วยร้านประจำและร้านที่มาออกงานเฉพาะกิจในอีเวนต์พิเศษ มีทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่มที่หลากหลาย
...
ครอบครัวผมแวะลงมากินไอติมละมุนกันคนละถ้วย เป็นไอศกรีมรสชาติไทยๆ เช่น มะม่วงอกร่อง มะพร้าวอ่อน สละ ชาเย็น กระทิงแดง เติมท็อปปิ้งได้ เช่น ข้าวเหนียว ถั่วทอง
ถ้ามาเป็นครอบครัวอยากหากิจกรรมให้ลูกๆ ทำก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ เช่น ร้อยโซ่สีสะท้อนแสงเป็นสร้อยห้อยโทรศัพท์มือถือหรือสายจูงสัตว์เลี้ยง มีเวิร์กช็อปงานศิลปะ
...
กิจกรรมที่ลูกชายผมชอบมากที่สุด (นั่งทำเกือบชั่วโมง) คือ ทำว่าวไทยครับ เริ่มตั้งแต่ขึ้นโครงและวาดรูประบายสีลงไปในว่าว
ผมคิดว่าถ้ามาวันธรรมดาขับรถมาจอดได้ เลยครับ เพราะมีอาคารจอดรถ 5 ชั้นจอดรถได้ 213 คันรองรับได้สบายๆ แต่ถ้าขับมาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ใครมาช้าอาจจะเต็ม ขับไปจอดใกล้ๆ ที่วัดมหาธาตุก็ได้ (มีค่าจอดรถ) แล้วเดินมา หรือจะไปจอดรถที่ราชนาวีสโมสร (จอดได้ตั้งแต่ 4 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม)
ถ้าใครจะมาเส้นทางอื่นก็น่าสนุกดีครับ เช่น ลงรถไฟฟ้า BTS ท่าเรือสะพานตากสิน แล้วนั่งเรือด่วนเจ้าพระยา (เหลือง เขียว ส้ม) มาลงท่าพรานนก/วังหลัง หรือท่าช้าง แล้วนั่งเรือมาลงท่ามหาราชอีกที
บริเวณท่ามหาราชมีท่าเทียบเรือถึง 3 ท่าอยู่ในบริเวณเดียวกัน ท่าวัดมหาธาตุเป็นท่าเรือข้ามฟากไปวังหลังและศิริราช ท่ามหาราชสำหรับบริการเรือนักท่องเที่ยว ท่าเรือส่วนตัวสำหรับร้านอาหาร
หรือใครจะขี่จักรยานมาก็สนุกดีครับ หลังจากขี่เที่ยวชมเกาะรัตนโกสินทร์เสร็จแล้ว ก็เข้ามารับประทานอาหารและพักผ่อนได้ที่นี่ มีที่จอดจักรยานไว้ให้ด้วยครับ
รอค่ำๆ ท่ามหาราชเปิดไฟแล้วยิ่งสวยครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับท่ามหาราช : เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา มีร้านค้า 42 ร้าน ร้านอาหารแบบนั่งกินจริงจัง 10 ร้าน คาเฟ่ ร้านขนม และร้านประเภท Grab & Go อีก 10 กว่าร้าน เปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึง 4 ทุ่ม เดือนหน้าจะเปิด Muay Thai Lab สอนมวยไทยกับชาวต่างชาติ มีการแสดงมวยไทยให้ดูด้วย ดูแล้วท่ามหาราชเป็นสถานที่ที่ไม่ใหญ่เกินไปจนเดินไม่ทั่ว แต่ก็ไม่เล็กเกินไปจนลองชิมได้หมดทุกร้านในครั้งเดียว
ถ้าใครกำลังหาที่ hang out กินข้าวนอกบ้าน หรือพาเพื่อนต่างชาติมาเที่ยว ผมว่ามาที่ท่ามหาราชลงตัวที่สุดครับ เพราะมีเสน่ห์ของแหล่งชุมชนที่เก่าแก่ อยู่ท่ามกลางสถานที่สำคัญของเกาะรัตนโกสินทร์ และปรับเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนกรุง แถมเดินทางมาได้หลากหลายเส้นทาง เหมาะกับการพักผ่อนเพลินๆ ที่ “เข้าท่า” ดีครับ