คงยังไม่ช้าเกินไปที่จะเอ่ยถึงปฏิบัติการ “ฟ้าสางที่สมุย”

ภารกิจต่อเนื่อง หลังจากที่ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบก.ป. เป็นหัวหน้านำ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.ท.วีระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผกก. พ.ต.ท.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล พ.ต.ต.เหมจักร บุนนาค สว.กก.5 บก.ป เข้าไปสืบสวนคดีฆ่า นายพนัส เค้าอุทัย หรือ โกแท็ก บ่อผุด ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

เหยื่อถูกมือปืนยิงอย่างอุกอาจกลางถนนคนเดินในถิ่นตัวเองต่อหน้าชาวบ้านนับร้อย

กองปราบปรามที่ลงไปทำงานในพื้นที่ร่วมกับตำรวจ บช.ภ.8 จับกุม นายชลิต บุญสา นายไฉน สุขสม นายสามารถ บุญสิน หรือ แดง ฉ. ผู้จ้างวาน นายชยุตม์ แก้วอร่าม มือปืน และ นายสุวิทย์ ทองสุก ส่วน นายเจริญ สีแสง มือปืนจอมโหดอีกรายติดต่อขอมอบตัวในเวลาต่อมา

แต่ด้วยความที่ทั้ง 2 ฝ่ายทั้งผู้ตายและผู้ต้องหาต่างเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รกน.ผบช.ก. จำเป็นต้องกำชับ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. เปิดปฏิบัติการ “ฟ้าสางที่สมุย” มาใช้จัดการกับผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างในพื้นที่ เพื่อกำราบไม่ให้รวมตัวสางแค้นกันอีก

มีรูปแบบเหมือนกับปฏิบัติการ “นครศรีธรรมราชโมเดล” ที่มี พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รรท.ผกก.ปพ. บก.ป. นำตำรวจคอมมานโดพร้อมอาวุธสนธิกำลังตำรวจภูธรภาค 8 รวมแล้วกว่า 300 นาย ปล่อยแถวปูพรมออกกวาดล้างตั้งแต่ช่วงฟ้าสาง

ใช้เฮลิคอปเตอร์บินโรยตัวคอมมานโดลงมายังสถานที่เป้าหมายอย่างยากลำบาก

ผลการปิดล้อมตรวจค้นทั้ง 23 จุดทั่วเกาะสมุย แม้ได้ปืนแค่ 26 กระบอก กระสุน 835 นัด แต่วัตถุประสงค์สำคัญ คือ เป็นการประกาศเตือนให้กลุ่มผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างที่คิดจะก่อเหตุรับงานต่อไปจงตระหนักไว้ว่า ถ้าในพื้นที่มีปัญหาเกิดขึ้น มีการใช้อาวุธปืนหรืออาวุธสงครามถล่มสังหารคู่อริล้มตายยังคงมีเกิดขึ้นอีก

...

กองปราบปรามจะลงไปจัดการขั้นเฉียบขาด

ถือเป็นการส่งสัญญาณทักทายไปถึงกลุ่มผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศของ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป.

สหบาท