(ภาพ: REUTERS)

พล.อ.อเล็กซานเดอร์ เล็นท์ซอฟ ผบ.ศูนย์ความร่วมมือเพื่อการควบคุมและประสานงานแห่งกองทัพยูเครน (JCCC) ผู้รับผิดชอบการเจรจายุติความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลยูเครนและกองกำลังแบ่งแยกดินแดนฝักฝ่ายรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครน แถลงข่าวเมื่อ 22 ก.พ.ว่าตัวแทนรัฐบาลและกองกำลังแบ่งแยกดินแดน ได้ร่วมกันลงนามยอมรับแผนการถอนกำลังอาวุธหนักออกจากพื้นที่สู้รบในเมืองต่างๆ ทางตะวันออกของยูเครนเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ซึ่งมีเงื่อนไขว่าทั้งสองฝ่ายต้องถอนกำลังอาวุธหนักออกจากพื้นที่ที่ตกลงกันไว้ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 14 วันหลังจากลงนาม โดยมีกำหนดเส้นตายถอนกำลังอาวุธให้เรียบร้อยภายในวันที่ 8 มี.ค.

นอกจากนี้ นายเอ็ดดูวาร์ด บาซูริน โฆษกกองกำลังแบ่งแยกดินแดนฝักฝ่ายรัสเซีย แถลงข่าวว่ารัฐบาลและกองกำลังฯ ได้ตกลงแลกเปลี่ยนตัวประกัน 191 ราย ได้แก่ ทหารยูเครน 139 นาย และนักรบกลุ่มแบ่งแยกดินแดน 52 ราย อันเป็นเงื่อนไขในแผนเจรจาสงบศึกระหว่างรัฐบาลยูเครนและกองกำลังฝ่ายต่อต้าน ซึ่งได้รัฐบาลฝรั่งเศสและเยอรมนีเป็นตัวกลางผลักดันให้เกิดขึ้น โดยการลงนามในข้อตกลงความเข้าใจในแผนดังกล่าวเกิดขึ้นที่กรุงมินสก์ เมืองหลวงเบลารุส เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม แม้คู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่ายในยูเครนได้ลงนามยอมรับเงื่อนไขหยุดยิงชั่วคราว แต่ยังมีเหตุยิงปะทะเกิดขึ้นประปรายในหลายเมืองทางตะวันออก ทั้งเมืองเพสกี, เมืองโซโลบ็อก, เมืองเชียโรคีน และเมืองดีบัลท์เซเว รวมถึงเหตุระเบิดในเมืองโดเนตสก์และเมืองลูฮานสก์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน โดยทั้งกองทัพยูเครนและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนต่างกล่าวโทษว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงก่อน แต่เหตุปะทะไม่รุนแรงเพราะยังไม่มีผู้เสียชีวิต ขณะที่นายวิกเตอร์ ยานูโควิช อดีตประธานาธิบดียูเครนผู้ฝักใฝ่รัสเซีย ซึ่งถูกประชาชนในกรุงเคียฟของยูเครนชุมนุมขับไล่พ้นจากตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว ให้สัมภาษณ์สื่อฝ่ายต่อต้านรัฐบาลว่าตนจะกลับมาในอีกไม่นาน

...

วันเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯแถลงว่า จะพิจารณามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมหากมีการเคลื่อนไหวต่อต้านการเจรจาสงบศึกระหว่างรัฐบาลยูเครนกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดน พร้อมระบุว่าสถิติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ความไม่สงบในยูเครนตลอด 10 เดือนที่ผ่านมามีจำนวนประมาณ 5,700 ราย.