ทางการโปแลนด์จัดงานรำลึกครบรอบ 70 ปี ปลดปล่อยค่ายกักกันชาวยิวสุดโหด ‘เอาชวิตซ์’ โดยกองทัพนาซี เยอรมนี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ผู้รอดชีวิตเตือน ไม่ต้องการให้อดีตของพวกตน เป็นสิ่งที่ลูกหลานต้องเจอในอนาคต
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ทางการประเทศโปแลนด์จัดงานรำลึกการปลดปล่อยค่ายกักกันชาวยิว ‘เอาชวิตซ์’ ครบรอบ 70 ปี โดยมีชาวยิวที่รอดชีวิตจากความเหี้ยมโหดของค่ายกักกันแห่งนี้ ราว 300 คน มาร่วมในงาน
ขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ พร้อมด้วยนายกรัฐมนตรีเดวิด แคเมอรอน แห่งอังกฤษ ได้ร่วมในงานรำลึกเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวสากล เมื่อ 27 ม.ค. ณ อาคารรัฐสภา ในกรุงลอนดอน เช่นเดียวกับ ผู้นำรัฐบาลชาติตะวันตกหลายประเทศได้ร่วมในงานเพื่อรำลึกถึงชาวยิวที่เสียชีวิตที่ค่ายกักกันเอาชวิตซ์ ซึ่งถือเป็นค่ายกักกันและค่ายมรณะที่ใหญ่ที่สุด ในบรรดาค่ายกักกันของนาซี เยอรมนี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
‘พวกเราที่รอดชีวิตจากค่ายกักกันแห่งนี้ไม่ต้องการให้อดีตของพวกเรา เป็นสิ่งที่ลูกหลานของเราต้องเจอในอนาคต’ นายโรมัน เคนต์ วัย 86 ปี หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากค่ายกักกันเอาชวิตซ์กล่าว ขณะที่นายโรนัลด์ เอส.ลอเดอร์ ประธานสภาชาวยิวโลก กล่าวในพิธีรำลึกว่า ชาวยิวได้ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีในยุโรปอีกครั้ง เพราะพวกเขาเป็นชาวยิว
...
ทั้งนี้ มีประชาชนผู้เคราะห์ร้าย ราว 1.1 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวยิวจากเกือบทุกประเทศในยุโรป ถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดในช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างปี 2483-2488 โดยผู้ประสบชะตากรรมเกือบทั้งหมดถูกสังหารในห้องรมก๊าซ รวมทั้งเสียชีวิตจากความอดอยาก การบังคับใช้แรงงานทาส การขาดการดูแลทางสุขภาพ การถูกสังหารตัวต่อตัว และการทดลองทางแพทย์ ก่อนที่ กองทัพรัสเซีย ซึ่งอยู่ฝ่ายกองทัพพันธมิตรจะมาปลดปล่อยค่ายกักกันชาวยิว เอาชวิตซ์ เมื่อปี 2488
ขณะที่สหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ 27 ม.ค. เป็นวันรำลึกการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุสากล หรือโฮโลคอสต์ (Holocaust) เพื่อรำลึกถึงเหยื่อเคราะห์ร้ายกว่า 6 ล้านคนที่ถูกสังหารโดยกองทัพนาซี เยอรมนี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
...